เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ท่ารถไฟนานาชาตินครฉางซาเปิดเดินรถขนส่งสินค้าด้วยรถไฟไปยังมองโกเลียเป็นเที่ยวแรก โดยบรรทุกเครื่องจักรก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และอาหาร น้ำหนัก 58.55 ตัน รวมมูลค่า 1,523,800 ดอลลาร์สหรัฐ และออกจากจีนที่ด่านเอ้อร์เหลียนฮ่าวเท่อ (Erlianhot/Erenhot) ในเขตฯ มองโกเลียใน ซึ่งมีชายแดนติดต่อกับมองโกเลีย รวมระยะทาง 3,320 กิโลเมตร คาดว่าจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 วัน จึงจะถึงกรุงอูลานบาตาร์ เมืองหลวงของมองโกเลีย
นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 การขนส่งสินค้าด้วยรถไฟฉางซา-ยุโรปกลายเป็นรูปแบบการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่สำคัญนอกเหนือจากการขนส่งทางทะเลและทางอากาศ โดยในช่วงระหว่างวันที่ 1 มกราคม จนถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2565 รถไฟขนส่งสินค้าฉางซา-ยุโรปได้เดินรถไปแล้ว 500 ขบวน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2564 ร้อยละ 46.63 รองรับตู้คอนเทนเนอร์ขนาดมาตรฐาน 20 ฟุต (Twenty-foot Equivalent Unit: TEU) 41,202 ตู้ รวมน้ำหนักสินค้า 344,600 ตัน มูลค่าสินค้า 1,333 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับเส้นทางเดินรถไฟขนส่งสินค้าฉางซา-ยุโรปที่สำคัญ ได้แก่ เส้นทางฉางซา-รัสเซีย โดยในช่วงห้าเดือนแรกของปี 2565 นครฉางซาขนส่งสินค้าไป-กลับรัสเซียรวม 142 ขบวน หรือโดยเฉลียมากกว่า 7 เที่ยวต่อสัปดาห์ และการขนส่งสินค้าด้วยรถไฟจากนครฉางซาไปรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 40 ของการขนส่งสินค้าด้วยรถไฟจากนครฉางซาไปยุโรป สินค้าส่งออกไปรัสเซียที่สำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าในชีวิตประจำวัน ส่วนสินค้านำเข้าจากรัสเซียที่สำคัญ ได้แก่ วัสดุไม้
ยุโรปถือเป็นคู่ค้าที่สำคัญอันดับ 3 ของนครฉางซา โดยในช่วงห้าเดือนแรกของปี 2565 ทั้งสองฝ่ายมีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 13,200 ล้านหยวน โดยเฉพาะกลุ่มบริษัท Sunward ที่ส่งออกรถขุดไปยุโรปแล้วกว่า 20,000 คัน กลายเป็นรถขุด แบรนด์จีนที่สร้างชื่อเสียงในยุโรป นอกจากนี้ หากเปรียบเทียบการขนส่งระหว่างทางรถไฟกับทางทะเลจากนครฉางซาไปยุโรป การขนส่งด้วยรถไฟจะช่วยย่นเวลาไม่น้อยกว่า 20 วัน และลดต้นทุนประมาณร้อยละ 15
ที่มา: https://baijiahao.baidu.com/s?id=1736312118617359770&wfr=spider&for=pc
webmaster
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู