กินเจ 9 วัน กับ 9 เกร็ดความรู้สุด #WOW ในเทศกาลกินเจ . อีกหนึ่งเทศกาลสุด #WOW ที…

กินเจ 9 วัน กับ 9 เกร็ดความรู้สุด #WOW ในเทศกาลกินเจ
.
อีกหนึ่งเทศกาลสุด #WOW ที่แทบไม่พบแล้วในประเทศจีน
แต่ยังมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากในเมืองไทยและอาเซียน
.
#WOWCHINA พาไปรู้จักกับ “เทศกาลกินเจ” ของชาวจีนโพ้นทะเลที่มีความเชื่อมาอย่างยาวนาน และรูปอาหารเจที่แปรธัญพืชให้เป็นเนื้อในเมืองจีนมาให้ชมกัน
.
(1) “เทศกาลกินเจ” หรืออาจเรียกได้ว่า “เทศกาลถือศีลกินผัก” เริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 เป็นจำนวน 9 วัน 9 คืน ในราวปลายเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปี ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 17 ตุลาคม – 25 ตุลาคม 2563 โดยบางคนที่เคร่งครัดอาจจะเริ่มกินเจกันตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมเพื่อล้างท้องไปก่อน
.
(2) จุดเริ่มต้นของความเชื่อและตำนานที่มีมากมายของเทศกาลกินเจนั้น ตัวอย่างที่ได้ยินบ่อย ๆ เช่นตำนานที่ว่า กินเจเพื่อรำลึกและไว้ทุกข์ให้แก่วีรชนทหารทั้ง 9 นายที่ต่อสู้กับชาวแมนจูอย่างกล้าหาญ หรือบางตำนานว่า กินเจเพื่อประกอบพิธีกรรมบวงสรวงและสักการะบูชาเทพเจ้า 9 พระองค์ ได้แก่ พระพุทธเจ้า 7 พระองค์และพระมหาโพธิสัตว์ 2 พระองค์ หรือที่เรียกว่า Nine Emperpr Gods (九皇大帝)
.
(3) คำว่า “เจ” หรือ “ไจ” (斋) ในภาษาจีนกลาง คือ การรับประทานแต่ผักและละเว้นเนื้อสัตว์ของผู้ที่เชื่อและศรัทธาในลัทธิเต๋า ซึ่งมีความเชื่อในเรื่องของเทพเจ้า เทวดา และเซียนต่าง ๆ “ไจ” (斋) ยังมีความหมายถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่กระทำด้วยความบริสุทธิ์ เพื่อสักการะบูชาเทพเจ้าและเทวดา
.
กินเจ จึงเป็นการละเว้นจากการบริโภคเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากสัตว์และทำจากสัตว์ทุกชนิด
.
ผู้ที่กินเจ นอกจากไม่รับประทานเนื้อสัตว์แล้ว ยังพึงต้องรักษาศีล 5 ด้วยความบริสุทธิ์ สะอาดทั้งกาย วาจา ใจ
.
(4) การกินเจของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ในอดีต ส่วนใหญ่เป็นชาวฮกเกี้ยนและแต้จิ๋ว ซึ่งอาศัยอยู่มากในมณฑลฝูเจี้ยนและมณฑลกวางตุ้ง ชาวจีนในทั้งสองมณฑลนี้ได้อพยพมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นจำนวนมาก ทั้งประเทศไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย จึงได้นำเอาวัฒนธรรมความเชื่อ ค่านิยมและประเพณีต่าง ๆ มาด้วย รวมถึงเทศกาลกินเจด้วยและยังคงสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
.
(5) การกินเจมีหลักธรรมที่สำคัญ 2 ประการคือ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนตนเองและดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ดังนั้น กินเจ คือ ไม่กินเนื้อสัตว์
.
การกินเจ นอกจากไม่กินเนื้อสัตว์แล้วนั้น ยังมีข้อห้าม/ข้อควรปฏิบัติอีกหลายอย่าง อาทิ
(1) ละเว้นผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หอมทุกชนิด (หอมใหญ่ หอมแดง) ต้นหอม ผักชี กุ้ยช่าย
(2) ละเว้นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์ เช่น นม น้ำปลา น้ำผึ้ง เจลาติน คอลลาเจน เนย น้ำมัน หรือไขมันสัตว์
(3) ละเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(4) หลีกเลี่ยงอาหารรสจัดต่าง ๆ ทั้งเค็มจัด หวานจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด
(5) หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะร่วมกับผู้ที่ไม่ได้กินเจ
.
(6) การล้างท้อง คือ การกินเจในระยะเวลา 1-2 วันก่อนเริ่มเทศกาลจริง เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับสภาพ ปรับสมดุลและคุ้นชินกับอาหารเจ
.
นอกจากนี้ ความเชื่ออีกอย่างในช่วงเทศกาลกินเจ คือ ห้ามดับตะเกียงทั้ง 9 ดวง ซึ่งเปรียบเสมือนพระพุทธเจ้าทั้ง 9 พระองค์นั่นเอง จึงมีความเชื่อที่ว่าตลอดเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืน จะต้องจุดตะเกียงไว้เพื่อเป็นการสักการะบูชาพระพุทธเจ้าและเพื่อเป็นสิริมงคล
.
(7) เทศกาลกินเจที่โด่งดังและมีชื่อเสียงอย่างมากในไทย คือ เทศกาลกินเจจังหวัดภูเก็ต ชาวไทยเชื้อสายจีนในภูเก็ตส่วนมากนั้นเป็นชาวจีนฮกเกี้ยน จึงได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมกินเจมากอย่างมาก โดยมีประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างไปจากที่อื่น อย่างเช่น ขบวนแห่ม้าทรง (ม้าทรง หมายถึง ร่างทรงของเทพเจ้า/เทวดาในความเชื่อของชาวจีน) ที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์และอภินิหารต่าง ๆ ลุยไฟ พ่นไฟ ปีนบันไดมีด ใช้สิ่งของมีคมแทงร่างกาย โดยมีความเชื่อที่ว่าม้าทรงจะทรมานตนเอง เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ให้กับผู้ที่กินเจ
.
(8) ปัจจุบัน เทศกาลกินเจได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบและลักษณะไปอย่างมาก ทั้งชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีนต่างนิยมกินเจกันมากขึ้น ทั้งเพื่อเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว ลดการเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตอื่น และกินเจเพื่อสุขภาพที่ดี กินเจจะเน้นทานผัก ผลไม้และเต้าหู้ ทำให้กระเพาะไม่ทำงานหนัก รวมถึงยังดีต่อระบบขับถ่ายและลำไส้อีกด้วย นอกจากนี้ “กินเจ” ยังแตกต่างกับ “กินมังสวิรัติ” คือ กินมังสวิรัติ สามารถกินผักได้ทุกชนิด กินไข่และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ได้ เพียงแค่ไม่กินเนื้อสัตว์เท่านั้น
.
(9) อาจจะดูเหมือนว่าชาวจีนแผ่นดินใหญ่ไม่นิยมกินเจสักเท่าไรนัก เนื่องจากการกินเจความเชื่อด้านศาสนา ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ถูกทำลายและหายสาบสูญไปอย่างมากในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม
.
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ชาวจีนกว่า 50 ล้านคนในปัจจุบันเริ่มกินอาหารเจและมังสวิรัติ (ข้อมูลจากเว็บไซต์ vegconomist) เรายังสามารถพบร้านอาหารเจและมังสวิรัติได้อย่างทั่วไปในจีนและยังมีรสชาติที่อร่อยอีกด้วย
.
เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2019 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดการประชุมแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาอาหารมังสวิรัติขึ้นเป็นครั้งแรก ณ กรุงปักกิ่ง (首届全国素食发展大会) เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารเจและมังสวิรัติในจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดอาหารเจและมังสวิรัติที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
.
#WOW #WOWCHINA #ครบเครื่องเรื่องจีน #เชื่อมคุณกับจีนในทุกมิติ










ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
Wow China

อัพเดทล่าสุด

Facebook

ติดตามเราบน Facebook

Youtube

ติดตามเราบน Youtube

ฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เลขที่ 21 ถนนกวงหวา เขตฉาวหยาง กรุงปักกิ่ง 100600 สาธารณรัฐประชาชนจีน อีเมล : [email protected]

© 2020-2024 Science and Technology Section, Royal Thai Embassy in Beijing Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation, 21 Guanghua Road, Chaoyang District, Beijing 100600 P.R.C. E-mail: [email protected]