จีนทุ่มงบ 2.8 ล้านล้านหยวน มุ่งเน้น “กระตุ้น-ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิดสร้างงาน สร้างอาชีพ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน คุณภาพชีวิตประชาชน”
ลดการเติบโตงบการทหาร-กลาโหม และเพิ่มอัตราการเติบโตงบสาธารณสุข
.
ปีนี้ พ.ศ.2564 รัฐบาลกลางของจีนจัดสรรงบประมาณไปสู่รัฐบาลท้องถิ่นมณฑล-เมืองและพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน พัฒนาโครงการหลักๆตามแผนพัฒนาของแต่ละเมือง พัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจ และแก้ปัญหาต่างๆที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด เป็นเม็ดเงินกว่า 2.8 ล้านล้านหยวน
.
ยกตัวอย่างเช่น มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) มณฑลสำคัญทางตอนใต้ของจีน ที่มีเมืองเศรษฐกิจหลายเมือง อาทิ กว่างโจว เซินเจิ้น ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลกลาง 6.255 หมื่นล้านหยวน เมื่อ 13 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยทางรัฐบาลท้องถิ่นมณฑลกว่างตงเองก็มีงบประมาณที่จัดสรรจากหน่วยงานการคลังของตนเองด้วย ในหลักหมื่นล้านหยวน
.
นอกเหนือจากงบประมาณจากรัฐบาลกลางที่ส่งไปให้รัฐบาลกว่างตงรอบนี้ ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ รัฐบาลกลางได้จัดสรรงบ 2.5 ล้านล้านหยวน เพื่อให้กว่างตงนำไปใช้เกี่ยวกับการสร้างงาน สร้างอาชีพ และกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการสนับสนุนผู้ประกอบการ-ภาคเอกชน
.
ดูตัวอย่างระดับมณฑลไปแล้ว ขอเล่าถึงเมืองในเขตต่างจังหวัดจีน “เมืองถงชวน” มณฑลส่านซี ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เมืองนี้ได้รับงบจากรัฐบาลกลางรอบนี้ 1.4 พันล้านหยวน โดยรัฐบาลท้องถิ่นถงชวน จัดสรรงบจากก้อนนี้ เป็นเงินราว 773 ล้านหยวน หรือคิดเป็นสัดส่วน 55.9% เกินครึ่งของงบที่ได้รับ ไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูเมืองจากสถานการณ์โควิด
.
จากตัวอย่างงบประมาณที่รัฐบาลจีนจัดสรรให้กับรัฐบาลท้องถิ่น ทั้งระดับมณฑล และ เมือง ปีงบประมาณล่าสุด พอจะทำให้เราได้เห็น “การจัดลำดับความสำคัญจุดประสงค์การใช้เงิน”
.
กล่าวคือ จีน ณ ขณะนี้ ทุ่มงบลงไปในการพัฒนาเศรษฐกิจ ทั้งฟื้นฟู และพัฒนาต่อ หลังเกิดการแพร่ระบาดโควิดเมื่อปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2563)
.
ว่ากันตามตรง เมื่อพูดถึงการจัดงบประมาณสำหรับประเทศจีน ทั่วโลกต่างโฟกัสไปที่ “งบประมาณทางการทหาร หรืองบกลาโหม” เพราะจีนถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้จ่ายทางการทหารค่อนข้างสูง และมีการเพิ่มงบประมาณขึ้นทุกปี
.
ต้องยอมรับว่า หลายปีมานี้ ตั้งแต่ก่อนโควิด จีนมีปัญหาเศรษฐกิจอยู่เหมือนกัน จากสงครามการค้ากับอเมริกา ทำให้อัตราการเติบโตของงบกลาโหมจีน อยู่ที่เลขหลักเดียว ไม่ถึง 10% ต่อปี
.
“เนื่องจากเป็นไปตามเศรษฐกิจ ซึ่งก็สมเหตุสมผล เศรษฐกิจไม่ดี ก็ควรลดงบไปเพิ่มในส่วนที่จำเป็นต้องใช้”
.
สถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นในปี 2563 ก่อให้เกิดผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจจีน ทำให้งบกลาโหมจีนในปีนั้น ปรับลด “อัตราการเติบโต” อยู่ที่ 6.6% (แต่ยังอยู่ในระดับล้านล้านหยวน) ถือว่าเป็นงบกลาโหม “เติบโตน้อยที่สุด ในรอบ 30 ปี”
.
และต่อเนื่องมาถึงงบกลาโหมปีนี้ 2564 แม้จะเพิ่มขึ้นมาที่ระดับการเติบโต 6.8% แต่ก็ยังคงน้อยกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด
# ปี 2562 อัตราการเติบโตงบกลาโหมอยู่ที่ 7.5%
# ปี 2561 เติบโต 8.1%
# ปี 2560 7.0%
# ปี 2559 7.6%
# ปี 2558 10.1% เป็นปีสุดท้ายที่แตะระดับเลขสองหลัก ก่อนที่ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นไป งบกลาโหมจีนเติบโตด้วยตัวเลขหลักเดียว)
.
ปรับลดงบกลาโหม แล้วจีนนำงบไปใช้กับอะไร?
หลักๆก็นำไปใช้พัฒนาเศรษฐกิจ สร้างงานสร้างอาชีพ พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน และใช้จ่ายสาธารณสุข ฟื้นฟูจากโควิด ตามที่อ้ายจงได้เขียนไปแล้วข้างต้น
.
งบสาธารณสุข มีอัตราการเติบโต 12.6% เมื่อปี 2563 จีนใช้งบไป 9.27 แสนล้านหยวน โดยส่วนใหญ่ใช้กับการควบคุม ป้องกัน และรักษาผู้ป่วยโควิด โดยช่วงแรกเริ่มของการระบาด มีตัวเลขค่าใช้จ่ายต่อหัว สำหรับผู้ป่วยโควิด ที่ทางการจีนจัดสรรงบ อยู่ที่ 17,000 หยวน โดย 65% ของค่าใช้จ่ายผู้ป่วยโควิดแต่ละคนตามที่ระบุเลขตามนี้ 65% มาจากงบกลาง และที่เหลือ 35% มาจากรัฐบาลท้องถิ่นแต่ละมณฑล-เมือง
.
และทั้งหมดนี้ก็คือ การจัดสรรงบประมาณตามนโยบายพัฒนาประเทศจีน ช่วงสองปีแห่งโควิด (2563-2564) ครับ
.
อ้ายจงเล่าเรื่องจาก
http://www.china.org.cn/business/2021-06/02/content_77542947.htm
https://www.globaltimes.cn/page/202103/1217416.shtml
http://www.xinhuanet.com/english/2021-03/08/c_139795134.htm
https://www.globaltimes.cn/content/1184060.shtml
https://healthcareasiamagazine.com/healthcare/in-focus/chinas-healthcare-spending-tipped-grow-126-9268b-in-2020
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง