ลอนดอน, 30 มิ.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันอังคาร (29 มิ.ย.) กาวิน วิลเลียมสัน รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของสหราชอาณาจักร เรียกร้องการสั่งห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในชั้นเรียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามพัฒนาพฤติกรรมของนักเรียน
กระทรวงฯ ประกาศแผนการสอบถามความเห็นครูและผู้บริหารโรงเรียนเกี่ยวกับการควบคุมดูแลพฤติกรรมอันดีของนักเรียน ซึ่งรวมถึงการใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียน โดยวิลเลียมสันกล่าวถึงมาตรการดังกล่าวก่อนมีการปรับปรุงแนวปฏิบัติเกี่ยวกับพฤติกรรมและระเบียบวินัยในโรงเรียน รวมถึงการพักการเรียนและการไล่ออก ในช่วงปลายปีนี้
การหารือระยะเวลา 6 สัปดาห์จะสอบถามความเห็นเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ อาทิ การรักษาความสงบในห้องเรียน การใช้ห้องกักตัวทำโทษ และการตั้งกฎห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียน
เมื่อช่วงต้นปี วิลเลียมสันกล่าวต่อสมาพันธ์เครือข่ายโรงเรียน (CST) โดยเน้นย้ำความสำคัญของพฤติกรรมอันดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามยกระดับมาตรฐานและสนับสนุนคนอายุน้อยฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
“ไม่มีผู้ปกครองคนไหนอยากส่งลูกไปในโรงเรียนที่เต็มไปด้วยพฤติกรรมแย่ๆ” วิลเลียมสันกล่าว “โรงเรียนทุกแห่งควรเป็นสถานที่ปลอดภัยให้คนอายุน้อยได้เติบโตและครูได้สอนอย่างเต็มที่”
“โทรศัพท์มือถือไม่เพียงรบกวนสมาธิ แต่ถ้านักเรียนนำมาใช้ในทางที่ผิดหรือใช้งานมากเกินควร มันอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจของนักเรียน ผมอยากทำให้มันจบลงและกำจัดโทรศัพท์มือถือออกจากชั้นเรียน”
วิลเลียมสันระบุว่าการจะช่วยเหลือนักเรียนเอาชนะความท้าทายจากโรคระบาดใหญ่และเพิ่มโอกาสให้คนอายุน้อยทุกคนนั้น สหราชอาณาจักรต้องรับประกันว่านักเรียนจะได้ประโยชน์จากห้องเรียนอันเงียบสงบ ซึ่งเอื้อต่อการเติบโตของพวกเขา
บุคลากรด้านการศึกษาบางส่วนมองว่ามาตรการนี้สร้างความไขว้เขว โดยเจฟ บาร์ตัน เลขาธิการสมาคมผู้นำโรงเรียนและมหาวิทยาลัย กล่าวกับหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนว่า “ปัจจุบันทุกโรงเรียนมีนโยบายเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือที่แข็งแกร่งดีอยู่แล้ว”
“ให้พูดตามตรง ผู้นำโรงเรียนและมหาวิทยาลัยอยากให้รัฐมนตรีเสนอแผนฟื้นฟูหลังการระบาดใหญ่ที่แข็งแกร่งมากกว่า”
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
Xinhua