จีน ครองแชมป์จำนวนผู้มีน้ำหนักเกินและโรคอ้วนมากที่สุดในโลก เป็นครั้งแรกที่ประชากรอายุ 18 ปีขึ้นไป น้ำหนักเกิน-อ้วน เกินครึ่ง
.
“ที่ฉันอ้วนเพราะฉันหยุดกินไม่ได้~” เป็นท่อนหนึ่งของเพลงที่อ้ายจงได้ยินจากหลานสาว
.
และตั้งแต่นั้นมาก็ติดอยู่ในโสตประสาท ฮัมเพลงนี้ออกมาอยู่บ่อยๆ มันช่างเข้ากับชีวิตอ้ายจงเสียจริง แม้จะรู้ดีว่า อ้วนขึ้นเรื่อยๆ (น้ำหนักขึ้นมา มากกว่า 10 โล ตั้งแต่เดินทางกลับจากจีนมาอยู่ไทย ราว 2 ปี) แต่หยุดกินไม่ได้จริงๆ ?
.
อ้ายจงเชื่อว่าไม่ใช่แค่อ้ายจงที่เป็นแบบนี้นะ ดูจากรายงาน “สำรวจโภชนาและสถานการณ์โรคเรื้อรังในจีน ประจำปี 2020” พบว่า “คนจีนอายุ 18 ปีขึ้นไป มีภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน เกิน 50% แล้ว เป็นครั้งแรกของจีน”
.
34.3% ของคนจีนอายุ 18 ปีขึ้นไป มีภาวะน้ำหนักเกิน (Overweight) ขณะที่ 16.4% เข้าเกณฑ์โรคอ้วน (Obesity)
.
เด็กจีนมีปัญหาภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนเช่นกัน โดย กลุ่มอายุระหว่าง 6-17 ปี มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนรวมกันคิดเป็น 19% ส่วนกลุ่มเด็กต่ำกว่า 6 ปี มีสัดส่วนน้อยสุด ที่ 10.4%
.
เมื่อนับจำนวนทุกกลุ่มช่วงอายุรวมกัน กลายเป็นว่า จีนมีจำนวนประชากรเผชิญภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก จำนวนกว่า 600 ล้านคน (อ้ายจงคิดวาคนจีนเองคงไม่อยากครองแชมป์แบบนี้นะ ว่าไหม?)
.
หากเราดูพฤติกรรมการกินของคนจีน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่-วัยทำงาน ก็พอจะทำให้เห็นถึงสาเหตุของเรื่องนี้ อย่าง พฤติกรรมการกินอาหารรอบดึก-夜宵 ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องปกติของคนจีนไปแล้ว
.
แต่ดูเหมือนว่าทางจีนเองก็รู้ถึงปัญหาประชากรน้ำหนักเกินมานาน และพยายามแก้ไขอย่างจริงจัง อย่างนโยบายการออกกำลังกายเพื่อให้ได้ตามเกณฑ์ก่อนเรียนจบปริญญาตรีที่หลายมหาวิทยาลัยเริ่มนำมาใช้
.
สำหรับอ้ายจง ผมปลอบใจตัวเองบ่อยๆ ว่า เราไม่ได้อ้วน หุ่นของเรามันเรียกว่า หุ่นของผู้มีความสุขกับการกิน แต่เริ่มรู้สึกปวดขาปวดหลังบ่อยๆ พุงน่าจะใหญ่เกินไป สงสัยคงต้องเริ่มลดและเริ่มดูแลสุขภาพจริงจังแล้วล่ะครับ
หลายๆโรคมีจุดเริ่มต้นจากภาวะน้ำหนักเกิน ดังนั้นคงมองข้ามไม่ได้เสียแล้ว
.
อ้ายจงอ้างอิงข้อมูลผลการศึกษาจาก
Weibo: 头条新闻
https://m.weibo.cn/1618051664/4640506476758069
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง