คลังความรู้
/
บทความ
/
บทวิเคราะห์และสรุป “สิ่งที่ต้องจับตามองและน่ากังวล ของสถานการณ์ COVID-19ในจีน แม…

บทวิเคราะห์และสรุป “สิ่งที่ต้องจับตามองและน่ากังวล ของสถานการณ์ COVID-19ในจีน แม…

เผยแพร่โดย :ฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง
เมื่อ :5 เมษายน 2020

บทวิเคราะห์และสรุป “สิ่งที่ต้องจับตามองและน่ากังวล ของสถานการณ์ COVID-19ในจีน แม้อู่ฮั่นจะยกเลิก Lockdown 8เมษานี้”

—–

ตอนนี้ ผู้คนในเมืองอู่ฮั่น เมืองที่ถือเป็นพื้นที่ระบาด COVID-19หนักที่สุดในจีน เริ่มออกมาพักผ่อนข้างนอกรับฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งตอนนี้การใช้ชีวิตของคนอู่ฮั่นเริ่มกลับสู่ภาวะปกติมากขึ้นเรื่อยๆ และมาตรการ Lockdownจะสิ้นสุดในวันที่ 8เมษายน2563 อีกไม่ถึง3วันนับจากนี้

แต่ถ้าถามคนจีนเอง รวมถึงตัวอ้ายจง ก็ต้องยอมรับว่า ยังไม่ 100% ที่จะบอกได้ว่าสงครามCOVID-19ในจีน จบลงแล้ว เพราะแม้ว่า ขณะนี้จะมีผู้ป่วยCOVID-19ที่รักษาตัวอยู่ในรพ.ทั่วจีน ลดลงเหลือ 2,371ราย และจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นรายวัน โดยเฉลี่ยไม่เกิน 50ราย

ยังคงมีบางประเด็นที่ยังต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ดังนี้

1.ผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ Asymptomic infection ยังคงมีเพิ่มขึ้น

หลังจากที่จีนปรับระบบรายงานสถานการณ์ COVID-19 โดยเพิ่มจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการเข้ามาในรายงานประจำวันด้วย ทำให้เราทราบว่า

ล่าสุด จำนวนผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ เพิ่มขึ้น 47ราย (มาจากนอกจีน 16ราย) ซึ่งถ้าแบ่งตามมณฑล – มณฑลหูเป่ย (รวมเมืองอู่ฮั่น) เพิ่ม 23ราย

ผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ อยู่ระหว่างการกักตัวทั้งหมด 1,024ราย (มาจากนอกจีน 244ราย) และในมณฑลหูเป่ย มีจำนวน37ราย

ก่อนหน้านี้ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ แห่งชาติจีน ออกมาแถลงว่า ผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการส่งผลกระทบในการระบาดค่อนข้างน้อย

เนื่องจาก ผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ จะแพร่ไปสู่ผู้อื่นในจำนวนเฉลี่ยน้อยกว่า1ราย และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการแพร่เชื้อจากผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ คิดเป็นสัดส่วน ไม่ถึง 5%ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด

2. เริ่มมีรายงาน การเปลี่ยนจาก ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ ไปเป็นผู้ติดเชื้อแบบมีอาการ ล่าสุด มีเพิ่มขึ้น 3ราย ที่เปลี่ยนไปเป็นแบบป่วยมีอาการ

และโดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากนอกจีน

3.ต้องยอมรับว่า “ผู้ที่เดินทางมาจากนอกจีน” ถือเป็นปัญหาใหญ่ในจีนสำหรับการป้องกันและควบคุม COVID-19ในขณะนี้

เพราะผู้ที่เดินทางจากนอกจีน กลายเป็น “คนกลุ่มใหญ่” ทั้งป่วยแบบมีอาการ และติดเชื้อแบบไม่มีอาการ รอวันอาการออก

มีผู้ติดเชื้อภายในพื้นที่จีนรายใหม่ 5ราย เป็นผู้ที่มีประวัติพบปะผู้ที่มาจากนอกจีน ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ที่มาจากนอกจีน เพิ่ม 25ราย รวมป่วยCOVID-19เพิ่ม 30ราย / ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ เพิ่ม47ราย มีเปลี่ยนเป็น ป่วยแบบมีอาการ3ราย

ตอนนี้ จีนมีผู้ป่วยCOVID-19ที่เดินทางจากนอกจีนสะสม 913ราย จากจำนวนผู้ป่วยสะสมทั่วจีน

4. จีนดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุม COVID-19 โดยเน้นไปที่ ป้องกันและคัดกรอง “คนที่เดินทางจากนอกจีน”

มีระบบตรวจ COVID-19 และกักตัว14วัน

แต่ก็ต้องยอมรับความจริงอีกนั่นแหล่ะครับ ว่า “มีบางเหตุการณ์ที่หลุดการคัดกรองและควบคุม”

เช่น กรณีนักเรียนชาวจีนอายุ16ปี เรียนในประเทศอังกฤษ กลับจากอังกฤษถึงปักกิ่ง 22มี.ค. จากนั้น 23มี.ค.นั่งรถไฟความเร็วสูงไปอู่ฮั่น และ 28มี.ค. พบว่าติดเชื้อแบบไม่มีอาการ และปลายเดือนมีนาคม เริ่มมีอาการ จึงถูกวินิจฉัยว่าป่วยCOVID-19

กรณีข้างต้น มีข้อสังเกต “กลับจากนอกจีน หากเข้าปักกิ่ง หรือเมืองอื่นๆ จะต้องถูกกักตัว14วัน แต่เคสนี้ ทำไมวันรุ่งขึ้น ถึงเดินทางกลับไปอู่ฮั่นได้?”

เคสนี้อ้ายจงได้หาข้อมูลเพิ่มเติมจากมาตรการที่ประกาศโดยปักกิ่งเมื่อกลางเดือนมีนาคม

พบว่า “ตอนนี้ทางปักกิ่ง จะคัดกรอง ตรวจcovid-19 ตรวจอาการต่างๆ และถ้าหากใครไม่ผิดปกติ ไม่มีอาการ และมีจุดหมายปลายทางที่เมืองอื่นนอกปักกิ่ง ทางปักกิ่งจะให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเมืองนั้น จัดรถโดยสารหรือรถไฟหรือยานหานะใดก็ตาม มารับคนของเมืองนั้น กลับไปที่เมือง และค่อยกักตัวที่นั่น”

ตอนคัดกรองที่ปักกิ่ง เด็กคนนี้ ไม่มีอาการเข้าข่าย แต่พอไปถึงอู่ฮั่น จึงเริ่มมีอาการ

5. จีนเริ่มพบว่า อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีการแพร่และติดเชื้อขณะอยู่บนเครื่องบินลำเดียวกันของคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

วันนี้ 3 เม.ย. 63 ทางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคปักกิ่ง แถลงถึงสถานการณ์ COVID-19 โดยพูดถึงจำนวนผู้ป่วยทั่วโลกที่เกินหนึ่งล้านรายแล้ว จึงแนะนำว่า หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ ไม่ควรไปในประเทศที่ระบาดหนักไม่ว่าจะไปด้วยเหตุผลใดก็ตาม ซึ่งตอนนี้การติดเชื้อ มีความเสี่ยงทั้งติดในต่างประเทศ และบนเครื่องบินเองก็เสี่ยงเช่นกัน

โดยมีรายงานถึงการพบผู้โดยสารบนเที่ยวบินหนึ่งที่ถูกวินิจฉัยว่าป่วยCOVID-19 มากที่สุดถึง 13รายบนเที่ยวบินนั้น ทางปักกิ่งจึงขอแนะนำให้ทุกคนใส่หน้ากากขณะนั่งบนเครื่องบินด้วย

6. ทางจีน เพิ่งเสร็จสิ้นทดลองวัคซีนในกลุ่มอาสาสมัคร 108คน ซึ่งเป็นการทดลองทางคลินิคครั้งแรก และจะมีการรายงานผลออกมาในเดือนเมษายนนี้ ดังนั้นต้องติดตามว่า ผลจะเป็นไงบ้าง

7. ศาสตราจารย์จงหนานซาน หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญในจีนผู้รับผิดชอบค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับ COVID-19 แสดงความคิดเห็นผ่านทาง CCTV News สื่อทางการจีน เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อย่างน่าสนใจ

“ทั่วโลกจะถึงจุดเปลี่ยนและสถานการณ์ COVID-19 จะค่อยๆดีขึ้นในเดือนเมษายนนี้ หากแต่ละประเทศมีมาตรการในการควบคุมและป้องกันอย่างเข้มงวด”

ก็ต้องจับตาดูเรื่องนี้เช่นกันนะครับ ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

—–

สรุปสถานการณ์ COVID-19 ประจำวันที่ 5เม.ย.63

1. จำนวนผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ เพิ่มขึ้น 47ราย (มาจากนอกจีน 16ราย)

– เปลี่ยนไปเป็น ป่วยแบบมีอาการ 3ราย

– ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ อยู่ระหว่างการกักตัวทั้งหมด 1,024ราย (มาจากนอกจีน 244ราย)

2. จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ (แบบมีอาการ) 30ราย

– ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากนอกจีน (Imported case) 25ราย

– ผู้ป่วยในประเทศ (Local infection) 5ราย พบที่มณฑลกว่างตงทั้งหมด โดยทุกคนมีประวัติใกล้ชิดและพบปะคนป่วยที่มาจากนอกจีน

2. จำนวนผู้ที่หายดีและออกจากรพ. เพิ่มขึ้น 213ราย

3. จำนวนผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้น 3ราย มาจากมณฑลหูเป่ยทั้งหมด