บริษัทเอกชน

ข้อมูลปี พ.ศ. 2565 บริษัทข้ามชาติมากกว่า 300 แห่งได้ตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคและศูนย์วิจัยและพัฒนา และบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 กว่า 130 แห่งได้จัดตั้งสาขาในเขตสาธิตนวัตกรรมอิสระแห่งชาติจงกวนชุน ปริมาณการส่งออกรวมขององค์กรในเขตสาธิตนวัตกรรมอิสระแห่งชาติจงกวนชุนอยู่ที่ 320.23 พันล้านหยวน และรายได้รวมจะอยู่ที่ 8.7 ล้านล้านหยวน คิดเป็นประมาณ 1/6 ของของโซนไฮเทคระดับประเทศ

ในปี พ.ศ. 2565 บริษัท 4,244 แห่งในจงกวนชุนแต่ละแห่งมีรายได้ต่อปีเกิน 100 ล้านหยวน (14.1 ล้านเหรียญสหรัฐ)

เบื้องหลังการเติบโตของจงกวนชุนคือการแสวงหาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน     จากข้อมูลของ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระบุว่า ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาของประเทศได้เพิ่มขึ้นจาก 1 ล้านล้านหยวน (141 พันล้านดอลลาร์) เป็น 3.09 ล้านล้านหยวน (435 พันล้านดอลลาร์) ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อันดับในดัชนีนวัตกรรมโลกขยับจากอันดับที่ 34 ในปี 2012 เป็นอันดับที่ 11 ในปี 2022

Zhongguancun Development Group (ZGC Group) 

Zhongguancun Development Group (ZGC Group) ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ด้วยพันธกิจที่สอดคล้องกันในการให้บริการการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม มุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างและแบ่งปันปัจจัยด้านนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอุตสาหกรรมของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความสำเร็จ มีการใช้ทรัพยากรนวัตกรรมทั่วโลกโดยการสร้างสวนสาธารณะไฮเทค การลงทุน การจัดหาเงินทุนและบริการระดับมืออาชีพ และอื่น ๆ ปัจจุบันได้กลายเป็นส่วนสำคัญของนวัตกรรมจงกวนชุนและระบบนิเวศผู้ประกอบการ

การดำเนินงานด้านพื้นที่นวัตกรรม : มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาร่วมกันของ “สามเมืองและหนึ่งเขต” และ “หนึ่งเขตและหลายอุทยาน” ให้บริการอุทยานวิทยาศาสตร์คุณภาพสูงสำหรับองค์กรและโครงการที่ใช้นวัตกรรมตามการดำเนินงานของ Tech Park ได้ลงทุนกว่า 86 พันล้านหยวน (12.43 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ในการสร้าง SCI-Tech Parks 

การลงทุนอุตสาหกรรม : มุ่งไปที่เทคโนโลยีล้ำสมัยและคลัสเตอร์อุตสาหกรรมระดับไฮเอนด์ที่มุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมข้อมูล อุตสาหกรรมสุขภาพ การปกป้องสิ่งแวดล้อม และการผลิตอัจฉริยะและอุตสาหกรรมเกิดใหม่เชิงกลยุทธ์อื่น ๆ ZGC Group มีส่วนร่วมในการจัดตั้งกองทุน 107 กองทุน โดยมียอดจองซื้อรวม 96.867 พันล้านหยวน (14.04 พันล้านดอลลาร์) บริษัทได้ลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านหยวน (5.80 พันล้านดอลลาร์) ในพอร์ตการลงทุนมากกว่า 2,000 พอร์ตผ่านกองทุนและทุนของตนเอง

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเงิน : มุ่งไปที่แนวโน้มใหม่และความต้องการด้านนวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการ พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น การรับประกันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สินเชื่อด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ให้บริการเงินกู้แก่องค์กรธุรกิจมากกว่า 200 พันล้านหยวน และให้บริการเกือบ 400 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศและต่างประเทศ

บริการเทคโนโลยี : ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับหลายปัจจัยอย่างมืออาชีพ โดยพยายามตอบสนองความต้องการของนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริการอุตสาหกรรม เราทำงานเพื่อเสริมจุดอ่อนของบริการ ขยายห่วงโซ่บริการ และเพื่อให้องค์กรต่างๆ บริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียวแบบครบวงจร สร้างระบบนิเวศแห่งนวัตกรรมสำหรับการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม

บริการนวัตกรรมของจีน : มุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมการทำงานร่วมกันระหว่างปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ยและสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีข้ามภูมิภาค ดำเนินโครงการสำคัญหลายโครงการโดยเฉพาะในเทียนจินและมณฑลเหอเป่ย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างนวัตกรรมการทำงานร่วมกันในระดับภูมิภาคชั้นนำ ได้จัดตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนด้านนวัตกรรมเพื่อความร่วมมือแห่งแรก ZGC Innovation Zone และ ZGC Information Valley

บริการนวัตกรรมระดับโลก : ส่งเสริมความเป็นสากล วางโครงสร้างกลไกการบ่มเพาะข้ามพรมแดนใหม่สำหรับการเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม รวมถึงนักวิทยาศาสตร์ในต่างประเทศ สถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์รูปแบบใหม่ในจงกวนชุน

ภาพ : Chinareportasean.com

Lenovo Group Ltd.

Lenovo เป็นบริษัทเทคโนโลยี ICT ระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีน โดยมีการดำเนินงานใน 180 ประเทศ Lenovo ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระดับโลก พัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมดิจิทัลที่ครอบคลุม น่าเชื่อถือ และยั่งยืนมากขึ้น เป็นผู้นำและส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนแปลงของยุคใหม่แห่งปัญญา และสร้างประสบการณ์และโอกาสที่ดีขึ้น

ธุรกิจหลักของ Lenovo ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) IDG Smart Device Business Group มุ่งเน้นเทคโนโลยี Internet of Things (2) ISG Infrastructure Solution Business Group มุ่งเน้นโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ (3) SSG Solution Service Business Group มุ่งเน้นอุตสาหกรรมอัจฉริยะและบริการ  มีพนักงานประมาณ 77,000 คนทั่วโลก ในปีงบประมาณ 2022/23 มูลค่าการซื้อขายโดยรวมของ Lenovo สูงถึง 424 พันล้านหยวน

ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านอุปกรณ์อัจฉริยะ Lenovo ได้มอบอุปกรณ์เทอร์มินัลอัจฉริยะหลายร้อยล้านเครื่อง ซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ให้กับผู้ใช้ทั่วโลกทุกปี ในปี 2565 ยอดขายพีซีของ Lenovo ครองอันดับหนึ่งของโลก  ในฐานะซัพพลายเออร์ชั้นนำของโลกด้านโซลูชันดิจิทัลและอัจฉริยะระดับองค์กร Lenovo ส่งเสริมการพัฒนา “อุปกรณ์ + คลาวด์” และ “โครงสร้างพื้นฐาน + คลาวด์” ในอุตสาหกรรมอย่างแข็งขัน ตลอดจนการนำโซลูชันอัจฉริยะไปใช้เมื่อเผชิญกับโอกาสในการยกระดับอุตสาหกรรมสำหรับการเปลี่ยนแปลงอัจฉริยะรอบใหม่ Lenovo ได้เสนอกลยุทธ์ของการเปลี่ยนแปลงอัจฉริยะ โดยเน้นที่ 3 ทิศทางของ Smart IoT, Smart Infrastructure และ Smart Verticals & Services

Lenovo Beijing Future Center

Lenovo Beijing Future Center มีพื้นที่รวม 6,500 ตร.ม. จัดแสดงเทคโนโลยีสถานการณ์การใช้ชีวิตอัจฉริยะ (smart life) และการแก้ปัญหาทางอุตสาหกรรม (industry solutions) ที่หลากหลาย ภายในมี 3 ชั้น 

ชั้น 1 Smart Lifestyle: Consumers แสดงความสำเร็จของ Lenovo ในด้านความเป็นสากล การคำนวณ และการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และเน้นประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบอัจฉริยะในปัจจุบันและที่กำลังที่จะมาถึงของ Lenovo

ชั้น 2 Smart Verticals: Commercial customers and partners แสดงการแก้ปัญหาทางอุตสาหกรรมอัจฉริยะของ Lenovo สำหรับอุปกรณ์เชิงพาณิชย์ ศูนย์ข้อมูล และอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงการผลิต การดูแลสุขภาพ และการศึกษา

ชั้น 3 Next Space เป็นพื้นที่เปิดเพื่อหารือเกี่ยวกับนวัตกรรมและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ทำหน้าที่เป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วัฒนธรรม ศิลปะ และอื่น ๆ

Baidu, Inc

ไป่ตู้ (Baidu) เป็นบริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชั้นนำที่มีรากฐานอินเทอร์เน็ตที่แข็งแกร่ง ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2543 ในจงกวนชุน กรุงปักกิ่ง ผู้ก่อตั้ง โรบิน ลี เป็นเจ้าของสิทธิบัตรเทคโนโลยี “การวิเคราะห์ไฮเปอร์ลิงก์” ซึ่งทำให้จีนเป็นหนึ่งในสี่ประเทศเดียวในโลกที่มีเทคโนโลยีหลักของเสิร์ชเอ็นจิ้น (search engines) นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา รัสเซีย และเกาหลีใต้ 

จากเสิร์ชเอ็นจิ้น ไป่ตู้ได้พัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เช่น เสียงพูด รูปภาพ กราฟความรู้ และการประมวลผลภาษาธรรมชาติ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไป่ตู้ลงทุนในสาขาที่ล้ำสมัย เช่น การเรียนรู้เชิงลึก ปฏิบัติการปัญญาประดิษฐ์เชิงสนทนา ระบบ การขับขี่อัตโนมัติ และชิป AI ไป่ตู้ได้กลายเป็นบริษัท AI ชั้นนำที่มีรากฐานอินเทอร์เน็ตที่แข็งแกร่ง

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การลงทุนด้าน R&D สะสมมีมูลค่าเกิน 100 พันล้านหยวน ในปี 2565 ค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาหลักของไป่ตู้ จะคิดเป็น 22.4% ของรายได้ และการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาจะอยู่ในระดับแนวหน้าของบริษัทเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ของจีน ไป่ตู้ครองอันดับหนึ่งในจำนวนคำขอสิทธิบัตรปัญญาประดิษฐ์และการอนุญาตในจีนเป็นเวลาห้าปีติดต่อกัน

Beijing Douyin Information Service Co. Ltd.  (Bytedance)

ByteDance ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2555 โดยทีมที่นำโดย Yiming Zhang และ Rubo Liang ซึ่งมองเห็นโอกาสในตลาดอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่เพิ่งเกิดขึ้นในขณะนั้นและมุ่งมั่นที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่สามารถยกระดับชีวิตผู้คน บริษัทเปิดตัว Toutiao ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เรือธงของบริษัท ในเดือนสิงหาคม 2555 ตามมาด้วยความสำเร็จด้วยการเปิดตัว Douyin ในเดือนกันยายน 2559 ประมาณหนึ่งปีต่อมา ByteDance ได้เร่งกระแสโลกาภิวัตน์ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์วิดีโอสั้นระดับโลกอย่าง TikTok อย่างรวดเร็วในตลาด อย่างเช่น เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ByteDance ได้ทำให้การเชื่อมต่อ สร้าง และบริโภคเนื้อหาเป็นเรื่องง่ายและสนุก นอกจากนี้ ผู้คนยังสามารถค้นพบและทำธุรกรรมด้วยชุดผลิตภัณฑ์และบริการมากกว่าหนึ่งโหล เช่น เช่น TikTok, CapCut, TikTok Shop, Lark, Pico และ Mobile Legends: Bang Bang รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการเฉพาะสำหรับตลาดจีน ได้แก่ Toutiao, Douyin, Fanqie, Xigua, Feishu และ Douyin E-commerce

ByteDance มีพนักงานมากกว่า 150,000 คนในเกือบ 120 เมืองทั่วโลก อาทิ ออสติน บาร์เซโลนา ปักกิ่ง เบอร์ลิน ดูไบ ดับลิน ฮ่องกง จาการ์ตา ลอนดอน ลอสแองเจลิส นิวยอร์ก ปารีส ซีแอตเทิล โซล เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น สิงคโปร์ และโตเกียว

โครงสร้างองค์กร

ภาพ : wwd.com

JD.com, Inc.

ในปี 2547 JD.com ก้าวเข้าสู่วงการอีคอมเมิร์ซอย่างเป็นทางการ และในปี 2561 ปริมาณธุรกรรมในตลาดของ JD.com Group อยู่ที่เกือบ 1.7 ล้านล้านหยวน ในเดือนกรกฎาคม 2562 JD Group ติดอันดับ Fortune Global 500 เป็นครั้งที่สี่ โดยอยู่ในอันดับที่ 139 และเป็นกลุ่มค้าปลีกออนไลน์และออฟไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน

ในเดือนพฤษภาคม 2557 Jingdong Group จดทะเบียนอย่างเป็นทางการในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ในสหรัฐอเมริกา โดยเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรขนาดใหญ่แห่งแรกของจีนที่ประสบความสำเร็จในการจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา ในเดือนกรกฎาคม 2558 JD.com ได้รับเลือกให้อยู่ใน Nasdaq 100 Index และ Nasdaq 100 Average Weighted Index เนื่องจากการเติบโตที่สูง

ปัจจุบัน ธุรกิจของบริษัทเกี่ยวข้องกับการค้าปลีก เทคโนโลยีดิจิทัล โลจิสติกส์ บริการทางเทคนิค สุขภาพ ประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ด้านโลจิสติกส์ คลาวด์คอมพิวติ้ง AI และต่างประเทศ ซึ่งมีธุรกิจหลักได้แก่ การค้าปลีก เทคโนโลยีดิจิทัล โลจิสติกส์ และบริการด้านเทคนิค

SHAREit Group

“แชร์อิทกรุ๊ป” (SHAREit Group) ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 เป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก มุ่งเน้นการพัฒนาแอปพลิเคชันอินเทอร์เน็ตบนมือถือและบริการดิจิทัลเป็นหลัก แอป SHAREit ได้รับการติดตั้งโดยผู้ใช้มากกว่า 2.4 พันล้านคนทั่วโลก เครือข่ายธุรกิจมีมากถึง 200 ประเทศและภูมิภาคใน 45 ภาษาที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นแอปสำหรับแชร์และสตรีมคอนเทนต์ดิจิทัลของบริษัท ติดอันดับที่ 4 ของแอปพลิเคชันด้านสื่อที่มีปริมาณการใช้งานและกำลังในหมวดหมู่นอกเหนือจากบริการประเภทเกม และติดอันดับที่ 7 ในดัชนีการซื้อภายในแอป (IAP) ทุกหมวดหมู่ นับเป็นอีกหนึ่งการเติบโตก้าวสำคัญของบริษัท นอกจากนี้ ยังติดอันดับที่ 8 ในดัชนีการรักษาผู้ใช้ทั่วโลกในทุกหมวดหมู่สำหรับจากปริมาณผู้ใช้จำนวนมาก

SHAREit Group ทำการวิจัยและพัฒนาแพลตฟอร์มโฆษณาของตนเองอย่างอิสระและออกแบบชุดโซลูชันทางเทคนิคที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่เริ่มต้น โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาดที่กำลังพัฒนาด้วยมุมมองแบบกลุ่มชนกลุ่มน้อย เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มโฆษณาของตนเองและออกแบบชุดโซลูชันทางเทคนิคที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่เริ่มต้น ตามดัชนีประสิทธิภาพ ApsFlver สำหรับครึ่งแรกของปี 2020 SHAREit ได้รับเลือกให้เป็นผู้เผยแพร่สื่อที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก

iSoftStone Information Technology Group Co., Ltd.

บริษัท iSoftStone ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 เป็นหนึ่งในบริษัทที่อยู่ใน Software Park อุทยานวิทยาศาสตร์ของกรุงปักกิ่ง เป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และบริการด้านไอทีชั้นนำของจีน ให้บริการซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการให้คำปรึกษ บริการทางเทคนิคทั่วไป บริษัทได้ให้บริการมากกว่า 10 อุตสาหกรรมที่สำคัญ โดยมีลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ 1,000 ราย ซึ่งมากกว่า 200 รายเป็นบริษัทที่ติดอันดับ Fortune Global 500 หรือบริษัทชั้นนำของจีน 500 แห่ง

บริษัทiSoftStone ให้การสนับสนุนทางเทคนิคระดับมืออาชีพในระดับสูงตั้งแต่การวิเคราะห์ความต้องการ           การออกแบบระบบไปจนถึงการพัฒนาและการใช้งาน การส่งมอบผลิตภัณฑ์ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้า ด้วยทีมพัฒนาระดับโลกที่มีประสบการณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ให้บริการลูกค้าด้วยการออกแบบและพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ที่ได้มาตรฐานและเป็นมืออาชีพ เพื่อให้ลูกค้าได้รับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่เสถียรและเชื่อถือได้ รวมถึงฟังก์ชั่นที่แปลกใหม่และไม่ซ้ำใคร ให้บริการเนื้อหาดิจิทัล และบริการกระบวนการทางธุรกิจด้วยเครื่องมือทางเทคนิคดิจิทัล ทักษะระดับมืออาชีพ และการดำเนินงานที่ได้มาตรฐาน

บริษัท iSOFTSTONE ได้หารือความร่วมมือการจัดทำนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม   เพื่อมุ่งเป้าตามยุทธศาสตร์ชาติ เรื่อง Smart City ของประเทศไทย