เขตสาธิตนวัตกรรมจงกวนชุนนครหนานหนิง เป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างเขตสาธิตจงกวนชุนของกรุงปักกิ่ง หนานหนิง และกว่างซี เพื่อใช้กลยุทธ์การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมของคณะกรรมการกลางพรรค ตามข้อกำหนดของ “สามตำแหน่ง (ปักกิ่ง หนานหนิง และกว่างซี)” ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในการร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรม และร่วมกันพัฒนาระหว่างภูมิภาคที่พัฒนาแล้วและภูมิภาคที่รอการพัฒนา
เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2017 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ตรวจเยี่ยมฐานสาธิตนวัตกรรม และกล่าวว่า
“การสร้างเขตสาธิตนวัตกรรม จะต้องปฏิบัติตามกฎแห่งนวัตกรรมและการพัฒนา ด้วยการให้บริการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่และเทคโนโลยีขั้นสูง สร้างระบบนิเวศที่ดึงดูด เพื่อบ่มเพาะนวัตกรรมที่เปรียบเหมือนเมล็ดพันธุ์ดี ให้ออกดอกออกผล ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม”
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2016 ผู้นำของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงและปักกิ่ง ได้มีการเปิดโครงการและดำเนินการเขตสาธิตนวัตกรรม บนพื้นที่ครอบคลุมถึง 180 หมู่ หรือไร่จีน (หน่วยพื้นที่ของจีน 1 หมู่ เท่ากับ 666.67 ตารางเมตร) มีพื้นที่ก่อสร้างรวม 80,000 ตารางเมตร โดยมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมหลัก 4 ประเภท ได้แก่ เทคโนโลยีสารสนเทศรุ่นใหม่ การผลิตอุปกรณ์ขั้นสูง ชีวิตและสุขภาพ และบริการทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่แห่งนวัตกรรมตามแนวโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” และ “เส้นทางสายไหม” เพื่อจัดตั้งองค์กรและรวบรวมองค์ประกอบข้อมูลต่าง ๆ และเพื่อเชื่อมต่อกันของเขตพื้นที่ของเขตสาธิตนวัตกรรม ระหว่างหนานหนิง – จงกวนชุน – อาเซียน
เพื่อดำเนินการตามเจตนารมณ์ที่สำคัญของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง และเพื่อกระชับความร่วมมือด้านนวัตกรรมระหว่างหนานหนิงและจงกวนชุนให้ลึกยิ่งขึ้น ฐานสาธิตนวัตกรรมได้ดำเนินการส่งเสริมการขยายตัวของอุตสาหกรรม และการขยายเขตสาธิตนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวคิดการพัฒนาจาก “หนึ่งเขต” เป็น“หนึ่งศูนย์กลาง” และ “หนึ่งอุทยาน”
หนึ่งเขต
“หนึ่งเขต” หมายถึง เขตสาธิตนวัตกรรมหนานหนิง-จงกวนชุน ซึ่งรวมถึง เขตทะเลสาบเซียงซือ (Xiangsi Lake) เขตสาธิตนวัตกรรมในเขตทะเลสาบเซียงซือ เปิดตัวเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2018 ครอบคลุมพื้นที่
29.59 หมู่ (ไร่จีน) และมีพื้นที่ก่อสร้างรวมทั้งหมด 62,600 ตารางเมตร
หนึ่งศูนย์กลาง
“หนึ่งศูนย์กลาง” คือ ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีเหอเต๋อ (Hede) หนานหนิง-จงกวนชุน ครอบคลุมพื้นที่ 241 หมู่ (ไร่จีน) มีพื้นที่ก่อสร้างรวมประมาณ 440,000 ตารางเมตร เงินลงทุน 1.8 พันล้านหยวน โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างอุทยานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยมีสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมใหม่ เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนา ปัจจุบัน โครงการระยะแรกได้สำเร็จและเปิดใช้งานแล้ว ส่วนโครงการในระยะที่สอง คาดว่าจะสำเร็จในกลางปี2021
หนึ่งอุทยาน
“หนึ่งอุทยาน” คือ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหนานหนิง-จงกวนซุน โดยครอบคลุมพื้นที่ 7 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบัน โครงการระยะแรกได้สำเร็จและพัฒนาไปแล้ว 1.77 ตร.กม. และมีการเปิดตัวโครงการอุตสาหกรรม 19 โครงการ เช่น นวัตกรรมแห่งศตวรรษ การประมวลผลแบบคลาวด์เครื่องจักร Kerui โดยมีแผนลงทุนรวม 8.5 พันล้านหยวน โครงการระยะที่สอง กำลังเร่งดำเนินการโครงการในพื้นที่ 1.5 ตารางกิโลเมตร บริเวณทางเข้าของอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหนานหนิง-จงกวนชุน ซึ่งลงทุนโดย Zhongguancun Development Group ซึ่งครอบคลุมพื้นที่78 หมู่ (ไร่จีน) ที่กำลังจะเริ่มก่อสร้างและจะสร้างเป็นอาคารสถานที่สำคัญ และเป็นศูนย์นวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเมือง
หลังจากพัฒนามานานกว่า 4 ปีหนานหนิง-จงกวนชุน (เขตสาธิตนวัตกรรมและอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ) มีบริษัทชั้นนำด้านนวัตกรรมเข้ามาตั้งบริษัทในพื้นที่ รวมทั้งสิ้น 358 แห่ง เป็นการบ่มเพาะบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูงแห่งชาติจำนวน 42 แห่ง องค์กรต่าง ๆ มากกว่า 14 แห่ง วิสาหกิจของกว่างซีจำนวน 7 แห่ง และองค์กรที่ถูกออกแบบเป็นลักษณะ “กระดานใหม่ 3 ชุด” จำนวน 3 แห่ง รวมไปถึงบุคลากรที่สำคัญ เช่น ผู้อำนวยการสถาบันบัณทิตวิศวกรรมศาสตร์จีนจำนวน 1 คน ผู้เชี่ยวชาญของโครงการจำนวน 3 คน นักวิชาการจำนวน 3 คน และผู้ที่มีความสามารถในระดับสูงจำนวน 20 คน
องค์กรต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในฐานสาธิตนวัตกรรมได้สร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยมากกว่า 30 แห่งในกว่างซีโดยรวบรวมผู้ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศรุ่นใหม่มากกว่า 8,500 คน มีแพลตฟอร์มในการจัดการกองทุน 3 แห่ง มีเงินลงทุนสูงถึง 31.4 พันล้านหยวน ช่วยให้บริษัทด้านนวัตกรรม สามารถระดมทุนได้ถึง 450 ล้านหยวน ผ่านช่องทางต่าง ๆ และในปี2020 รายได้ต่อปีของหนานหนิง-จงกวนชุน (ฐานสาธิตนวัตกรรมและอุทยานวิทยาศาสตร์ฯ) มีรายได้มากกว่า 11 พันล้านหยวน
ที่มา : วารสาร “วิทย์ไมตรีไทย-จีน” ฉบับเดือนเมษายน 2564 “Gateway to ASEAN กว่างซี : ประตูเชื่อมจีน-อาเซียน”
