“เที่ยว 2 วัน 1 คืน ไม่ไกลบ้าน – ไม่มีข่าวโควิด” เทรนด์ใหม่ท่องเที่ยวจีน แม้สถานการณ์โควิดพันธุ์เดลต้าเริ่มดีขึ้น
.
ตามปกติแล้ว ช่วงฤดูร้อนของจีน กรกฎาคม – สิงหาคม เป็นช่วงพีคของการท่องเที่ยวจีน ตามเมืองต่างๆ ผู้คนจะพากันไปท่องเที่ยว รายได้ 40% ของรายได้ทั้งปีที่บริษัททัวร์-ธุรกิจท่องเที่ยวจีนได้รับในแต่ละปี มาจากช่วงซัมเมอร์นี่แหล่ะ
.
แต่ซัมเมอร์ปีนี้ ธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศจีนได้รับผลกระทบอีกครั้ง หลังเจอการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์เดลต้าในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซูเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จนกระจายไปหลายพื้นที่ทั่วจีน รวมถึงจางเจียเจี้ย เมืองท่องเที่ยวสำคัญที่ต้องปิดไปชั่วคราว
.
แม้ตอนนี้เมืองเจียงซู และอีกหลายเมือง เช่น เซี่ยงไฮ้ สถานการณ์แพร่ระบาดโควิดเดลต้าเริ่มดีขึ้นแล้ว มีการลดระดับพื้นที่เสี่ยงมาเป็นแบบเสี่ยงต่ำ แต่สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งก็ยังปิด ไม่รับนักท่องเที่ยว ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวระดับคลาส A (ทั้ง 1A ไป ถึง 5A) ปิดให้บริการไป 1,100 แห่ง ใน 20 มณฑล ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
.
ไม่ใช่แค่เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวปิดชั่วคราวเป็นจำนวนมาก ความกังวลและไม่มั่นใจของประชาชนที่ยังคงกลัวสายพันธุ์เดลต้า (มีเคสเจอในพื้นที่แค่ไม่กี่คน ก็ทำให้เกิดความไม่สบายใจแล้ว) ทำให้นักท่องเที่ยวจีนพากันยกเลิกทริปเที่ยวต่างเมืองต่างมณฑล ตามรายงานจาก China Daily สื่อจีน (http://www.chinadaily.com.cn/a/202108/21/WS61205e7ea310efa1bd66a3db_1.html)
.
เทรนด์ท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนช่วงซัมเมอร์ ณ ขณะนี้ จึงเปลี่ยนมาเป็น “ทริประยะสั้น 2 วัน 1 คืน ในเมืองที่เดินทางไม่ไกลมากนัก อยู่ในมณฑลเดียวกัน หรือภายในเมืองเดียวกันกับที่อยู่อาศัย และไม่มีการแพร่ระบาดโควิด” โดยถือหลัก “เที่ยวอย่างไร้กังวล ปลอดภัยจากโควิด ไว้ก่อน” เช่นเดียวกันกับช่วงที่ประเทศจีนคลายล็อกดาวน์ใหม่ๆปีที่แล้ว (2563)
.
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวตามปกติแล้ว ตามร้านหนังสือ ก็ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวใหม่ที่คนจีนนิยมพาครอบครัวไปพักผ่อนหย่อนใจ ไม่ไกลบ้าน เพราะร้านหนังสือจีนในยุคปัจจุบัน ไม่ได้มีแต่หนังสือ แต่มีมุมให้พักผ่อน และมีกิจกรรมให้ทั้งครอบครัวสามารถทำได้เมื่อไปร้านหนังสือ
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน #เที่ยวจีน #การตลาดจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง
