หลังจากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) หรือเป็นที่คุ้นหูในนามของ “RCEP” มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ด้วยสิทธิประโยชน์และการอำนวยความสะดวกทางด้านการค้าจากความตกลงดังกล่าว ทำให้การค้าระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก RCEP รวมถึงการค้าระหว่างมณฑลซานตงและกลุ่มประเทศสมาชิก RCEP เป็นไปอย่างคึกคัก
เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานข้อมูลรัฐบาลมณฑลซานตงได้เปิดเผยสถิติการค้าระหว่างมณฑลซานตงและกลุ่มประเทศสมาชิก RCEP 14 ประเทศในครึ่งปีแรก ปี 2565 มีมูลค่ากว่า 587,470 ล้านหยวน (ประมาณ 3.19 ล้านล้านบาท) เติบโตขึ้นร้อยละ 22.9 เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และยังมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าการค้าระหว่างประเทศโดยรวมของมณฑลซานตงถึงร้อยละ 5.9 คิดเป็นร้อยละ 37.3 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของมณฑลซานตงในช่วงเวลาเดียวกัน โดยแบ่งเป็นมูลค่าการนำเข้าและส่งออกได้ ดังนี้ มูลค่าการนำเข้า 241,340 ล้านหยวน (ประมาณ 1.31 ล้านล้านบาท ) เติบโตขึ้นร้อยละ 13.1 สินค้าหลักในการนำเข้า อาทิ ผลิตภัณฑ์เครื่องจักรและเครื่องอิเล็กทรอนิกส์และน้ำมันดิบ มูลค่าการส่งออก 346,130 ล้านหยวน (ประมาณ 1.88 ล้านล้านบาท) เติบโตขึ้นร้อยละ 30.9 สินค้าหลักในการส่งออก อาทิ ผลิตภัณฑ์เครื่องจักรและเครื่องอิเล็กทรอนิกส์และผลิตภัณฑ์ใช้แรงงานมาก
ในครึ่งปีแรก การค้าต่างประเทศของภาคเอกชนท้องถิ่น มีมูลค่า 428,220 ล้านหยวน เติบโตขึ้นร้อยละ 33.8 รองลงมาคือ การค้าต่างประเทศของภาคเอกชนที่มีการลงทุนจากต่างประเทศ มีมูลค่า 111,900 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 2 และการค้าต่างประเทศของรัฐวิสาหกิจ มีมูลค่า 47,030 ล้านหยวน เติบโตขึ้นร้อยละ 10.6
เกาหลีใต้ มาเลเซีย และญี่ปุ่น นับเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ในกลุ่มประเทศสมาชิก RCEP ซึ่งมีสัดส่วนในมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของมณฑลซานตง อยู่ที่ 137,260 ล้านหยวน (ประมาณ 1.37 แสนล้านบาท), 116,330 ล้านหยวน (ประมาณ 6.31 แสนล้านบาท) และ 93,270 ล้านหยวน (ประมาณ 1.16 แสนล้านบาท) ตามลำดับ และเติบโตขึ้นร้อยละ 10.7, 70.5 และ 7.9 ตามลำดับ รวมเป็นร้อยละ 59 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของมณฑลซานตงไปยังกลุ่มประเทศ RCEP ในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ในครึ่งปีแรก ปี 2565 มณฑลซานตงได้ออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า RCEP แล้วกว่า 59,000 ฉบับ
จะเห็นได้ว่าความตกลง RCEP เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างโอกาสทางด้านธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ ตั้งแต่ธุรกิจระดับจิ๋วไปจนถึงธุรกิจระดับยักษ์ใหญ่ ในช่วงเวลาที่แต่ละประเทศต่างได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงประเทศไทยเอง อาจกล่าวได้ว่า ความตกลงนี้มีส่วนช่วยคงความคึกคักของตลาดการค้าต่างประเทศเอาไว้ ซึ่งจีนตระหนักถึงข้อนี้ดี รัฐบาลมณฑลซานตง จึงมีแผนจัดกิจกรรมเกี่ยวกับ RCEP ตลอดปี นับเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ผู้ประกอบการไทยไม่ควรมองข้ามและควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้พลาดโอกาสรับฟังนโยบายใหม่ ๆ และเข้าร่วมงานแสดงสินค้า/จับคู่ธุรกิจ อันจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการบุกตลาดจีน
แหล่งที่มา:
http://news.sdchina.com/show/4721480.html
webmaster
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู