#ชีวิต #ความหวัง #สังคม #จีน
ภาพถ่ายใบแรกถ่ายเมื่อปี 2010 ที่นครฉงชิ่ง นายหรัน กวางฮุย(冉光辉)ผู้ใช้แรงงานที่แบกของหนักกว่า 50 กิโลกรัม มือหนึ่งจูงลูกชายวัย 3 ขวบ เดินลงตลาดขายส่งท่าเรือเฉาเทียนเหมินด้วยรอยยิ้มแห่งความหวัง ชาวเน็ตจีนพากันแชร์ภาพนี้และชมว่า “แบกชีวิตหนัก จับมืออนาคต”
นครฉงชิ่งอยู่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีอีกชื่อหนึ่งว่า “เมืองภูเขา”เพราะสร้างเมืองตามแนวภูเขาที่อยู่ริมแม่น้ำ ปัจจุบันยังมีท่าเรือแบบสมัยเก่าหลายแห่ง
นายหรัน กวางฮุยเป็นชาวนา เมื่อว่างเว้นจากการทำนา ก็เข้าเมืองไปรับจ้างแบกของที่ท่าเรือและห้างสรรพสินค้าต่างๆ เมื่อปี 2009 ตอนนั้นเขาอายุ 40 ปีแล้ว แต่ก็ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ คือย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง มาทำงานรับจ้างแบกของ เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวดีขึ้น
ช่วงแรกๆเขาและครอบครัวต้องเช่าห้องที่เก่าซอมซ่อและคับแคบในเขตเมืองเก่า ตอนกลางคืนต้องตั้งโต๊ะให้ลูกอ่านหนังสือทำการบ้านในห้องครัวที่เป็นส่วนกลาง เวลานั้น หรัน กวางฮุยหวังอย่างยิ่งที่จะมีบ้านเป็นของตนเอง
หรัน กวางฮุยพยายามทำงานอย่างสุดความสามารถและอดทนอย่างเต็มที่ ทำให้ปวดเมื่อยเป็นประจำ แต่เขาไม่เคยลดละเพราะเบื้องหน้าความเหน็ดเหนื่อยก็คือชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นของลูกเมีย
หรัน กวางฮุยแบกของหนักเกือบทุกวัน จนถึงปี 2016 เขาได้ซื้อบ้านเนื้อที่ 60 ตารางเมตรในเขตที่อยู่ใกล้ย่านการค้าเจี่ยฟ่างเปย (解放碑)ที่อยู่ใจกลางเมือง
วันแรกที่ย้ายเข้าบ้านใหม่ สามีภรรยาคู่นี้มองหน้ากันแล้วก็ยิ้ม ขณะภรรยาน้ำตาไหลนองหน้าและกล่าวด้วยเสียงสะอื้นว่า “บ้านนี้ได้มาไม่ง่าย ได้มาจากการแบกของหนัก ลูกไม่ต้องอ่านหนังสือทำการบ้านที่ห้องครัวอีกแล้ว ไม่ต้องห่วงว่าน้ำฝนจะรั่วไหลเข้าห้อง ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีที่อาบน้ำอีกแล้ว”
หรัน กวางฮุยกลายเป็นคนดัง มีบริษัทมาชักชวนให้เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์จำหน่ายสินค้า ซึ่งจะมีรายได้สูงกว่าเยอะ แต่เขาปฏิเสธและบอกว่า “ผมไม่เหมาะที่จะเป็นเน็ตไอดอล ผมเป็นคนที่ใช้แรงงาน แม้ทำงานเหนื่อยก็ตาม แต่การที่ผมได้ใช้สองมือทำงานหาเงิน จิตใจผมจึงจะรู้สึกสงบ”
เดือนกรกฏาคม มณฑลเหอหนานเกิดอุทกภัย หรัน กวางฮุยบริจาคเงิน 1,000 หยวน ขณะที่เขาเองยังมีภาระต้องผ่อนบ้านอยู่
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
ลึกชัดกับผิงผิง