เซี่ยงไฮ้, 23 ก.ย. (ซินหัว) — สารพัด “ยานพาหนะไร้คนขับ” สาละวนกับการเก็บเกี่ยวรวงข้าวสีทองสดใสกลางทุ่งนาขนาด 300 หมู่ (ราว 125 ไร่) ในตำบลไว่กัง เขตเจียติ้ง นครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน ซึ่งถือเป็น “ฟาร์มไร้มนุษย์” นำร่องแห่งแรกของเซี่ยงไฮ้
เหล่ายานพาหนะการเกษตรที่ติดตั้งระบบดาวเทียมนำทางเป่ยโต่ว (BDS) ของจีนสัญจรไปมาระหว่างโกดังและทุ่งนา หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางตามทางโดยอัตโนมัติขณะดำเนินงานเก็บเกี่ยวอย่างขะมักเขม้น
เซี่ยงไฮ้เริ่มนำร่องฟาร์มไร้มนุษย์แห่งนี้ในปี 2020 โดยนำเครื่องจักรการเกษตรไร้คนขับมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการไถ หว่าน การดูแลงานในทุ่ง ตลอดจนการเก็บเกี่ยว
เกาฮ่าว หัวหน้าบริษัทบริการด้านการเกษตรในตำบลไว่กัง ระบุว่าขณะนี้การก่อสร้างฟาร์มอัจฉริยะยังอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น โดยพื้นที่เกษตรกรรมจะถูกขยายเป็น 1,600 หมู่ (ราว 660 ไร่) ในปีหน้า และจะมีการจัดตั้งระบบการจัดการดิจิทัลสำหรับแสดงภาพและตรวจสอบกระบวนการทำฟาร์มแบบไร้มนุษย์ทั้งหมดด้วย
เกาเผยว่าการทำฟาร์มไร้มนุษย์ในนาข้าวช่วยลดต้นทุนแรงงานมนุษย์ลงประมาณ 100 หยวน (ราว 514 บาท) ต่อหมู่ต่อปี และหากนาข้าวขนาด 20,000 หมู่ (ราว 8,300 ไร่) ในตำบลกลายเป็นฟาร์มรูปแบบดังกล่าว ก็จะช่วยประหยัดเงินถึง 2 ล้านหยวน (ราว 10 ล้านบาท)
“นอกจากนั้นฟาร์มอัจฉริยะยังช่วยเกษตรกรควบคุมคุณภาพข้าว ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำฟาร์ม และเพิ่มพูนผลกำไร โดยทำรายได้ต่อหมู่สูงกว่าการเกษตรแบบดั้งเดิมถึง 1,000 หยวน (ราว 5,100 บาท)” เกากล่าว พร้อมเสริมว่าทุกวันนี้กลุ่มผู้ใช้งานเครื่องจักรกลการเกษตรส่วนใหญ่เริ่มมีอายุมากแล้ว ขณะการทำฟาร์มไร้มนุษย์สามารถดึงดูดคนหนุ่มสาวให้หันมาทำเกษตรกันมากขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้วางแผนนำร่องการทำฟาร์มไร้มนุษย์บนแปลงปลูกธัญพืช 100,000 หมู่ (ราว 4,100 ไร่) ภายในปี 2025 รวมถึงจัดตั้งสถานีบริการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรใช้งานอุปกรณ์การเกษตรในรูปแบบดิจิทัลในทุกตำบลด้วย
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
Xinhua