เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 มณฑลซานตงได้ก่อสร้างสถานี 5G แห่งที่ 100,000 ณ Quancheng Square นครจี่หนาน ซึ่งเป็นนครเอกของมณฑลซานตง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มณฑลซานตงได้เพิ่มความพยายามในการเร่งสร้าง และพัฒนาเทคโนโลยี 5G เสริมสร้างการบูรณาการ และการประยุกต์ใช้เครือข่าย 5G ให้เป็นนวัตกรรมใหม่ในสาขาต่าง ๆ รวมถึงการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง และการสร้างเมืองอัจฉริยะ (Smart City)
ในปี 2564 การลงทุนในเทคโนโลยี 5G ของมณฑลซานตง รวมมูลค่ากว่า 8.37 ล้านหยวน (1.31 ล้านเหรียญสหรัฐ) และทุกเขตพื้นที่ 16 เมืองในมณฑลซานตง ก็ได้รับเทคโนโลยีเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงศูนย์กลางการขนส่ง มหาวิทยาลัยที่สำคัญ โรงพยาบาล ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A สวนอุตสาหกรรม และพื้นที่สำคัญอื่น ๆ ในมณฑลซานตงก็สามารถเข้าถึงเครือข่าย 5G ได้
ปัจจุบัน มีจำนวนผู้ใช้งาน 5G ในมณฑลซานตงแล้วกว่า 29.19 ล้านครัวเรือน และมณฑลซานตงได้สนับสนุนและส่งเสริมการทดลองพัฒนาแอปพลิเคชันของเทคโนโลยี 5G กว่า 142 ระบบ ในเขตอุตสาหกรรม 15 แห่ง และได้ใช้ระบบปฏิบัติการเทคโนโลยี 5G ในโครงการสาธิตนำร่องเทคโนโลยีอุตสาหกรรม 5G 233 โครงการ ซึ่งก่อให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่อีกมากมายในอนาคต
ท่าเรือชิงต่าว เริ่มใช้เทคโนโลยี 5G ในช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้เครนท่าเรือ (quay cranes) สามารถเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งท่าเรือชิงต่าวถือเป็นท่าเรือแห่งแรกของโลกที่นำเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้ในกิจการท่าเทียบเรือขนส่งสินค้า เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถควบคุมเครนยกตู้สินค้าได้จากระยะไกล ผ่านโครงข่ายเทคโนโลยี 5G
ตามแผนพัฒนาอุตสาหกรรมการสื่อสารโทรคมนาคมของมณฑลซานตงระยะ 5 ปี (2564-2568) มณฑลซานตงตั้งเป้าหมายสร้างสถานี 5G ให้มากกว่า 250,000 แห่ง ภายในสิ้นปี 2568
เทคโนโลยี 5G ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในด้านต่าง ๆ ของการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของจีนอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านอุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และธุรกิจในแขนงต่าง ๆ ช่วยส่งเสริมและกระตุ้นการบริโภค และพัฒนาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ปัจจุบัน จีนได้สร้างสถานี 5G ไปแล้วกว่า 1 ล้านแห่งทั่วประเทศ คิดเป็นร้อยละ 70 ของการติดตั้งสถานี 5G ทั้งหมดทั่วโลก โดยมณฑลซานตงมากสุดเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ มณฑลซานตงได้สนับสนุนนวัตกรรมเทคโนโลยี AI การทำงานของหุ่นยนต์เชิงธุรกิจ และการบูรณาการการผลิตเข้ากับการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในรูปแบบ “Internet of Things (IoT)” มาโดยตลอด เพื่อสอดคล้องและรองรับกับกลุ่มประเทศ RCEP ในอนาคต
สำหรับประเทศไทย กลยุทธ์การพัฒนาระบบโทรคมนาคมของไทยไม่อาจมองเพียงแต่การพัฒนาเทคโนโลยี 5G และการสร้างเครือข่ายสัญญาณ 5G เชิงพาณิชย์ของค่ายโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงการพัฒนา 5G ในระยะยาวที่รัฐจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าวในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ของรัฐ เช่น การพัฒนา smart city และอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย เช่น เกษตรและพลังงาน เป็นต้น รวมถึงสามารถส่งเสริมและผลักดันเทคโนโลยี 5G ในการขับเคลื่อนโครงการ EEC การค้าการลงทุนของกลุ่มประเทศอาเซียน หรือกลุ่มประเทศ RCEP ได้ในอนาคต
แหล่งที่มา:
1. เว็บไซต์ทางการของสำนักข่าวซินหัวซานตง http://shandong.chinadaily.com.cn/2021-11/29/c_685742.htm (วันที่ 29 พ.ย. 2564)
2. เว็บไซต์ทางการ 大众网
– https://sd.dzwww.com/sdnews/202111/t20211129_9490822.htm (วันที่ 29 พ.ย. 2564)
– https://sd.dzwww.com/sdnews/202111/t20211129_9489156.htm (วันที่ 29 พ.ย. 2564)
– https://sd.dzwww.com/sdnews/202111/t20211129_9489255.htm (วันที่ 29 พ.ย. 2564)
3. https://baijiahao.baidu.com/s?id=1711753459496924028&wfr=spider&for=pc
4. https://baijiahao.baidu.com/s?id=1711227430670926574&wfr=spider&for=pc