ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2555 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการใช้งานท่าอากาศยานนานาชาติอู่เจียป้า นครคุนหมิง รวมถึงเป็นวันแรกของการเปิดใช้งานท่าอากาศยานนานาชาติฉางสุ่ย นครคุนหมิง โดยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565 ท่าอากาศยานฉางสุ่ยได้ฉลองครบรอบวันเปิดใช้งานปีที่ 10 ด้วยสถิติเที่ยวบินขึ้น-ลงสะสมกว่า 2,968,400 เที่ยว จำนวนผู้โดยสารสะสมกว่า 368,358,300 คน รวมถึงปริมาณการขนส่งสินค้าสะสมกว่า 3,607,300 ตัน
ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ท่าอากาศยานฉางสุ่ยได้พัฒนาและขยายตัวมาอย่างต่อเนื่อง โดยจากเมื่อปี 2556 ที่มีผู้โดยสาร 29,690,000 คน ได้เพิ่มจำนวนเป็น 32,290,000 คนในปี 2557 นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาในด้านความตรงต่อเวลา ท่าอากาศยานฉางสุ่ยก็ครองอันดับที่ 5 ในบรรดาท่าอากาศยานขนาดกลางและขนาดใหญ่ 48 แห่งของจีน รวมถึงยังครองอันดับที่ 2 ในบรรดาท่าอากาศยานขนาดผู้โดยสาร 20 ล้านคนขึ้นไปของจีน
ล่าสุด ในปี 2564 ซึ่งการเดินทางของประชาชนและการขนส่งสินค้ายังคงอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมและป้องกันโรคโควิด-19 ที่เข้มงวด ท่าอากาศยานฉางสุ่ยมีเที่ยวบินขึ้น-ลงกว่า 278,000 เที่ยว มีผู้โดยสารกว่า 32,221,000 คน และมีปริมาณการขนส่งสินค้ากว่า 377,000 ตัน ขณะเดียวกัน ก็มีอัตราความตรงต่อเวลาที่ร้อยละ 92.93 ครองอันดับที่ 1 ในบรรดาท่าอากาศยานขนาดใหญ่ทั้งหมดของจีน
ที่สำคัญ ภายหลังท่าอากาศยานฉางสุ่ยเริ่มใช้งานระบบลงจอดอัตโนมัติทางวิ่งเครื่องบินฝั่งตะวันตกประเภท 2 (Instrument Landing System Category II: ILS CAT II) เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2559 ก็ส่งผลให้ท่าอากาศยานฉางสุ่ยเป็นท่าอากาศยานแห่งแรกของจีนที่ทางวิ่งเครื่องบิน (runway) ทั้งสองเส้นมีระบบ ILS CAT II นอกจากนี้ การที่ท่าอากาศยานฉางสุ่ยได้นำระบบการตัดสินใจในการบริหารท่าอากาศยานร่วมระหว่างหน่วยงาน (Airport Collaborative Decision Making: A-CDM) มาใช้งาน ก็ได้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานของท่าอากาศยานฉางสุ่ย โดยลดความล่าช้าของเที่ยวบินขาเข้าเหลือไม่เกิน 5 นาที นอกจากนี้ ยังได้ขยายการใช้งานระบบ A-CDM ให้ครอบคลุมท่าอากาศยานทุกแห่งในมณฑลยูนนาน โดยมีท่าอากาศยานฉางสุ่ยเป็นศูนย์กลาง ซึ่งช่วยให้การสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างท่าอากาศยานทุกแห่งในมณฑลยูนนาน มีความรวดเร็ว ครอบคลุม และทั่วถึง
ปี 2562 นับเป็นปีที่ท่าอากาศยานฉางสุ่ยมีผู้โดยสารมากที่สุดด้วยจำนวนกว่า 48 ล้านคน จนเกินขีดความสามารถการรองรับของอาคารผู้โดยสารหลักหลังที่ 1 (T1) ที่ออกแบบให้รองรับผู้โดยสารได้ปีละ 38 ล้านคน ดังนั้น ท่าอากาศยานฉางสุ่ยจึงได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารเทียบอากาศยานหลังรองหลังที่ 1 (S1) ซึ่งออกแบบให้รองรับผู้โดยสารได้ปีละ 15 ล้านคน ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานฉางสุ่ยรองรับผู้โดยสารได้รวม 53 ล้านคน ปัจจุบัน อาคาร S1 ก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยแต่เดิมมีกำหนดจะเปิดใช้งานในช่วงปลายปี 2564 โดยเชื่อมการขนส่งผู้โดยสารระหว่างอาคาร T1 กับอาคาร S2 ด้วยรถรางไฟฟ้าใต้ดิน แต่ผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ส่งผลให้ท่าอากาศยานฉางสุ่ยมีผู้โดยสารลดลง โดยมีจำนวนผู้โดยสารเพียง 32 ล้านคนในปี 2564 ทำให้ท่าอากาศยานฉางสุ่ยชะลอการเปิดใช้งานอาคาร S2 สำหรับผู้โดยสารทั่วไปออกไปก่อน แต่ได้เปิดใช้งานอาคาร S2 เพื่อรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยในการควบคุมและป้องกันโรคโควิด-19 แทน เนื่องจากอาคาร S2 ตั้งอยู่อย่างเอกเทศโดยมีระยะห่างจากอาคาร T1 กว่า 1 กิโลเมตร
ในระยะยาว ท่าอากาศยานฉางสุ่ย มีแผนเพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งทางอากาศภายใต้วงเงินงบประมาณ 69,480 ล้านหยวน ประกอบด้วย การก่อสร้างทางวิ่งเพิ่มจาก 2 เส้นเป็น 5 เส้น การก่อสร้างอาคารพักรอผู้โดยสารหลังที่ 2 (T2) และอาคารเทียบอากาศยานหลังรองหลังที่สอง (S2) พื้นที่ใช้สอย 850,000 ตารางเมตร การก่อสร้างอาคารจอดรถเพิ่มเติมขนาด 390,000 ตารางเมตร การก่อสร้างศูนย์เชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งสำหรับอาคาร T2 ขนาด 80,000 ตารางเมตร การก่อสร้างหลุมจอดอากาศยานเพิ่ม 181 หลุม รวมถึงการก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้อง โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 2573 ท่าอากาศยานฉางสุ่ยจะมีศักยภาพรองรับเที่ยวบินปีละ 762,000 เที่ยว ผู้โดยสารปีละ 120,000,000 คน และสินค้าปีละ 1,200,000 ตัน
ที่มา: http://yn.yunnan.cn/system/2022/06/29/032160979.shtml
http://yn.yunnan.cn/system/2020/10/12/031032840.shtml
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1728774766042654911&wfr=spider&for=pc