ปัจจุบัน ไทยยังเป็นตลาดน่าเข้าผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดของจีนในอาเซียน โดยข้อมูลจาก China Chamber of Commerce of Import & Export of Foodstuffs, Native Produce & Animal By-Products (CFNA) ชี้ว่า
(1) ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 จีนนำเข้าผลไม้และผลิตภัณฑ์ผลไม้จากไทยมูลค่า 6,770 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 และคิดเป็นร้อยละ 41.45 ของมูลค่าการนำเข้าผลไม้ทั้งหมดของจีน
(2) ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 จีนนำเข้าผลไม้จากเวียดนามมูลค่า 2,701 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 131.19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 และ
(3) ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 จีนนำเข้าทุเรียนจากเวียดนามมีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ซึ่งการส่งออกทุเรียนมาจีนของไทยเผชิญการแข่งขันจากเวียดนามที่มีต้นทุนต่ำกว่าจากความสะดวกในการขนส่งทางบกผ่านด่านโหย่วอี้กวานที่เขตฯ กว่างซี
นอกจากนี้ ในโอกาสครบรอบสองปีของการใช้บังคับของความตกลง RCEP เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2567 นางเหมา หนิง โฆษก กต. จีนตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า
(1) ความตกลง RCEP เป็นความคืบหน้าสำคัญ (milestone) ในการรวมกลุ่มทางภูมิภาค และเป็นต้นแบบที่ชัดแจ้งในการแบ่งปันโอกาสด้านการพัฒนาของประเทศในภูมิภาค
(2) ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ต้นทุนการค้าในภูมิภาคลดลงอย่างมาก ความเชื่อมโยงของห่วงโซ่ธุรกิจและ
ห่วงโซ่อุปทานแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นำมาซึ่งประโยชน์ที่แท้จริงให้แก่ประเทศสมาชิก และ
(3) จีนยึดมั่นในแนวคิดการพัฒนาแบบเปิดกว้างและผลักดันการดำเนินการตามความตกลง RCEP ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งสินค้าของประเทศสมาชิกสามารถเข้ามาในตลาดจีนด้วยต้นทุนการค้าที่ต่ำกว่าและผ่านขั้นตอนศุลกากรที่สะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 จีนนำเข้าทุเรียนสดจาก ปท. สมาชิก RCEP อาทิ ไทยและเวียดนาม มูลค่ารวม 46,610 ล้านหยวน (เพิ่มขึ้น 1.7 เท่าเมื่อเทียบกับตลอดทั้งปี 2564)
แหล่งที่มาของข้อมูล
1. 东盟水果进口大增 榴莲进口增七成
https://www.caixin.com/2024-01-05/102153486.html
2. 2024年1月10日外交部发言人毛宁主持例行记者会
https://www.fmprc.gov.cn/fyrbt_673021/202401/t20240110_11221227.shtml