มณฑลกุ้ยโจวในฐานะเป็นพื้นที่นำร่องบิ๊กดาต้าระดับชาติ (National Big Data Pilot Zone) แห่งแรกของจีนและได้พัฒนาบิ๊กดาต้าให้อยู่ในระดับแนวหน้าของจีน ได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปสนับสนุนการฟื้นฟูชนบทของมณฑล โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น “พื้นที่นำร่องหมู่บ้านดิจิทัลแห่งชาติ” 4 แห่งของมณฑล ได้แก่ อำเภอซีเฟิงในนครกุ้ยหยาง อำเภอเฉียนซีและอำเภอจินซาในเมืองปี้เจี๋ย และอำเภอหวีชิ่งในเมืองจุนอี้ โดยพื้นที่นำร่องหมู่บ้านดิจิทัลแห่งชาติถือเป็นการดำเนินโครงการนำร่องเพื่อส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและเพิ่มความทันสมัยในพื้นที่ชนบท
ยกตัวอย่างในอำเภอหวีชิ่งของเมืองจุนอี้ เกษตรกรสามารถใช้อุปกรณ์อัจฉริยะในการตรวจสอบความแข็งแรงของสุกรจากชิปอัจฉริยะที่ติดอยู่บริเวณใบหูของสุกร และส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย 5G และเทคโนโลยีบล็อกเชนไปยังแพลตฟอร์มเพื่อจัดเก็บไฟล์หรือวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับการเพาะพันธุ์และการจำหน่ายสุกร ขณะเดียวกัน ยังสามารถติดตั้งแอปพลิเคชัน “Cloud Livestock” บนโทรศัพท์มือถือควบคู่ไปด้วย เพื่อดูสถานการณ์ของโรงเลี้ยงสุกรได้แบบเรียลไทม์ เช่น อุณหภูมิของโรงเรือน อุณหภูมิของสุกร และวิถีการเคลื่อนที่ของสุกร นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนยังสามารถติดตามและตรวจสอบย้อนกลับตลอดห่วงโซ่อาหารได้อีกด้วย เช่น การระบุแหล่งกำเนิด การขนส่ง และข้อมูลการจำหน่ายสุกร ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของอาหารแก่ผู้บริโภค
นอกจากการเดินหน้าพัฒนาการเกษตรอัจฉริยะแล้ว มณฑลกุ้ยโจวยังส่งเสริมการพัฒนาอีคอมเมิร์ซและการประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตหรือระบบออนไลน์ในพื้นที่ชนบทไปพร้อม ๆ กันด้วย โดยในปัจจุบัน มณฑลกุ้ยโจวได้บ่มเพาะอำเภอสาธิตอีคอมเมิร์ซในชนบทระดับชาติ 70 แห่ง และอำเภอสาธิตอีคอมเมิร์ซในชนบทระดับมณฑล 23 แห่ง รวมถึงได้จัดตั้งศูนย์บริการอีคอมเมิร์ซระดับอำเภอมากกว่า 60 แห่ง และศูนย์บริการอีคอมเมิร์ซระดับหมู่บ้าน 10,220 แห่ง นอกจากนี้ การบริการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ได้กระจายไปตามหมู่บ้านและตำบลครอบคลุมกว่าร้อยละ 80 ของหมู่บ้านและตำบลทั้งหมดในมณฑลกุ้ยโจว
ที่มา: http://news.gog.cn/system/2021/10/18/018001623.shtml
webmaster
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู