ทางการปักกิ่งเริ่มฉีดวัคซีน COVID-19 ให้กับชาวต่างชาติที่อยู่ในปักกิ่ง โดยฉีดให้ฟรีสำหรับผู้ที่ทำประกันสุขภาพในจีน ถ้าไม่มีประกัน จ่ายโดสละไม่เกิน 500 บาท
.
อย่างที่อ้ายจงเคยเล่าไปก่อนหน้านี้นะครับ ตามเมืองต่างๆของจีนมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนของตนเองอย่างเป็นทางการตั้งแต่มกราคม 2564 ที่ผ่านมา โเยเริ่มจากกลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ที่ทำงานต้องพบปะคนหมู่มาก และขยายวงไปยังกลุ่มคนทั่วไป
.
มีคำถามเกิดขึ้นตามมา “การฉีดวัคซีนครอบคลุมถึงคนต่างชาติหรือไม่?”
.
คำตอบก็คือ “เมืองต่างๆในจีนที่มีนโยบายฉีดวัคซีนให้กับคนที่อาศัยในเมืองนั้นๆ เริ่มมีการฉีดให้กับคนต่างชาติแล้ว อย่างเช่น ที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ตามการรายงานของ People’s Daily สื่อจีน
.
โดยชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในปักกิ่งตอนนี้ ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถขอฉีดวัคซีน COVID-19 แบบ Inactivated ซึ่งผลิตในจีน ได้ โดยต้องฉีด 2 โดส (เข็ม)
.
ในประกาศที่ออกมาจากทางการ ไม่ได้ระบุชื่อของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน ระบุเพียงว่าเป็น Inactivated ซึ่งก็มีเข้าข่ายคือ Sinovac และ Sinopharm ครับ แต่เท่าที่ผ่านมาที่ฉีดในคนจีน ก็ใช้ทั้งสองตัวเลย
.
สำหรับการแจ้งความต้องการขอฉีด สามารถทำได้โดยดูรายละเอียดประกาศหรือสอบถามจากทางคอนโด-ย่านที่พักอาศัย / บริษัท-นายจ้าง / โรงเรียน-มหาวิทยาลัย (สอบถามทางอาจารย์-เจ้าหน้าที่ดูแลนักศึกษาต่างชาติ) เพื่อทำการนัดฉีดวัคซีน โดยจะได้รับการแจ้งวันเวลาและสถานที่ในการฉีด
.
เอกสารที่ต้องใช้ในการฉีดวัคซีน ได้แก่ พาสปอร์ต และเอกสารใบรับอนุญาตให้พำนักในจีน (Residence Permit) ทางเจ้าหน้าที่จะให้เราเซ็นเอกสาร Informed Consent เพื่อแสดงว่าเรารับรู้รายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการฉีดวัคซีน และเอกสารอีกหนึ่งอัน คือ แบบฟอร์มยินยอมรับความเสี่ยงในการฉีดวัคซีน
.
ค่าใช้จ่ายในการฉีดวัคซีนสำหรับชาวต่างชาติในปักกิ่ง อยู่ที่ 93.5 หยวน ต่อโดส (ราว 467.5 บาท) ดังนั้นฉีด 2 โดส ค่าใช้จ่ายรวมเท่ากับ 187 หยวน (ราว 935 บาท)
แต่ถ้าใครทำประกันสุขภาพในจีนไว้ ไม่ต้องจ่ายเงิน สามารถรับการฉีดได้ฟรี
.
ทั้งนี้ทางจีนได้เน้นย้ำรายละเอียดการฉีดวัคซีน ผ่านสื่อจีน ว่า หลังการฉีด ยังคงต้องผ้องกันตนเองจากโควิดอย่างเคร่งครัด เพราะแม้จะฉีดวัคซีนแล้วแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีภูมิคุ้มกัน และปลอดภัยจากการติดโควิด 100% โดยประสิทธิภาพของวัคซีนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลด้วย
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง