#คุณค่าของคนโง่ #สังคมจีน #ผู้พิการทางสมอง คว้ากำไรปีละ50 ล้านบาท
นายลู่ หง ตอนเป็นเด็กอายุ 10 เดือนเป็นไข้สูงจนทำให้เส้นประสาสมอง ถูกทำลายกลายเป็นผู้พิการทางสมอง ช่วงวัยเด็กของเขาผ่านมาด้วยเสียง เหยียดหยามจากพวกเด็กข้างบ้าน ที่เรียกเขาว่าคนโง่
คุณแม่ส่งให้เขาเรียนโรงเรียนอาชีวศึกษา โดยหวังว่าลูกจะมีงานทำ หลังจบจากโรงเรียน เพื่อนร่วมชั้นกว่า 50 คนหางานทำได้หมด ยกเว้นเขาคนเดียวที่ไม่ได้งาน ผู้บริหารโรงงานแห่งหนึ่งบอกกับแม่ของเขาว่า “ดูท่าทางลูกของคุณ จะทำอะไรได้นะ สุนัขยังเก่งกว่าเขาเลย”
โชคร้ายไม่ได้จบแค่ที่ตัวเขาพิการทางสมอง หากแต่เมื่อเขาโตขึ้น พ่อเกิดป่วยหนัก เสียดายเงินที่จะใช้รักษาโรค หวังจะเก็บเงินไว้ให้ลูก แต่แม่ของเขาท้วงว่า “ลูกเป็นคนพิการ คุณต้องเป็นเสาหลักของครอบครัว”
นายลู่ หงได้ยินคำพูดของแม่ จึงออกจากบ้านไปอย่างเงียบๆ เขาบอกกับตัวเองว่า ผมไม่ใช่คนที่ไร้ประโยชน์
งานแรกของนายลู่ หงคือสมัครเป็นพนักงานห่อขนมไหว้พระจันทร์ของโรงงานแห่งหนึ่ง หลังจากนั้น เขามาทำงานอีกหลายอย่างทั้งเปิดแผงซ่อมจักรยาน เปิดแผงลอยขายหนังสือพิมพ์ข้างถนน ผู้เก็บเงินตู้โทรศัพท์ ประกอบคอมพิวเตอร์มือสอง เปิดร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ หารายได้ด้วยทุกวิถีทาง เพื่อนบ้านและลูกค้าเปลี่ยนมาเรียกเขาว่า “คุณช่างลู่”
พระเจ้ามักจะให้โอกาสแก่คนที่ขยัน แม่ซื้อคอมพิวเตอร์มือสองเครื่องหนึ่ง เพื่อให้ลูกฝึกสมอง ระหว่างการเล่นเกมส์ออนไลน์ ลู่ หงได้รู้จักเพื่อนคนหนึ่ง คนนี้สอนเทคนิคการผลิตอัลบั้มและการตัดต่อวิดีโอ
ปี 2007 ศาสตรจารย์ที่เป็นผู้สูงวัยท่านหนึ่งมาร้านของเขา เพื่อทำโฟโต้อัลบั้มในโอกาสครบรอบแต่งงาน 50 ปีให้ศรีภรรยา ระหว่างพูดคุยกัน เกิดความประทับใจในเรื่องราวชีวิตของเขา จึงตัดสินใจสอนเทคนิคการถ่ายภาพให้เขาฟรี
ภรรยาของลู่ หงสนับสนุนให้เขาทำธุรกิจ สองสามีภรรยาตัดสินใจเปิดร้านถ่ายภาพชื่อ “สวรรค์แห่งนางฟ้า” ความขยันทำให้ครอบครัวนี้มีรายได้เข้าข่ายมั่งคั่ง
นายลู่ หงไม่ยอมตกยุคอีคอมเมิร์ซ เมื่อมีเงินสะสมเพียงพอ เขาได้เปิดโรงงานผลิตอัลบั้ม และนำไปขายออนไลน์ มีลูกค้าทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติจำนวนมาก
ปัจจุบัน โรงงานของเขามีพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ผลิตอัลบั้มกว่า 1,000 ชนิด มีพนักงานกว่า 40 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้พิการ 25 คน ส่วนนายลู่ หงเองได้ทุ่มกำลังในการวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่
ปี 2020 กำไรของบริษัทสูงถึง 50 ล้านบาท เขาบอกกับผู้อื่นด้วยความภาคภูมิใจว่า “ผมก็เป็นคนมีคุณค่าเช่นกัน” ผิงผิงขอกดไลค์ให้เขาด้วยนะคะ
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
ลึกชัดกับผิงผิง