#สังคม #จีน
ชายผู้ป่วยมะเร็งระยะแพร่กระจายขึ้นเวทีเพาะกาย
วันที่ 10 ตุลาคม 2021ที่เมืองหางโจวภาคตะวันออกของจีน มีการแข่งขันเพาะกายรอบชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 7 หวัง เว่ยนักเพาะกายชายที่ยืนอยู่ตรงกลาง อายุ 41 ปี ได้รับเสียงปรบมืออย่างมาก นับเป็นครั้งแรกที่เขาเข้าร่วมการแข่งขัน เขาสูง 1.81 เมตร กล้ามขึ้นเป็นมัดๆ แววตาเป็นประกาย
สิ่งที่น่าสะเทือนใจคือหวัง เหว่ยเป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะแพร่กระจาย เขาต่อสู้กับโรคนี้มา 7 ปี และเมื่อเร็วๆนี้ เขาใช้เวลา 161 วัน ลดน้ำหนัก 15.5 กิโลกรัมเพื่อร่วมการแข่งขันครั้งนี้
หวัง เหว่ยกล่าวว่า ไม่เคยคิดที่จะคว้ารางวัลอะไร ผมยังอ่อนหัดกว่ามืออาชีพอย่างมาก แต่นี่เป็นความปรารถนาของผม และหวังว่าจะกระตุ้นให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งคนอื่นมีความกล้าหาญและมองชีวิตในแง่ดี
เดือนสิงหาคมปี 2014 นายหวัง เหว่ยตรวจพบเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เขารู้สึกกลัวมากและไม่อยากเชื่อ เพราะเขาไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ แถมยังออกกำลังกายเป็นประจำ
คุณพ่อและเพื่อนๆ คุยกับเขาเรื่อยๆเพื่อให้กำลังใจ ทำให้หวัง เหว่ยปรับตัวและไปรักษาจนถึงปี 2017
หวัง เหว่ยกล่าวว่า ชอบฟิตร่างกายตั้งแต่เรียนมัธยมต้น หลังเป็นมะเร็งแล้ว เขายิ่งสนใจการฟิตร่างกาย ทำให้สภาพร่างกายค่อนข้างดีในระหว่างการรักษาโรค
ปี 2018 หมอบอกเขาว่า มะเเร็งเข้าสู่ช่วงการแพร่กระจายหรือช่วงสุดท้ายแล้ว แต่เขากลับไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใด เขายังคงไปเข้าฟิตเนสต่อไป เดือนเมษายน เขารับประทานอาหารกับเพื่อนที่รู้จักกันในฟิตเนส รู้สึกอิจฉาที่พวกเขามีโอกาสไปร่วมการแข่งขันเพาะกาย เพื่อนๆ บอกว่า “ไม่มีปัญหา คุณก็ทำได้ เราจะไปช่วยฝึกซ้อมให้คุณ ”
คำพูดของเพื่อนเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาตัดสินใจจะไปขึ้นเวทีเพาะกาย เขาได้ฟิตร่างกายวันละ 2-3 ชั่วโมง เหนื่อยมากๆ ทั้งยังต้องไปฉีดยารักษาโรคที่โรงพยาบาลเป็นประจำ ทุกครั้งหลังฉีดยาจะรู้สึกมีอาการอย่างมาก ทั้ง อาเจียน ความดันโลหิตสูง ผิวหนังมือแตกและหลุดลอกด้วย เมื่อจับต้องอะไรจะรู้สึกเจ็บมาก จึงต้องใส่ถุงมือ
นอกจากนั้น ยังต้องควบคุมอาหารการกิน ห้ามกินอาหารมันอาหารทอดที่แสนอร่อย ต้องกินอาหารจืด แม้ขนมชิ้นหนึ่งก็ต้องคำนวณปริมาณแคลอรี่ โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต ทั้งนี้ ทำให้เขาสามารถลดน้ำหนัก15.5 กิโลกรัมภายในเวลา 161 วัน
แต่เมื่อขึ้นเวทีแข่งขันเพาะกาย หวัง เหว่ยกล่าวว่า “รู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษ ผมเข้าใกล้ความฝันยิ่งขึ้น รู้สึกว่าทำได้สำเร็จ”
หวัง เหว่ยกล่าวว่า แผนต่อไปคือให้ความร่วมมือกับหมอในการรักษาโรคเป็นอย่างดี และจะฟิตร่างกายต่อไป อนาคตอยากขึ้นเวทีแข่งขันอีกครั้ง แต่จะไม่มีวันหยุดออกกำลังกาย
หวัง เหว่ยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ระหว่างอยู่ในโรงพยาบาล พบว่าจำนวนวัยรุ่นที่เป็นโรคนี้มีมากขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม รับประทานไม่เป็นเวลา และไม่ออกกำลังกายด้วย เขาจึงเปิดแฟนเพจ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ ทั้งยังปลุกเร้าผู้ป่วยโรคมะเร็งคนอื่นๆ ให้ออกกำลังกายตามหลักวิทยาศาสตร์ ต่อสู้กับโรคอย่างกล้าหาญ
ความกล้าหาญเป็นอาวุธสำคัญที่มีอยู่ในจิตใจของทุกคน เมื่อเผชิญปัญหาที่น่ากลัว จงงัดเอาออกมาใช้เลย
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
ลึกชัดกับผิงผิง