ลอนดอน, 9 ส.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันอาทิตย์ (8 ส.ค.) หนังสือพิมพ์เดอะ ซันเดย์ ไทม์ส (The Sunday Times) รายงานว่ามหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งในสหราชอาณาจักรปฏิเสธที่จะกลับไปจัดการเรียนการสอนแบบต่อหน้าในภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วง แม้รัฐบาลแนะนำให้สามารถยกเลิกข้อจำกัดควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ทั้งหมดได้แล้วก็ตาม
รายงานอ้างคำชี้แจงของมหาวิทยาลัย 20 แห่ง จาก 24 แห่งในกลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ หรือรัสเซลกรุ๊ป (Russell Group) ว่าการเรียนการสอนระดับปริญญาตรีบางส่วนจะยังคงเป็นแบบออนไลน์ ซึ่งหมายความว่ามหาวิทยาลัยจะปรับใช้การเรียนการสอนแบบผสมผสานทั้งแบบออนไลน์และแบบต่อหน้าในชั้นเรียน รวมไปถึงกับการสัมมนา และการสอนแบบบรรยายต่างๆ
ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัย 2 ใน 3 จากทั้งหมด 65 แห่งที่สำรวจโดยนิตยสารไทม์ส ไฮเออร์ เอดูเคชัน (THE) ยืนยันว่าการสอนแบบบรรยายส่วนใหญ่จะยังคงจัดขึ้นทางออนไลน์ในภาคการศึกษาที่จะมาถึงนี้ แต่พวกเขาวางแผนจะสอนแบบต่อหน้าให้ได้มากที่สุดด้วยเช่นกัน โดยให้เหตุผลถึงความกังวลต่อความเสี่ยงของโรคโควิด-19 ในห้องเรียนบรรยายขนาดใหญ่ รวมทั้งชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการเรียนการสอนแบบผสมผสาน
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ระบุว่าจะกำหนดให้นักศึกษาสวมหน้ากากอนามัยขณะที่อยู่ภายในวิทยาเขต และบางแห่งจะกำหนดให้นักศึกษาเว้นระยะห่างทางสังคมด้วย อีกทั้งนักศึกษาจำเป็นต้องได้รับวัคซีนครบทั้งสองโดสเพื่อเข้าร่วมคอนเสิร์ต งานเต้นรำ หรืองานสังสรรค์อื่นๆ
อย่างไรก็ดี การตัดสินใจครั้งนี้สร้างความผิดหวังให้นักศึกษาจำนวนมากที่เคยประสบกับการหยุดชะงักทางการศึกษาอย่างรุนแรงเมื่อปีก่อน ส่งผลให้กลุ่มนักศึกษาในแมนเชสเตอร์ ลีดส์ และลิเวอร์พูล ร่วมกันยื่นคำร้องขอให้จัดการเรียนการสอน “แบบปกติอย่างเต็มรูปแบบ” พร้อมขอให้มหาวิทยาลัยคืนค่าธรรมเนียมต่างๆ โดยในเมืองแมนเชสเตอร์ที่มีมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดที่สุด มีผู้ร่วมลงชื่อเกือบ 10,000 คนแล้ว
ทั้งนี้ อังกฤษประกาศยกเลิกข้อจำกัดควบคุมโรคโควิด-19 ส่วนใหญ่เมื่อเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานคลายล็อกดาวน์ระยะสุดท้ายของรัฐบาล
ตัวเลขทางการที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์ (7 ส.ค.) ชี้ว่าสหราชอาณาจักรตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 28,612 รายในช่วง 24 ชั่วโมง ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 6,042,252 ราย
อย่างไรก็ดี สหราชอาณาจักรได้ฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชากรผู้ใหญ่แล้วเกือบร้อยละ 90 ขณะที่อีกมากกว่าร้อยละ 74 ได้รับวัคซีนโดสที่สองแล้ว
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
Xinhua