ไฮไลท์
- เขตสินค้าทัณฑ์บนแบบครบวงจรผิงเสียง (ฝั่งกว่างซี) ได้เปิดใช้งาน “ประตูไม้กั้นแห่งที่ 3” สำหรับรถบรรทุกสินค้า เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจราจรและแก้ปัญหาความแออัดในการเดินรถบรรทุกในบริเวณเขตสินค้าทัณฑ์บนผิงเสียง รวมถึงด่านทางบกโหย่วอี้กวานให้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากยิ่งขึ้น
- “ประตูไม้กั้นแห่งที่ 3” มี 6 ช่องจราจร (เข้า 3 ออก 3) เป็นช่องทางเฉพาะสำหรับรถบรรทุกสินค้า Cross-border e-Commerce และสินค้าทัณฑ์บนเพื่อการแปรรูปที่ผ่านเข้า-ออกเขตสินค้าทัณฑ์บนผิงเสียง โดยแยกช่องทางกับรถบรรทุกสินค้านำเข้า-ส่งออกของด่านโหย่วอี้กวานที่ยังคงใช้ “ประตูไม้กั้นแห่งที่ 2”
- สินค้าที่จีนนำเข้า-ส่งออกผ่าน “ด่านโหย่วอี้กวาน” รวมถึงสินค้าไทยจะได้รับประโยชน์ (ทางอ้อม) มากพอสมควรจากการเปิดใช้งาน “ประตูไม้กั้นแห่งที่ 3” เนื่องจากปริมาณรถบรรทุกที่ลดลง จะช่วยให้สภาพการจราจรคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น รถบรรทุกสินค้า (ไทย) ก็จะผ่านเข้า-ออกด่านโหย่วอี้กวานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 เขตสินค้าทัณฑ์บนแบบครบวงจรผิงเสียง (ฝั่งกว่างซี) ได้เปิดใช้งาน “ประตูไม้กั้นแห่งที่ 3” สำหรับรถบรรทุกสินค้า เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการจราจรและแก้ปัญหาความแออัดในการเดินรถบรรทุกในบริเวณเขตสินค้าทัณฑ์บนผิงเสียง รวมถึงด่านทางบกโหย่วอี้กวาน
“ประตูไม้กั้นแห่งที่ 3” เป็นส่วนหนึ่งในโครงการขยายศักยภาพของเขตสินค้าทัณฑ์บนแบบครบวงจรผิงเสียง รวมถึงด่านโหย่วอี้กวาน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตสินค้าทัณฑ์บนผิงเสียงนี้ด้วย ก่อสร้างโดยบริษัท Pingxiang Baofa Co.,Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของ Guangxi Beibu Gulf Investment Group Co., Ltd. (北投口岸集团直属企业凭祥保发公司) ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 108 ล้านหยวน ประกอบด้วยประตูไม้กั้นแห่งที่ 3 ประตูไม้กั้นด้านใน ลานตรวจสินค้าทัณฑ์บน และระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ เริ่มก่อสร้างเมื่อปลายปี 2564
เดิมที รถบรรทุกสินค้าทุกประเภทที่ผ่านเข้า-ออกเขตสินค้าทัณฑ์บนแบบครบวงจรผิงเสียงจะต้องวิ่งผ่าน “ประตูไม้กั้นที่ 2” ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุกสินค้าส่งออก-นำเข้าไปด่านโหย่วอี้กวาน หรือรถบรรทุกสินค้าเพื่อนำไปแปรรูปในเขตสินค้าทัณฑ์บนแบบครบวงจรผิงเสียง ด้วยปริมาณรถบรรทุกที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรแออัด รถบรรทุกกระจุกตัวเป็นคอขวดและต้องรอคิวนาน ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ตัวสินค้าและเจ้าของสินค้า
ประตูไม้กั้นแห่งที่ 2
ข้อมูลปี 2564 ปริมาณรถบรรทุกสินค้าทัณฑ์บนและรถบรรทุกสินค้า Cross-border e-Commerce ที่ผ่านเข้า-ออกเขตสินค้าทัณฑ์บนผิงเสียง มีจำนวน 43,400 คันครั้ง และคาดว่าปี 2566 ปริมาณรถบรรทุกในสายธุรกิจดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 130,000 คันครั้ง การดำเนินพิธีการศุลกากรสำหรับสินค้าในสายธุรกิจดังกล่าวมีเฉลี่ยวันละ 360 คันครั้ง ซึ่งมากกว่าปัจจุบันถึง 4 เท่า
ดังนั้น การก่อสร้างและเปิดใช้งาน “ประตูไม้กั้นแห่งที่ 3” ซึ่งมี 6 ช่องจราจร (เข้า 3 ออก 3) เพื่อใช้เป็นช่องทางเฉพาะสำหรับรถบรรทุกสินค้า Cross-border e-Commerce และสินค้าทัณฑ์บนเพื่อการแปรรูปที่ผ่านเข้า-ออกเขตสินค้าทัณฑ์บนผิงเสียง โดยแยกช่องทางกับรถบรรทุกสินค้านำเข้า-ส่งออกของด่านโหย่วอี้กวานที่ยังคงใช้ “ประตูไม้กั้นแห่งที่ 2” อยู่เหมือนเดิม จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการจราจรของรถบรรทุกบริเวณเขตสินค้าทัณฑ์บนแบบครบวงจรผิงเสียงและด่านโหย่วอี้กวานให้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายได้มากยิ่งขึ้น
ประตูไม้กั้นแห่งที่ 3 (VDO ข่าว)
นอกจากนี้ “ประตูไม้กั้นแห่งที่ 3” รถบรรทุกในจีนสามารถผ่านเข้าเขตสินค้าทัณฑ์บนผิงเสียงได้ 24 ชั่วโมง โดยได้นำระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ทันสมัยมาใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการผ่านเข้า-ออกของรถบรรทุกสินค้าทัณฑ์บนด้วย อาทิ ระบบตรวจสอบช่องจราจร ระบบตรวจจับและจำแนกป้ายทะเบียนรถ (recognition system) การส่งข้อมูลและอัปเดตข้อมูลการผ่านพิธีการศุลกากรของรถบรรทุกสินค้าแบบ Real time ประตูไม้กั้นตรวจปล่อยแบบอัตโนมัติ
ภายในเขตสินค้าทัณฑ์บนผิงเสียงยังใช้เทคโนโลยีดาวเทียมเป่ยโต้ว (Beidou Satellite – BDS) ในการระบุตำแหน่งและเก็บภาพ/วิดีโอในบริเวณพื้นที่สำคัญ โดยสามารถแสดงตำแหน่งของโกดังในเขตพื้นที่คลังสินค้า รวมถึงตำแหน่งของรถบรรทุกและตำแหน่งที่วางกองสินค้า และระบบรั้วกั้นอัจฉริยะ (Electronic Fence System) สามารถตรวจสอบรถบรรทุกที่ผ่านเข้า-ออกเขตสินค้าทัณฑ์บนผิงเสียง และกำหนดเส้นทางการสัญจรของรถบรรทุกในเขตสินค้าทัณฑ์บนผิงเสียงให้เป็นระบบระเบียบเรียบร้อย
บีไอซี ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 การค้าต่างประเทศที่ด่านโหย่วอี้กวานมีความคึกคักเป็นอย่างมาก คนและรถบรรทุกสินค้าที่ผ่านเข้า-ออกด่านมีปริมาณพุ่งสูงขึ้นทุกปี จนทำให้เกิดความแออัดบริเวณชายแดนจีน(กว่างซี)-เวียดนาม เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว อำเภอระดับเมืองผิงเสียงได้ขุดอุโมงค์เพื่อสร้าง “ช่องทางพิเศษ” (Fast Track Lane) สำหรับรถบรรทุกสินค้า เพื่อแยกการจราจรของคนและรถสินค้าออกจากกัน
ในเวลาต่อมา ยังได้พัฒนาระบบจัดการสารสนเทศอัจฉริยะ (Smart Information System) มาใช้ตรวจสอบรถบรรทุกสินค้าขาเข้าจากเวียดนามเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผ่านด่านให้เหลือเพียงคันละ 30 วินาที จากเดิมที่ใช้เวลาคันละ 5-6 นาที และสามารถตรวจสอบรถสินค้าได้วันละ 1,200-1,633 คัน จากเดิมตรวจสอบได้วันละ 200-300 คัน
ในยุคโควิด-19 ที่เศรษฐกิจการค้าในจีนกำลังฟื้นตัวดีขึ้น และการผ่อนปรนมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ของจีน ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและปริมาณรถบรรทุกสินค้าเริ่มกลับมาคึกคักมากยิ่งขึ้น บีไอซี เห็นว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดในการเปิดใช้งาน “ประตูไม้กั้นแห่งที่ 3” สะท้อนให้เห็นถึง ความตั้งใจของอำเภอระดับเมือผิงเสียงที่จะแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในบริเวณเขตสินค้าทัณฑ์บนแบบครบวงจรผิงเสียง รวมถึง “ด่านโหย่วอี้กวาน” ซึ่งเป็นประตูการค้าที่สำคัญระหว่างจีนกับอาเซียน รวมถึงประเทศไทย
ทั้งนี้ สินค้าที่จีนนำเข้า-ส่งออกผ่าน “ด่านโหย่วอี้กวาน” รวมถึงสินค้าไทย จะได้รับประโยชน์(ทางอ้อม)มากพอสมควรจากการเปิดใช้งาน “ประตูไม้กั้นแห่งที่ 3” เนื่องจากปริมาณรถบรรทุกที่ลดลง (รถบรรทุกสินค้า Cross-border e-Commerce และรถบรรทุกสินค้าทัณฑ์บนแยกไปใช้ประตูไม้กั้น 3) ช่วยให้สภาพการจราจรคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น รถบรรทุกสินค้า(ไทย)ก็จะผ่านเข้า-ออกด่านโหย่วอี้กวานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย
จัดทำโดย : นางสาวเนตรนภา บุญมา ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
เรียบเรียงโดย : นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ที่มา : เว็บไซต์ www.bgigc.com (广西北部湾投资集团有限公司) วันที่ 18 สิงหาคม 2565
เว็บไซต์ http://pxzhbsq.gxzf.gov.cn (广西凭祥综合保税区管理委员会) วันที่ 17 สิงหาคม 2565
เว็บไซต์ http://gx.chinanews.com.cn (中国新闻网广西) วันที่ 17 สิงหาคม 2565