ภายหลังการประกาศการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปเมื่อเดือนธันวาคม 2565 “เทศกาลเฉลิมฉลองวันแรงงานสากล” ถือเป็นช่วงวันหยุดระยะสั้น 5 วัน (29 เม.ย. – 3 พ.ค. 2566) แรกที่ชาวจีนเลือกออกท่องเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก ข้อมูลจาก Trip.com รายงานว่า ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา มีชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวกว่า 247 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 70.83% สร้างรายได้ไปกว่า 148,056 ล้านหยวน จำนวนข้างต้นเพิ่มขึ้นกว่า 1.29 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 86% ยังนิยมเลือกท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศระดับมาตรฐาน A ขึ้นไป ทำให้ยอดจำหน่ายบัตรเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 900%
นครซีอาน 1 ใน Top 10 เป้าหมายการท่องเที่ยวในประเทศ
นครซีอานเป็น 1 ใน 10 เมืองเป้าหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวในประเทศไปกว่า 13.02 ล้านคนครั้ง เพิ่มขึ้น 28.38% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 31.73% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งมณฑลส่านซี (มณฑลส่านซีต้อนรับนักท่องเที่ยวรวม 41.05 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.62% จากปี 2565) โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากมณฑลเจ้อเจียง, ปักกิ่ง, เสฉวน, เจียงซู และกวางตุ้งตามลำดับ และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมยอดนิยม 10 แห่งที่นักท่องเที่ยวไปเยือนมากที่สุด เป็นไปตามรูปภาพ ดังนี้
Datang All Day Mall ครองอันดับ 1 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในซีอานตลอดช่วงเทศกาลวันแรงงาน (ซ้าย)
CCTV รายงานปริมาณนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย. – 2 พ.ค. 2566 วัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่และสวนต้าถังฝูหรงมีนักท่องเที่ยวเข้าชมมากเป็นอันดับ 6 ของประเทศ (ขวา)
จากข้อมูลข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่านอกจากความนิยมท่องเที่ยวในสถานที่เชิงประวัติศาสตร์แล้ว ยังพบว่า Datang All Day Mall (大唐不夜城) ก้าวมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยมีนักท่องเที่ยวกว่า 1.12 ล้านคน[1] ตอกย้ำเป้าหมายความสำเร็จของการสนับสนุนแผนการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจกลางคืน ที่รัฐบาลมณฑลส่านซีได้เคยประกาศไว้ในช่วงปี 2563 ผ่านแผนการประกาศจัดตั้งเมืองสาธิตเศรษฐกิจกลางคืน (夜间经济示范城市) โดยกำหนดให้นครซีอานและเมืองเป่าจี เป็นพื้นที่นำร่องเมืองสาธิตฯ ของมณฑลส่านซี[2] ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ ถนนคนเดิน/ถนนสายวัฒนธรรม สถานบันเทิงยามค่ำคืน และโรงภาพยนตร์ โดยจะบูรณาการแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในแต่ละพื้นที่ สร้างความเจริญทางเศรษฐกิจในชุมชนอย่างยั่งยืน แต่อย่างไรก็ดี แผนดังกล่าวได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 พอสมควร โดยภายหลังการเปิดประเทศและเริ่มมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่ พบว่าสัดส่วนการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวในนครซีอานระหว่างช่วงเทศกาลแรงงานสูงถึง 65% ของรายได้ที่เกิดจากการท่องเที่ยวทั้งหมดในนครซีอานเลยทีเดียว โดยภาครัฐยังได้จัดกิจกรรมแจกบัตรคูปองรายเดือน (Huimin Monthly Card) มูลค่า 100 หยวน/ใบ จำนวน 5,000 ใบ/วัน เพื่อกระตุ้นการบริโภคในพื้นที่เพิ่มด้วย
เทรนด์การท่องเที่ยวในชนบทตลอดจนการท่องเที่ยวด้วยตนเองยังคงได้รับความนิยม
มณฑลส่านซี นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีท่องเที่ยวทางชนบทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อาทิ หมู่บ้านหนิวเปยเหลียง, เขตอุทยานเทือกเขาฉินหลิ่ง, ภูเขาไท่ไป๋, ภูเขาหัว, ภูเขาชุ่ยหัว เป็นต้น ผลจากความนิยมการท่องเที่ยวในพื้นที่ชนบท ทำให้ในช่วงเทศกาลแรงงานที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางกับสัตว์เลี้ยงของตนเองจำนวนไม่น้อยทำให้เกิดกระแสการท่องเที่ยว Travel with pet โดยนครซีอานได้จัดทำประกาศ 8 สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้าได้ คือ กำแพงเมืองโบราณ, วัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่, สระน้ำฉวี่เจียง, วัดเจดีย์ห่านป่าเล็ก, พิพิธภัณฑ์นครซีอาน, สวนต้าถังฟูหรง, สวนนิเวศวิทยาฉ่านป้า และหอกลอง ไว้เป็นตัวเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
คณะทัวร์พร้อมสัตว์เลี้ยงจากเขตฯ กว่างซีจ้วง (ซ้าย) , 8 สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยง (ขวา)
และไม่อาจปฏิเสธได้ว่าวิกฤติโควิด-19 มีส่วนผลักดันให้การท่องเที่ยวเป็นแบบอิสระและนิยมท่องเที่ยวแบบส่วนตัวในหมู่นักท่องเที่ยวจีนยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะเทคโนโลยีที่เข้ามามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกสถานที่ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน โดยในช่วงเทศกาลวันหยุดแรงงาน ปริมาณคำสั่งการเช่ารถยนต์บน ctrip.com เพิ่มสูงขึ้นกว่า 5.74 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมีระยะเวลาเช่าเฉลี่ย 5 วัน และมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 1,000 หยวนต่อการเช่า 1 ครั้ง ซึ่งสูงกว่าปี 2565 ถึง 1.71 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความต้องการการท่องเที่ยวแบบมีคุณภาพในแต่ละบุคคล
ทางการเร่งแก้ไขปัญหาโก่งราคาสินค้าและบริการ หวั่นกระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในมณฑล
ท่ามกลางกระแสความนิยมของนครซีอาน อีกมุมหนึ่งก็พบเสียงสะท้อนปัญหาค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าที่พักและค่าอาหารที่สูงเกินไปจากนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในนครซีอาน โดยห้องพัก Homestay ทั่วไปในนครซีอานเดิมมีราคาเฉลี่ยต่อคือที่ 120-180 หยวน ในช่วงเทศกาลวันแรงงานปรับตัวขึ้นไปสูงถึง 790 หยวน/คืน สอดคล้องกับข้อมูลจาก Fliggy.com ที่ระบุว่า ในช่วงเทศกาลวันแรงงานปริมาณการจองห้องพักแบบ Homestay ในมณฑลส่านซี สูงจากช่วงเวลาปกติมากถึง 10 เท่า ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาที่พักเพราะจำนวนความต้องการที่สูงขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังพบปัญหาการจัดการที่ไม่เป็นมืออาชีพ อาทิ การยกเลิกห้องพักที่จองและชำระเงินแล้วล่วงหน้า เนื่องจากคาดว่าในระหว่างช่วงเทศกาลจะสามารถทำกำไรได้มากขึ้นอีกด้วย ข้อมูลจากกรมกำกับดูแลตลาดมณฑลส่านซีได้เปิดเผยข้อมูลการร้องเรียนผ่านสายด่วนผู้บริโภค 12345 ในช่วงเทศกาลวันแรงงานในมณฑลส่านซีมีมากกว่า 3,780 เรื่องซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา โดยทางการอยู่ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นกลับมา
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวในต่างประเทศก็ยังคงได้รับความนิยมไม่แพ้การท่องเที่ยวในประเทศเช่นกัน โดยมียอดจองห้องพักในต่างประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 700%[1] เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยกรุงเทพฯ และภูเก็ต ยังคงติดอันดับหมายสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศยอดนิยมของชาวจีน จากสถิติข้างต้นที่พบการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจำนวนมากนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชาวจีนให้ความเชื่อมั่นในการกลับมาเดินทางท่องเที่ยวกันอีกครั้ง ซึ่งศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครซีอานจะได้ติดตามพัฒนาการและนำเสนอข้อมูลให้แก่ท่านผู้อ่านทราบในโอกาสต่อไป
*********************
[1] 10 เป้าหมายสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน ได้แก่ เขตฯ ฮ่องกง กทม. เขตฯ มาเก๊า สิงคโปร์ ภูเก็ต โซล โตเกียว กัวลาลัมเปอร์ โอซาก้า และไทเป
[1] https://xian.focus.cn/zixun/386f0a6e77d9b165.html
[2] ข้อมูลเพิ่มเติมที่ มณฑลส่านซีเตรียมผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภาคกลางคืน กระตุ้นการบริโภคท้องถิ่น https://globthailand.com/china-01072020/