ไฮไลท์
- งาน The World Rice Noodle Expo ประจำปี 2564 เตรียมเปิดฉากที่เมืองหลิ่วโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2564 โดยงานในปีนี้จะมี “เส้นหมี่หอยขมในน้ำมันพริก” หรือที่ภาษาจีนเรียกว่า ‘หลัวซือเฝิ่น’ เป็นพระเอกของงาน พร้อมกับผลิตภัณฑ์เส้นหมี่ขาว (เส้นที่ทำจากแป้งข้าวจ้าว) ที่มีชื่อเสียงจากทั้งในและต่างประเทศอีกมากกว่า 50 ชนิด
- ภายในงาน The World Rice Noodle Expo มีกิจกรรมการประชุม และโซนจัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจ อาทิ โซนจัดแสดงผลิตภัณฑ์เส้นขาวของจีนและต่างประเทศ โซนจัดแสดงแบรนด์ผลิตภัณฑ์เส้นขาวของกว่างซี โซนจัดแสดงธุรกิจเส้นขาวที่มีชื่อเสียงของกว่างซี โซนจัดแสดงห่วงโซ่อุปทานเส้นขาว โซนจัดแสดงอุปกรณ์เครื่องจักรสำหรับการผลิตเส้นขาว และโซนบริการทางธุรกิจการค้าและ e-Commerce
- ประเทศจีนเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับธุรกิจเส้นขาวและเส้นหมี่กึ่งสำเร็จของประเทศไทย ข้อมูลจาก World Instant Noodles Association หรือ WINA ระบุว่า ในปี 2563 ประเทศจีน/ฮ่องกงมีความต้องการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากถึง 46,350 ล้านห่อ ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 ของโลก และทิ้งห่างประเทศอินโดนีเซียที่รั้งอันดับ 2 ของโลกอยู่ถึง 3.67 เท่า ขณะที่ประเทศไทย มีการบริโภคอยู่ที่ 3,710 ล้านห่อ อันดับที่ 9 ของโลก
- ด้วยสังคมจีนในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ ประกอบกับ “อาหารไทย” ได้รับเสียงตอบรับที่ดีในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน และมีดีมานด์ในตลาดจีนอยู่แล้ว จึงเป็นโอกาสที่ภาครัฐและภาคเอกชนไทยสามารถร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์และผลักดันให้ธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารไทยพร้อมทาน (ready to eat) รวมถึงอาหารที่มีความเฉพาะเจาะจงในผู้บริโภคบางกลุ่มในการรุกเข้าสู่ตลาดจีน
งาน The World Rice Noodle Expo ประจำปี 2564 เตรียมเปิดฉากที่เมืองหลิ่วโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2564 โดยงานในปีนี้จะมี “เส้นหมี่หอยขมในน้ำมันพริก” หรือที่ภาษาจีนเรียกว่า ‘หลัวซือเฝิ่น’ เป็นพระเอกของงาน พร้อมกับผลิตภัณฑ์เส้นหมี่ขาว (เส้นที่ทำจากแป้งข้าวจ้าว) ที่มีชื่อเสียงจากทั้งในและต่างประเทศอีกมากกว่า 50 ชนิด
เหตุผลสำคัญที่เสนอให้ ‘หลัวซือเฝิ่น’ เป็นไฮไลท์สำคัญของงาน The World Rice Noodle Expo ประจำปี 2564 เนื่องจาก ‘หลัวซือเฝิ่น’ เป็นต้นแบบความสำเร็จของการพัฒนาอุตสาหกรรมเส้นขาวในกว่างซี ธุรกิจที่เริ่มต้นจากร้านเล็กๆ ข้างทาง เติบโตขึ้นเป็นอุตสาหกรรมมูลค่าสูงหลักหมื่นล้านหยวนในเวลาอันสั้น ด้วยความโดดเด่นในเรื่องรสชาติ ซึ่งมีทีเด็ดอยู่ที่น้ำซุปรสหอยขมรสชาติเผ็ดจัดจ้านที่ผสมผสานกับเครื่องเคียงที่หลากหลาย ประกอบกับการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาด e-Commerce และเทคโนโลยีสื่อสารออนไลน์ในยุคดิจิทัล ช่วยให้ ‘หลัวซือเฝิ่น’ ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
งาน The World Rice Noodle Expo จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2562 เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ช่วยประชาสัมพันธ์และยกระดับแบรนด์และส่งเสริมการพัฒนาของธุรกิจ/อุตสาหกรรม “เส้นขาว” รวมถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของจีนและต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทย
สำหรับงาน The World Rice Noodle Expo ปีนี้ นอกจากกิจกรรมการประชุมที่จะจัดขึ้นในรูปแบบผสมผสานระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์แล้ว ยังมีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการราว 12,000 ตร.ม. มีทั้งโซนจัดแสดงผลิตภัณฑ์เส้นขาวของจีนและต่างประเทศ โซนจัดแสดงแบรนด์ผลิตภัณฑ์เส้นขาวของกว่างซี โซนจัดแสดงธุรกิจเส้นขาวที่มีชื่อเสียงของกว่างซี โซนจัดแสดงห่วงโซ่อุปทานเส้นขาว โซนจัดแสดงอุปกรณ์เครื่องจักรสำหรับการผลิตเส้นขาว และโซนบริการทางธุรกิจการค้าและ e-Commerce
หลายปีมานี้ รัฐบาลกว่างซีให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรม “เส้นขาว” ของมณฑลเป็นอย่างมาก เมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา รัฐบาลกว่างซีได้ประกาศแผนปฏิบัติการเพื่อเร่งผลักดันอุตสาหกรรมหลัวซือเฝิ่นและอุตสาหกรรมเส้นขาวที่มีเอกลักษณ์ของกว่างซีสู่การพัฒนาเชิงคุณภาพ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงบูรณาการแบบองค์รวมในห่วงโซ่อุตสาหกรรมเส้นขาวของกว่างซี โดยมุ่งไปที่การพัฒนาสู่ระบบอุตสาหกรรมและการแนะนำให้ภาคธุรกิจขยายตลาดต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2568 ห่วงโซ่อุตสาหกรรมเส้นขาวของกว่างซีจะสร้างรายได้จากการจำหน่ายได้มากกว่า 1 แสนล้านหยวน
การวางกลยุทธ์เชิงนโยบายที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลนับว่าเป็นหัวใจหลักที่ทำให้อุตสาหกรรมเส้นขาวของกว่างซีเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสามารถเป็นแบบอย่างให้แก่ประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งรวมถึงประเทศไทย กล่าวคือ รัฐบาลให้ความสำคัญกับแนวทางการพัฒนาที่ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำไปสู่ปลายน้ำ คือ การผลิต การแปรรูป การจำหน่าย และการเพิ่มมูลค่าสินค้า อาทิ (1) การพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรมเส้นขาว (2) การส่งเสริมการคลัสเตอร์ธุรกิจเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรม (3) การส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี (Core Technology) (4) การพัฒนาแบรนด์ ซึ่งจะช่วยกรุยทางไปสู่การขยายตลาด (5) การเพิ่มมาตรฐานการกำกับดูแลตลาดและมาตรฐานสินค้า และ (6) การส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงผสมผสานกับวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
บีไอซี เห็นว่า ประเทศจีนเป็นตลาดที่มีศักยภาพสำหรับธุรกิจเส้นขาวและเส้นหมี่กึ่งสำเร็จของประเทศไทย ข้อมูลจาก World Instant Noodles Association หรือ WINA ระบุว่า ในปี 2563 ประเทศจีน/ฮ่องกงมีความต้องการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากถึง 46,350 ล้านห่อ ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 ของโลก และทิ้งห่างประเทศอินโดนีเซียที่รั้งอันดับ 2 ของโลกอยู่ถึง 3.67 เท่า
ขณะที่ประเทศไทย มีปริมาณการบริโภคอยู่ที่ 3,710 ล้านห่อ อันดับที่ 9 ของโลก โดยชาวจีนนิยมบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ‘บิ๊กคัพ’ โดยซุปรสเนื้อวัว เนื้อหมู และเครื่องเทศจีน (ฮ่องกง นิยมรสไก่กับรสทะเล) ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ด้วยสังคมจีนในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ ประกอบกับ “อาหารไทย” ได้รับเสียงตอบรับที่ดีในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน และมีดีมานด์ในตลาดจีนอยู่แล้ว จึงเป็นโอกาสที่ภาครัฐและภาคเอกชนไทยสามารถร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์และผลักดันให้ธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ธุรกิจอาหารไทยพร้อมทาน (ready to eat) รวมถึงธุรกิจอาหารที่มีความเฉพาะเจาะจงในผู้บริโภคบางกลุ่มในการรุกเข้าสู่ตลาดจีน ไม่ว่าจะเป็นอาหารสำหรับผู้สูงอายุ อาหารสำหรับผู้ออกกำลังกาย และอาหารเฉพาะโรคที่เน้นฟังก์ชันสำหรับป้องกันและควบคุมอาการของโรค ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่า (value added) ให้กับอาหารไทย และตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ “ครัวไทยสู่ครัวโลก”
จัดทำโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ที่มา เว็บไซต์ www.gxchinanews.com (中新社广西) วันที่ 22 ตุลาคม 2564
เว็บไซต์ http://gx.news.cn (广西新闻网) วันที่ 13 ตุลาคม 2564
เว็บไซต์ https://instantnoodles.or