ปักกิ่ง, 23 ก.ย. (ซินหัว) — คณะนักวิจัยของจีนค้นพบว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อาจเริ่มแพร่ระบาดในสหรัฐฯ ตั้งแต่ราวเดือนกันยายน 2019 ซึ่งเร็วกว่าวันที่ประกาศการตรวจพบผู้ป่วยรายแรกอย่างเป็นทางการ หลังดำเนินการวิเคราะห์คลังข้อมูลขนาดใหญ่หรือบิ๊กดาต้า (Big data)
บทความฉบับใหม่ที่ตีพิมพ์ล่วงหน้าในไชน่าซีฟ (ChinaXiv) เมื่อวันพุธ (22 ก.ย.) ระบุว่าผลการศึกษาหลายฉบับก่อนหน้านี้แสดงสัญญาณว่าสหรัฐฯ สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี บราซิล และประเทศอื่นๆ เผชิญการระบาดของเชื้อไวรัสฯ ก่อนหน้าจีน
อนึ่ง ไชน่าซีฟเป็นบริการเผยแพร่งานวิจัยทางออนไลน์ที่ดำเนินการโดยห้องสมุดวิทยาศาสตร์แห่งชาติ สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (CAS)
บทความว่าด้วยการระบุวันของผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายแรกจากความน่าจะเป็นทางสถิติ (Dating the First Case of COVID-19 Epidemic from a Probabilistic Perspective) ชี้ว่าการวิเคราะห์เชิงคุณภาพและปริมาณของโรคติดเชื้อต่างๆ โดยผสานแบบจำลองทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถเผยกฎการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
คณะนักวิจัยสร้างแบบจำลองที่เหมาะสมที่สุดโดยใช้แบบจำลองการแพร่กระจายของโรคระบาดและการวิเคราะห์บิ๊กดาต้า พร้อมกับอนุมานวันที่ตรวจพบผู้ป่วยกลุ่มแรกใน 12 รัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ รวมถึงในนครอู่ฮั่นและมณฑลเจ้อเจียงของจีน
ผลการศึกษาพบว่าวันที่เป็นไปได้ของการติดเชื้อครั้งแรกใน 12 รัฐของสหรัฐฯ ซึ่งมีโอกาสสูงถึงร้อยละ 50 นั้นส่วนใหญ่ตรงกับเดือนสิงหาคม-ตุลาคม 2019 โดยรัฐโรดไอแลนด์อาจพบการติดเชื้อเร็วที่สุดในวันที่ 26 เม.ย. 2019 ขณะที่รัฐเดลาแวร์พบช้าที่สุดในวันที่ 30 พ.ย. 2019
วันที่พบการติดเชื้อข้างต้นนั้นเร็วกว่าวันที่สหรัฐฯ ประกาศพบผู้ป่วยรายแรกอย่างเป็นทางการ (20 ม.ค. 2020) ซึ่งแสดงความเป็นไปได้สูงที่โรคโควิด-19 เริ่มแพร่กระจายในสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2019
ขณะเดียวกันวันที่ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายแรกในอู่ฮั่น ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ร้อยละ 50 ตรงกับวันที่ 20 ธ.ค. 2019 ส่วนในมณฑลเจ้อเจียงตรงกับวันที่ 23 ธ.ค. 2019 จึงสามารถอนุมานได้ว่าการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ในจีนน่าจะเริ่มขึ้นช่วงปลายเดือนธันวาคม 2019
นอกจากนั้นผลการศึกษาดังกล่าวยังสอดคล้องกับผลการตรวจสอบทางระบาดวิทยา ซึ่งพิสูจน์ว่าวิธีการคำนวณวันที่ข้างต้นนั้นแม่นยำและเชื่อถือได้
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
Xinhua
