ตั้งแต่ปี 2564 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน หลายมณฑลของจีนประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากความไม่สมดุลระหว่างอุปทานการผลิตไฟฟ้ากับอุปสงค์การอุปโภคไฟฟ้า ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนและภาคธุรกิจเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้พลังงานเข้มข้น จนยกระดับเป็นปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลจีนต้องเร่งดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้องเพื่อรักษาระดับอุปทานของพลังงานไฟฟ้า
ในส่วนของมณฑลยูนนาน แม้จะไม่ประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า แต่ก็มีบางช่วงเวลาที่มณฑลมีระดับการอุปโภคไฟฟ้าค่อนข้างสูง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของมณฑลยูนนานได้ประเมินแนวโน้มอุปสงค์และอุปทานของพลังงานไฟฟ้าในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีน ฉบับที่ 14 (2564-2568) พบว่า ดุลไฟฟ้าของยูนนานมีแนวโน้ม “ตึงเครียดในช่วงฤดูน้ำหลากและขาดแคลนในช่วงฤดูน้ำแล้ง และในภาพรวม ค่อนข้างตึงเครียด เนื่องจากมีช่องว่างระหว่างอุปสงค์กับอุปทาน”
ทั้งนี้ มณฑลยูนนานเป็นมณฑลผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอันดับหนึ่งของจีน โดยนับจนถึงสิ้นปี 2564 ยูนนานมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 106 ล้านกิโลวัตต์ ในจำนวนนี้ เป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดกว่า 90 ล้านกิโลวัตต์ หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 90 ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดของมณฑล โดยสูงกว่าภาพรวมกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดของทั้งประเทศจีนที่มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 30
จุดเด่นของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดของมณฑลยูนนาน ได้แก่ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ ซึ่งมีกำลังการผลิต 78.20 ล้านกิโลวัตต์ หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดของมณฑล สูงเป็นอันดับที่ 2 ของจีน โดยในจำนวนสถานีไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรกของจีน ตั้งอยู่ในมณฑลยูนนานถึง 7 แห่ง
ในภาพรวม การผลิตไฟฟ้าของจีนพึ่งพาถ่านหินเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 70 ซึ่งปัญหาการขาดแคลนถ่านหินถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่ออุปทานการผลิตไฟฟ้าของจีน ขณะที่นโยบายผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดได้ ช่วยให้มณฑลยูนนานไม่ประสบปัญหาขาดแคลนไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดก็มีความผันผวน กล่าวคือ ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปีเป็นช่วงฤดูน้ำหลาก ส่วนในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 4 ของปีเป็นช่วงฤดูน้ำแล้ง รวมทั้งความไม่แน่นอนของพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์
ที่ผ่านมา มณฑลยูนนานเป็นมณฑลผู้ผลิตและขายไฟฟ้าให้แก่มณฑลอื่นของจีน โดยเฉพาะเป็นผู้ป้อนไฟฟ้ารายใหญ่ในโครงการ “ไฟฟ้าภาคตะวันตก ส่งไปภาคตะวันออก” โดยนับตั้งแต่ช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจีน ฉบับที่ 13 (2559-2563) จนถึงปัจจุบัน มณฑลยูนนานได้ส่งออกไฟฟ้าพลังงานสะอาดไปยังมณฑลกวางตุ้ง เขตฯ กว่างซี และมณฑลไห่หนานแล้วกว่า 1 ล้านล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง มากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศจีน อย่างไรก็ตาม ปี 2562 นับเป็นปีแรกที่มณฑลยูนนานมีปริมาณการอุปโภคไฟฟ้ามากกว่าการขายไฟฟ้า โดยในปี 2562 มณฑลยูนนานผลิตไฟฟ้าได้ 346,200 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง ในจำนวนนี้ เป็นปริมาณอุปโภคไฟฟ้าภายในมณฑล 181,200 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 52.3 และปริมาณการขายให้แก่มณฑลอื่น 166,400 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง
จากปัจจัยข้างต้น ทั้งความผันผวนของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด กอปรกับปริมาณการอุปโภคไฟฟ้าภายในมณฑลที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้มณฑลยูนนานได้หันมาใช้ถ่านหินในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนเพื่อช่วยรักษาอุปทานไฟฟ้าในช่วงไฟฟ้าขาดแคลน โดยเฉพาะช่วงฤดูน้ำแล้ง ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 มณฑลยูนนานผลิตไฟฟ้าได้ 171,860 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง ในจำนวนนี้ เป็นไฟฟ้าจากพลังงานความร้อน 22,980 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13 โดยในช่วงไตรมาสที่ 1 ไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนช่วยทดแทนไฟฟ้าจากพลังงานน้ำในช่วงน้ำแล้ง ขณะที่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ยูนนานมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้า อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 เป็นต้นมา ยูนนานมีปริมาณฝนลดลงจึงต้องกลับมาเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนอีกครั้ง
นอกจากนี้ มณฑลยูนนานยังได้กำหนดแผนปฏิบัติการพัฒนาคุณภาพอุตสาหกรรมถ่านหิน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับกำลังการผลิตถ่านหินให้ได้ปีละ 90 ล้านตัน จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตปีละ 58 ล้านตัน ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการอุปโภคถ่านหินภายในมณฑลยูนนาน เพื่อรับประกันความมั่นคงด้านพลังงานทั้งสำหรับการอุปโภคภายในมณฑลและการป้อนไฟฟ้าให้แก่มณฑลภาคตะวันออกของจีน ซึ่งโดยรวมแล้วเกี่ยวโยงกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจีนในภาพรวมอีกด้วย
ที่มา: https://mp.weixin.qq.com/s/PANvLYYIK8abAj3bEsk2AQ
https://baijiahao.baidu.com/s?id=1741842012996661976&wfr=spider&for=pc
http://ylxf.1237125.cn/NewsView.aspx?NewsID=324971