ซิดนีย์, 7 ก.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันอังคาร (7 ก.ย.) ทางการรัฐนิวเซาธ์เวลส์ (NSW) ของออสเตรเลียได้เปิดเผยนโยบาย “ลดการสูญพันธุ์ให้เป็นศูนย์” และยกระดับสถานะการคุ้มครองสัตว์และพืชมากกว่า 90 สายพันธุ์ เช่น โคอาลาและวอลลาบีหางแปรง เนื่องในวันสิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงสูญพันธุ์แห่งชาติ (National Threatened Species Day)
สัตว์และพืชกว่า 90 สายพันธุ์ในรายชื่อที่กำหนดจะได้รับสถานะการคุ้มครองสูงสุดที่ทำได้ โดยจะเทียบเท่ากับการคุ้มครองที่เคยให้มีกับต้นสนวอลลีเมีย ซึ่งเป็นพืชที่ได้รับการประกาศให้เป็นทรัพย์สินที่มีความสำคัญระหว่างประชากรต่างรุ่น (AIS) ชิ้นแรกของรัฐในเดือนมกราคม หลังเผชิญเหตุไฟป่าฤดูร้อนสีดำ (Black Summer) ในปี 2019-2020
สัตว์และพืชที่อยู่ในรายชื่อจะได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายที่เข้มงวดสูงสุด ได้แก่การใช้แผนอนุรักษ์เชิงบังคับ การจัดการสัตว์จรจัดและการจัดการไฟป่า ตลอดจนการเฝ้าติดตามและการรายงานความก้าวหน้าของการดำเนินงาน ขณะที่มีการวางกรอบการทำงานที่กำหนดขั้นตอนต่างๆ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยและฟื้นฟูประชากรสัตว์สายพันธุ์ที่เสี่ยงสูญพันธุ์ในอุทยานแห่งชาติ
แมตต์ คีน (Matt Kean) รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของรัฐนิวเซาธ์เวลส์ กล่าวว่าเป้าหมายของรัฐคือการแก้ปัญหาด้านสัตว์และพืชพรรณเสี่ยงสูญพันธุ์ที่ย่ำแย่ลง รวมถึงเพื่อให้สอดรับกับสถานะของออสเตรเลียซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการสูญพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสูงสุด
คีนให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ว่า “นอกจากเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ ตอนนี้เราได้ตั้งเป้าลดการสูญพันธุ์ของสัตว์และพืชในอุทยานแห่งชาติต่างๆ ให้เป็นศูนย์ อีกทั้งยังมุ่งปรับปรุงและตรึงแนวโน้มของจำนวนสัตว์และพืชในอุทยานที่เสี่ยงสูญพันธุ์ภายในปี 2030 ให้คงที่”
นิวเซาธ์เวลส์ยังเตรียมให้สถานะการคุ้มครองพิเศษเพิ่มสำหรับพื้นที่อีก 221 แห่ง ในอุทยานแห่งชาติจำนวน 110 แห่ง ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่เผชิญความเสี่ยงหลายสายพันธุ์ เพื่อรับประกันการอยู่รอดของพวกมันในอนาคต
กระทรวงการวางแผน อุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อมของนิวเซาธ์เวลส์รายงานว่า รัฐนิวเซาธ์เวลส์มีสัตว์และพืชเกือบ 1,000 สายพันธุ์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
อนึ่ง ออสเตรเลียได้กำหนดให้วันที่ 7 ก.ย. เป็นวันสิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงสูญพันธุ์แห่งชาติ เพื่อปลุกจิตสำนึกของผู้คนในการอนุรักษ์สัตว์และพืชเหล่านี้
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
Xinhua