อุตสาหกรรม solar cell เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งของเมืองซ่างเหรา โดยในปี 2564 มีมูลค่าการผลิต 5.5 หมื่นล้านหยวน และเป็นที่ตั้งของฐานอุตสาหกรรม solar cell ระดับชาติแห่งแรกของจีน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเมืองซ่างเหรา ที่มีห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น การผลิตแผ่น silicon wafer สำหรับวงจร จนถึงการผลิตแผง solar cell ซึ่งช่วยส่งเสริมให้เมืองซ่างเหราเป็น 1 ใน 10 อันดับแรกของเมืองแห่งการผลิต solar cell ของจีน
เมืองซ่างเหราได้ประกาศแผนการพัฒนาคลัสเตอร์อุตสาหกรรมการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ขั้นสูงระดับชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเมืองซ่างเหร่า ระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (ค.ศ. (2021-2025) โดยมีมาตรการสำคัญ ได้แก่ (1) การมุ่งพัฒนาชิ้นส่วนหลักของ solar cell เช่น silicon wafer แบตเตอรี่ module และชิ้นส่วนประกอบอื่น ๆ และส่งเสริมการดึงดูดบริษัทผู้ผลิต solar cell และชิ้นส่วนประกอบชั้นนำจากทั่วโลก มาลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเมืองซ่างเหรา อาทิ บริษัท Wacker Neuson Group ของเยอรมนี /บริษัท Hemlock Semiconductor Corporation ของสหรัฐฯ และ บริษัท OCI Company ของเกาหลีใต้ (2) ส่งเสริมการจัดตั้งสถาบันวิจัยอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัท JinkoSolar Corporation ผู้ผลิตแผง solar cell รายใหญ่ของโลก (สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้) และการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่พลังงานใหม่ของบริษัท Jiangxi Uniex Solar Technology จำกัด เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมแบตเตอรี่เก็บพลังงานแสงอาทิตย์รุ่นใหม่ ๆ (3) ส่งเสริมการก่อสร้างสถานี solar cell อัจฉริยะเพื่อผลิตไฟฟ้าสำหรับใช้ในภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม และคลังสินค้า ฯลฯ รวมทั้งภาคการเกษตร อาทิ พื้นที่เกษตรกรรมในพื้นที่ควบคุมสภาพแวดล้อม การปลูกพืชสมุนไพรจีน และการประมง
ปัจจุบัน จีนถือเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ของโลก และเมืองซ่างเหร่าเป็นอีกหนึ่งเมืองของจีนที่มีศักยภาพด้านอุตสาหกรรม solar cell โดยเป็นที่ตั้งของวิสาหกิจ solar cell ที่แข็งแกร่งอันดับต้น ๆ ของจีน อาทิ บริษัท JinkoSolar Corporation โดยในปี 2564 บริษัทมีรายได้ 4.08 หมื่นล้านหยวน มีฐานการผลิต 12 แห่งทั่วโลกและ 21 สาขาบริษัทในต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐฯ เยอรมนี อิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์ และผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีการส่งออกไปยังกว่า 160 ประเทศทั่วโลก โดยมีปริมาณการส่งออกแผง solar cell สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกติดต่อกันหลายปี
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการผลิต solar cell ของไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยไทยมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม solar cell รวมทั้งการอุดหนุนไฟฟ้าจากโครงการ solar cell ขนาดกลางและขนาดเล็กเพื่อลดต้นทุนการติดตั้ง และมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนร้อยละ 30 ต่อการใช้พลังงานขั้นสุดท้าย (พลังงานแสงอาทิตย์ 12,139 เมกะวัตต์) ภายในปี 2580 ดังนั้น ไทยจึงควรติดตามพัฒนาการของอุตสาหกรรม solar cell ของจีนและนวัตกรรมใหม่ ๆ และอาจพิจารณามีความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมและการผลิตชิ้นส่วนประกอบหลักของ solar cell รวมทั้งเทคโนโลยีการแปลงกระแสไฟฟ้าที่ต้องอาศัยนวัตกรรมขั้นสูง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมการผลิต solar cell ของไทยต่อไปในอนาคต
แหล่งอ้างอิง http://www.macrodb.com/ztxh/showcontent.asp?db=w_news&info_id=603695
webmaster
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู