#น้ำเสียปนเปื้อนรังสี #ญี่ปุ่น #จีน #สหรัฐฯ
ญี่ปุ่นตัดสินใจปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนรังสีที่เกิดจากอุบัติเหตุนิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงทะเล
มีเพื่อนคนไทยถามว่าทำไม่ต้องปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนนิวเคลียร์ลงทะเล คำตอบคือ เพื่อประหยัดเงิน
อุบัติเหตุนิวเคลียร์ฟุกุชิมะเกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อน บริษัทโตเกียวอิเล็กทริคพาวเวอร์ (Tokyo Electric Power) ที่เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ประกาศว่า จนถึงเดือนมีนาคม ได้กักเก็บน้ำเสียปนเปื้อนไว้กว่า1.25 ล้านตัน
รัฐบาลญี่ปุ่นเคยเสนอ 5 แผนเพื่อจัดการน้ำเสียเหล่านี้ แผนที่ใช้ต้นทุนต่ำที่สุดคือ ปล่อยลงทะเล ใช้เงินประมาณ 500 -1,000 ล้านบาท ส่วนแผนที่แพงที่สุดคือแปรรูปเป็นของแข็งและฝังใต้ดิน แต่ต้นทุนจะเพิ่มมากขึ้นหลายสิบเท่า
จีนและเกาหลีใต้คัดค้านอย่างหนัก แต่สหรัฐฯ สนับสนุน นายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ทวีตทางทวิตเตอร์ว่า “ขอบคุณการใช้ความพยายามของรัฐบาลญี่ปุ่น”
ชาวเน็ตจีนถามว่า ถ้าจีนทำแบบนี้ นายบลินเคนจะกล่าวขอบคุณเช่นนี้หรือไม่
ชาวเน็ตอเมริกัน ยิ่งพากันประณามด้วยถ้อยคำที่แสบสันกว่า ข้อความที่ติดอันดับ 1 คือ
“ท่านรัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ การปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนรังสีที่ไม่ได้จัดการใดๆในปริมาณเกินกว่า 1.24 ล้านตันลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกนั้น จะส่งผลกระทบต่อทุกคน นี่เป็นเรื่องที่สำคัญกว่าการเป็นปรปักษ์กับจีนใช่หรือไม่ บางสิ่งบางอย่างสำคัญกว่าเงินทอง สำหรับลูกหลานของเรา มหาสมุทรที่สะอาดมีแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น”
ทางการญี่ปุ่นบอกว่าน้ำเสียเหล่านี้จัดการมาแล้ว มีความปลอดภัย ไม่มีปัญหา มีชาวเน็ตถามว่า แล้วทำไมไม่ปล่อยในอ่างเก็บน้ำของญี่ปุ่นเอง
องค์การวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเลเยอมรมนีแสดงผลวิจัยว่า นับตั้งแต่วันที่มีการปล่อยน้ำเสียปมเปื้อนรังสี น้ำดังกล่าวจะขยายวงไปกว่าครึ่งมหาสมุทรแปซิฟิกภายในเวลา 57 วัน และน้ำเสียเหล่านี้จะไปถึงสหรัฐอเมริกาและแคนาดาโดยใช้เวลา 3 ปี
องค์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยังออกคำเตือนว่า รังสีที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำจะส่งผลกระทบต่อดีเอ็นเอของมนุษย์ และคนรุ่นต่อไปก็มีแนวโน้มที่จะ พิการ เป็นโรคมะเร็งกระทั่งเสียชีวิต และความเสียหายทางพันธุกรรมแบบนี้จะคงอยู่เป็นเวลาหลายพันปี
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ ญี่ปุ่นอาจจะปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนรังสีลงทะเลเป็นประจำ อาจปล่อยนานถึง 30 ปี แล้วถ้าญี่ปุ่นเป็นผู้เริ่มการปล่อยน้ำเสียปนเปื้อนรังสีลงสู่ทะเล ในอนาคต ทั่วโลกจะมีน้ำเสียและของเสียปนเปื้อนรังสีลงสู่ทะเลจำนวนนับไม่ถ้วน
ล่าสุด FDA สหรัฐฯ สั่งห้ามนำเข้าอาหารญี่ปุ่นจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวมถึงอาหารทะเลด้วย
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
ลึกชัดกับผิงผิง