ไฮไลท์
- ข่าวดีสำหรับผู้ส่งออกไทย รัฐบาลเมืองตงซิงประกาศฟื้นฟูการเปิดให้บริการ ‘ด่านทางบกตงซิง สะพานแห่งที่ 2’ อีกครั้ง ตั้งแต่วันอังคารที่ 26 เมษายน 2565 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป โดยเริ่มจากการระบายรถบรรทุกที่ตกค้างอยู่ในสองประเทศให้หมดก่อน จากนั้นจึงค่อยเปิดด่านให้สินค้าทั่วไป และต่อด้วยสินค้าที่ใช้ระบบการขนส่งห่วงโซ่ความเย็นตามลำดับ
- ผู้ส่งออกผลไม้(ไทย) ต้องติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก “สินค้าที่ใช้ระบบการขนส่งห่วงโซ่ความเย็น” ซึ่งรวมถึงผลไม้สด เป็นกลุ่มสินค้าสุดท้ายที่ด่านตงซิงจะเปิดให้สามารถผ่านพิธีการศุลกากรได้
- ข้อคำนึงสำหรับผู้ส่งออกผลไม้ไทย แม้ว่าในหลักการ รัฐบาลจีนจะอนุญาตให้มีการนำเข้าผลไม้ไทยผ่านด่านทางบกหลายแห่งในเขตฯ กว่างซีจ้วง แต่ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่บริเวณชายแดน ทำให้ด่านแต่ละแห่งดำเนินมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันและรับมือกับสถานการณ์การติดเชื้อ/ปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 ที่อาจพบทั้งในคนและสินค้าที่บริเวณด่าน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการควบคุมโควิดให้เป็นศูนย์ (Zero COVID) ของรัฐบาลกลาง
- ชาวสวนและผู้ส่งออกไทยต้องให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานการจัดการสวนผลไม้และโรงคัดบรรจุอย่างเคร่งครัด โดยต้องมีกระบวนการควบคุมและกำจัดแมลงศัตรูพืช ปริมาณสารตกค้าง และกระบวนการป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์และยกระดับมาตรฐานและคุณภาพของผลไม้ไทยในสายตาของผู้บริโภค ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีน รวมทั้งติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของด่านปลายทางอย่างใกล้ชิด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินมาตรการที่เข้มงวด และการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอย่างกะทันหันในระดับต่าง ๆ
นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ส่งออกไทย เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565 เทศบาลอำเภอระดับเมืองตงซิงได้ประกาศทยอยฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนเข้าสู่ภาวะปกติ ภายหลังจากที่เมืองตงซิงประสบความสำเร็จในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ได้แล้ว
สำหรับการเปิดให้บริการ ‘ด่านทางบกตงซิง สะพานแห่งที่ 2’ นั้น เทศบาลเมืองตงซิงได้กำหนดเวลาการเปิดด่านตงซิงอีกครั้งในวันอังคารที่ 26 เมษายน 2565 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป (หลังจากที่เคยระงับการนำเข้า-ส่งออกสินค้าชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565) โดยกำหนดแผนการเปิดด่านเป็น 4 ระยะ คือ ระยะแรก จัดการสินค้าและรถบรรทุกตกค้าง ระยะที่ 2 จัดการรถเปล่าที่ตกค้างในช่วงด่านปิดให้กลับประเทศตน ระยะที่ 3 เปิดให้สินค้าทั่วไป (ยกเว้นสินค้าแช่เย็นแช่แข็ง) ดำเนินพิธีการศุลกากรได้เท่านั้น และระยะที่ 4 เปิดให้บริการดำเนินพิธีการศุลกากรสู่ภาวะปกติ ซึ่งรวมถึงผลไม้ด้วย นั่นหมายความว่า ผู้ส่งออกผลไม้(ไทย) ต้องติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด โดยศูนย์ BIC จะติดตามความเคลื่อนไหว
ขั้นตอนการบริหารจัดการด่านตงซิงที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า เมืองตงซิงได้วางแผนการบริหารจัดการแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากการระบายรถบรรทุกที่ตกค้างอยู่ในสองประเทศให้หมดก่อน จากนั้นจึงค่อยเปิดด่านให้สินค้าทั่วไป และต่อด้วยสินค้าที่ใช้ระบบการขนส่งห่วงโซ่ความเย็นตามลำดับ
ด่านพรมแดนทางบกตงซิง (Dongxing Border Gate/东兴口岸) เป็น 1 ใน 3 ด่านทางบกของเขตฯ กว่างซีจ้วงที่มีความพร้อมสำหรับการนำเข้าผลไม้(ไทย) ต่อจากด่านทางบกโหย่วอี้กวาน และด่านรถไฟผิงเสียง ด่านแห่งนี้ตั้งอยู่ในอำเภอระดับเมืองตงซิงของเมืองฝางเฉิงก่าง ตรงข้ามกับด่านม๊องก๋าย (Mongcai) จังหวัดกว่างนิงห์ (Quang Ninh) ของเวียดนาม อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือราว 300 กิโลเมตร โดยด่านตงซิง สะพานแห่งที่ 2 (คล้ายสะพานมิตรภาพไทย-ลาว) เป็นด่านที่สร้างขึ้นใหม่และมีความพร้อมสำหรับการนำเข้า-ส่งออกสินค้า รวมถึงผู้เดินทางเข้า-ออกนอกประเทศด้วย
บีไอซี ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลายปีมานี้ ปริมาณการส่งออกผลไม้ไทยผ่านทางบกไปจีนที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูผลไม้ เช่นเดียวกับเวียดนามที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน ก็นิยมใช้ด่านทางบกเพื่อการนำเข้า-ส่งออกสินค้ากับจีน(กว่างซี)เช่นกัน อย่างไรก็ดี ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ทางการจีนต้องเพิ่มความเข้มงวดเพื่อป้องกันการปนเปื้อนในสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ จึงส่งผลให้เกิดปัญหารถบรรทุกสินค้า(ผลไม้ไทย)แออัดหรือติดค้างอยู่บริเวณนอกด่านของกว่างซีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ด่านทางบกโหย่วอี้กวาน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียนที่สุกงอมก่อนถึงมือผู้บริโภค
“ด่านตงซิง” จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่ผู้ส่งออกไทยสามารถใช้เพื่อการส่งออกผลไม้ไทยไปจีนได้อย่างคล่องตัว ช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าให้กับผู้ส่งออกไทย โดยใช้ระยะเวลาในการขนส่งออกจากไทยไปเข้าที่ด่านตงซิงภายใน 2 วันเท่านั้น โดยผู้ส่งออกสามารถพิจารณาใช้ประโยชน์จากด่านตงซิงเป็นช่องทางการระบายสินค้าผลไม้ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการกระจุกตัวของรถบรรทุกบริเวณนอกด่านโหย่วอี้กวาน ซึ่งอาจส่งผลให้ผลไม้สดได้รับความเสียหายได้
ข้อคำนึงสำหรับผู้ส่งออกผลไม้ไทย แม้ว่าในหลักการ รัฐบาลจีนจะอนุญาตให้มีการนำเข้าผลไม้ไทยผ่านด่านทางบกหลายแห่งในเขตฯ กว่างซีจ้วง แต่ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่บริเวณชายแดนทำให้ด่านแต่ละแห่งดำเนินมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันและรับมือกับสถานการณ์การติดเชื้อ/ปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 ที่อาจพบทั้งในคนและสินค้าที่บริเวณด่านเช่น การจำกัดจำนวนรถบรรทุกสินค้านำเข้าที่ผ่านเข้าด่านในแต่ละวัน การกำหนดช่วงเวลาเปิด-ปิดด่าน การกักตัวเจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยง การระงับการนำเข้าสินค้าจากแหล่งผลิตที่พบการปนเปื้อน ไปจนถึงการปิดด่านในกรณีที่พบการติดเชื้อในบุคคล (ทั้งคนขับรถ และเจ้าหน้าที่ด่าน)
ดังนั้น ชาวสวนและผู้ส่งออกไทยต้องให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานการจัดการสวนผลไม้และโรงคัดบรรจุอย่างเคร่งครัด โดยต้องมีกระบวนการควบคุมและกำจัดแมลงศัตรูพืช ปริมาณสารตกค้าง และกระบวนการป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์และยกระดับมาตรฐานและคุณภาพของผลไม้ไทยในสายตาของผู้บริโภค ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีน รวมทั้งติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของด่านปลายทางอย่างใกล้ชิด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินมาตรการที่เข้มงวด และการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอย่างกะทันหันในระดับต่าง ๆ ซึ่งศูนย์ BIC จะติดตามสถานการณ์และรายงานความคืบหน้าให้ผู้ประกอบการทราบด้วยต่อไป
จัดทำโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ที่มา เว็บไซต์ www.gx.chinanews.com.cn (中新社广西) วันที่ 24 เมษายน 2565