สัมผัสวัด 5 เจดีย์ท่ามกลางใบไม้เหลืองอร่าม
จากวัดลับกว่า 600 ปีในกรุงปักกิ่งที่น้อยคนจะรู้จัก
สู่วัดดังสุด #WOW แหล่ง UNSEEN ใหม่ในวัยรุ่นจีน
.
กรุงปักกิ่งนั้นมีวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปหลายแห่ง แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักและเคยไปสัมผัสความงามของวัด 5 เจดีย์ จนกระทั่งความงามของวัดท่ามกลางใบไม้เหลืองอร่ามในฤดูใบไม้ร่วงถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกออนไลน์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของวัด UNSEEN สุด #WOW ในกรุงปักกิ่งที่ทำให้ผู้คนกลับมาสนใจและรู้จักวัดนี้อีกครั้งในรอบทศวรรษ
.
วัด 5 เจดีย์ (五塔寺) หรือเดิมชื่อวัดเจินเจวี๋ย (真觉寺) สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง (明朝) โดยจักรพรรดิหย่งเล่อ (永乐皇帝) ก่อสร้างก่อนพระราชวังต้องห้ามราว 3 ปี ช่วงปี 1403 – 1424 เป็นวัดเจดีย์พุทธคยาโบราณกว่า 600 ปี
.
ตามพงศาวดารจีนกล่าวว่า ในต้นรัชสมัยของจักรพรรดิหย่งเล่อ มีพระภิกษุชาวอินเดียได้เดินทางจากชมพูทวีปมายังกรุงปักกิ่ง โดยได้ถวายพระพุทธรูปทองคํา 5 องค์ และแบบตัวอย่างเจดีย์พุทธคยาของอินเดียให้แก่จักรพรรดิหย่งเล่อ พระองค์จึงได้พระราชทานพื้นที่และสร้างวัดตามแบบเจดีย์พุทธคยานั้น จึงกลายเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาของกรุงปักกิ่งในสมัยนั้น
.
ภายในเป็นที่ตั้งของเจดีย์ 5 ยอด และรายล้อมด้วยตัวอาคารทรงสี่เหลี่ยม ประดิษฐานพระพุทธรูปกว่าพันองค์ วัด 5 เจดีย์เป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมราชวงศ์หมิงและอินเดียเข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน ทั้งยังเป็นหนึ่งในงานแกะสลักหินที่โดดเด่นและสมบูรณ์แบบแห่งหนึ่งของราชวงศ์หมิงอีกด้วย
.
ในสมัยราชวงศ์ชิง (清朝) จักรพรรดิเฉียนหลง (乾隆皇帝) ได้บูรณะวัด 5 เจดีย์ 2 ครั้ง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่พระพันปีหลวง พระองค์ได้ใช้วัด 5 เจดีย์เป็นสถานที่จัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษาให้กับพระพันปีหลวง รวมถึงเชิญลามะ (พระภิกษุชาวทิเบต) จำนวน 1,000 รูป เพื่อร่วมสวดมนต์และเข้ารับการถวายของขวัญจากอาคันตุกะนานาประเทศ
.
ในปลายราชวงศ์ชิง เนื่องจากไร้ผู้ดูแล วัด 5 เจดีย์จึงทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ทำให้กลายเป็นวัดลับที่ไม่มีคนสนใจ ภายหลังปี 1949 รัฐบาลจีนให้ความสำคัญและบูรณะวัดอย่างต่อเนื่อง จึงกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะการแกะสลักหินกรุงปักกิ่งจนถึงปัจจุบัน
.
ปัจจุบันวัด 5 เจดีย์ เป็นแหล่ง UNSEEN สุด #WOW บนสื่อออนไลน์ วัยรุ่นชาวจีนให้ความสนใจกันอย่างมาก และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ชาวจีนนิยมมาเที่ยวในฤดูใบไม้ร่วง
.
ใบสีเหลืองทองของต้นแปะก๊วยอายุกว่าร้อยปี อยู่คู่กับประตูวัดสีแดงสดใส ทำให้เป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามที่ข้ามผ่านกาลเวลา และกลับมาเปล่งประกายจนเป็นที่รู้จักอีกครั้งในรอบทศวรรษ
.
การเดินทาง: รถไฟใต้ดิน – สาย 4 และ 9 – สถานี National Library ประตู C
Tips: บัตรค่าเข้าชมราคา 20 หยวน
.
#WOW #WOWCHINA #ครบเครื่องเรื่องจีน #เชื่อมคุณกับจีนในทุกมิติ
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
Wow China
