หางโจว, 18 ต.ค. (ซินหัว) — เทคโนโลยีดิจิทัลที่เติบโตแข็งแกร่ง ช่วยจีนขับเคลื่อนการหลอมรวมเทคเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ากับกระบวนการผลิตและวิถีชีวิตของประชาชนในชนบท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการสร้างความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน ซึ่งเป็นเขตสาธิตด้านการส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน มุ่งฟื้นฟูพลวัตของพื้นที่ชนบทด้วยการปฏิรูปทางดิจิทัล ธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้ฉีดแรงกระตุ้นสู่อุตสาหกรรมชนบท และเข้ามามีบทบาทสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตและขจัดความยากจนของมณฑล
หวงเจียเฟย เจ้าของกิจการขายชาในอำเภอซงหยางของเมืองลี่สุ่ย ระบุว่ารายได้จากการขายชาทางออนไลน์ของบริษัทสูงแตะ 160 ล้านหยวน (ราว 832.44 ล้านบาท) ในปี 2020 หลังเขาเริ่มร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น พินตัวตัว (Pinduoduo) สร้างช่องทางการขายให้เกษตรกรผู้ปลูกชาในท้องถิ่นกว่า 1,000 ราย
“เราสร้างนิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับอุตสาหกรรมชาท้องถิ่นที่เติบโตด้วยอีคอมเมิร์ซ” เหอหัวตี้ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานการเกษตรท้องถิ่นกล่าว เขาเสริมว่าปัจจุบันอำเภอซงหยางมีร้านขายชาออนไลน์ราว 1,500 ราย สร้างงานให้ประชาชนกว่า 7,000 คน
นอกจากนี้ เจ้อเจียงยังใช้เทคโนโลยีเพื่อผลักดันให้คนในชนบทใช้บริการด้านวัฒนธรรมและบริการสาธารณะ ซึ่งสอดรับต่อหลักการความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน อันหมายถึงการที่ทุกคนแบ่งปันความมั่งคั่งทางวัตถุและวัฒนธรรมร่วมกัน เช่น ในนครหนิงโป มีการจัดตั้งหอประชุมทางวัฒนธรรมที่ประชาชนสามารถมาอ่านหนังสือ เรียนรู้ภาษาถิ่น และศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้ผ่านทรัพยากรดิจิทัล
เมื่อนับถึงสิ้นปี 2020 เจ้อเจียงมีหอประชุมประเภทนี้กว่า 17,000 แห่ง กระจายอยู่ในหมู่บ้านแห่งต่างๆ กว่าร้อยละ 91 ของมณฑล หอประชุมเหล่านี้ยังเป็นศูนย์กลางสำหรับบริการสาธารณะทางดิจิทัล เช่น บริการช่วยนัดพบแพทย์ออนไลน์
“การลงมือทำจริงพิสูจน์แล้วว่าการส่งเสริมหมู่บ้านดิจิทัลนั้นเป็นวิธีการฟื้นฟูชนบทที่สำคัญ เพื่อทำเป้าหมายความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันให้เป็นจริง” เฉินหย่ง เจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรและกิจการชนบทจีนกล่าว
เพื่อลดช่องว่างทางดิจิทัลระหว่างเขตเมืองและเขตชนบท จีนจะเดินหน้าผลักดันการออกแบบ “หมู่บ้านดิจิทัล” ส่งเสริมโครงการที่เกี่ยวข้องและศูนย์นวัตกรรมต่างๆ เพิ่มการแบ่งปันประสบการณ์ ตลอดจนเสริมสร้างระบบการประเมินให้เข้มแข็ง
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
Xinhua