ทางการปักกิ่ง จับกุมชายจีนคนหนึ่งหลังหายดีจากCOVID-19 ในคดีอาญาข้อหา “ขัดขวางการป้องกันโรคระบาด” – ปกปิดประวัติและไม่กักตัวตนเอง หลังเดินทางจากอู่ฮั่นไปพักบ้านแม่ที่ปักกิ่ง ตั้งแต่ช่วงCOVID-19ระบาดหนัก โดยออกจากอู่ฮั่นวันที่ 23มกราคม ก่อนที่อู่ฮั่นปิดเมืองไม่กี่ชั่วโมง
.
วันที่ 26 มีนาคม 2563 สำนักงานอัยการประชาชนเขตฝางซาน กรุงปักกิ่ง อนุมัติการจับกุมและดำเนินคดีชายชาวจีนคนหนึ่งในคดีอาญา ข้อหา ขัดขวางการป้องกันและควบคุมโรคระบาด
ชายคนนี้เป็นชาวอู่ฮั่น แต่เช้ามืดของวันที่ 23 มกราคม ไม่กี่ชั่วโมงก่อนอู่ฮั่นจะปิดเมือง เขาพาภรรยาและลูกขับรถออกจากอู่ฮั่นไปที่เมืองฉางซา จากนั้นได้นั่งเครื่องบินไปยังปักกิ่ง เพื่อที่ไปพักที่บ้านแม่ของเขาในเขตฝางซาน กรุงปักกิ่ง พร้อมภรรยาและลูก โดยถึงปักกิ่งวันที่ 24 มกราคม
พอมาถึงปักกิ่ง ไม่ยอมรายงานตัวว่ามาจากอู่ฮั่นทโดยมีจุดประสงค์ปกปิดประวัติ และแม้เขาจะเดินทางมาจากอู่ฮั่น พื้นที่ระบาดหนักในขณะนั้น เขาก็ไม่กักตัว แต่ยังคงเดินทางออกนอกบ้าน ไปที่ต่างๆ เช่น ซื้อของซุปเปอร์มาร์เก็ต ไปร้านขายยา
ต่อมา วันที่ 16 กุมภาพันธ์ แม่ของเขาได้รับการวินิจฉัยว่าป่วย COVID-19 ส่วนตัวของเขาเองก็ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อเช่นกัน แต่เป็นแบบไม่มีอาการป่วย โดยมีผู้ใกล้ชิดและผู้ที่เคยพบปะเขา 20ราย โดนกักตัวและเฝ้าระวัง
เขาได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลจนมั่นใจว่าปลอดเชื้อ ซึ่งเขาหายดีและออกจากรพ. เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา และหลังจากที่หายดี ก็โดนตำรวจจับในข้อหาดังที่กล่าวมาข้างต้น
ทางการจีนเอาจริงอย่างมากในการป้องกันและควบคุมการระบาด และผู้ที่มีพฤติกรรมขัดขวางมาตรการ นับเป็นคดีอาญา จะได้รับโทษหนัก ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไปว่า พอเข้าสู้กระบวนการยุติธรรมแล้ว ทางศาลจะตัดสินโทษอย่างไรบ้าง
อ้ายจงอ้างอิงจาก 人民日报 (People’s Daily)
https://m.weibo.cn/2803301701/4487045861288517
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน #covid19
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง