โดยศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน
รัฐบาลเมืองหนิงเต๋อมีเป้าหมายจะพัฒนาฐานอุตสาหกรรมยาสมุนไพรจีนที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลฝูเจี้ยนและเป็นเขตอุตสาหกรรมยาสมุนไพรจีนที่มีลักษณะเฉพาะทางภาคใต้ของจีน โดยมีเป้าหมายขยายพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพรจีนรวม 83,333 ไร่ ผลผลิตรวม 63,800 ตันต่อปี และสร้างมูลค่าการผลิตรวม 1.1 พันล้านหยวนต่อปีภายในปี 2565
เมืองหนิงเต๋อได้รับการขนานนามว่าเป็น “คลังยาแห่งฝูเจี้ยนตะวันออก” โดยเมืองหนิงเต๋อมีความได้เปรียบทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมยาสมุนไพร เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับปลูกพืชสมุนไพรจีนอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีประวัติการปลูกมายาวนาน เมืองหนิงเต๋อมีผลผลิตการปลูกพืชสมุนไพรจีนหลายชนิดสูงเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ อาทิ ไท่จื่อเซิน พุดเหลือง การผลิตสมุนไพรจึงกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักของเมืองหนิงเต๋อที่สร้างรายได้แก่เกษตรกรและช่วยขยายอุตสาหกรรมการเกษตรในฝูเจี้ยนตะวันออกทั้งหมด โดยในปี 2564 เมืองหนิงเต๋อมียาสมุนไพรจีนกว่า 1,000 ชนิด ในจำนวนนี้ มี 227 ชนิดเป็นสายพันธุ์หลักของประเทศ
โอกาสของไทย การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่องทั่วโลก ทำให้คนจำนวนมากหันมาให้ความสนใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เริ่มมองหาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติหรือสมุนไพรที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันโรค รวมถึงดูแลภาวะทางอารมณ์มากขึ้น ซึ่งนับเป็นโอกาสทางธุรกิจของไทยในฐานะประเทศที่มีทั้งทรัพยากรและองค์ความรู้ในการใช้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพมาอย่างยาวนาน และเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมสมุนไพรที่จะสร้างความร่วมมือกับเมืองหนิงเต๋อ เช่น การจัดตั้งองค์กรเกี่ยวกับการวิจัยศึกษาพันธุ์พืชสมุนไพร ยาสมุนไพร การแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนจีน เพื่อการวิจัยและพัฒนาคุณภาพของยาสมุนไพรและการรักษาแผนโบราณให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
แหล่งอ้างอิง เว็ปไซต์ข่าวมณฑลฝูเจี้ยน
http://fj.sina.com.cn/news/s/2018-07-30/detail-ihfxsxzh9092656.shtml
webmaster
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู