รัฐบาลท้องถิ่นเมืองหนึ่งของจีน ออกกฎ “ชาวเมืองคนไหนไม่ฉีดวัคซีนโควิด โดนขึ้นบัญชีดำ แบนไม่ให้ขึ้นรถเมล์-ขนส่งสาธารณะ เข้าสถานที่สาธารณะ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร”
.
เป็นอีกหนึ่งประเด็นดังบนโลกโซเชียลจีน สำหรับการออกกฎระเบียบของเมืองว่านเฉิง (เมืองระดับ Town เทียบเท่าตำบล) ในมณฑลไห่หนาน ที่ตอนนี้กำลังจัดการฉีดวัคซีนให้กับพลเมืองทุกคนในเมือง เพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของ COVID-19
.
โดยหนึ่งในกฎข้อหนึ่ง ระบุว่า “ผู้ใดไม่เข้ารับการฉีดวัคซีน ต้องถูกขึ้นบัญชีดำ แบนไม่ให้ขึ้นรถเมล์-ขนส่งสาธารณะ เข้าสถานที่สาธารณะ อาทิ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร”
.
หลังจากที่มีการเผยแพร่เรื่องราวนี้ออกมา มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
.
ฝ่ายที่เห็นด้วยกับกฎนี้ ส่วนใหญ่คิดเห็นว่า
“สมเหตุสมผลนะ เข้าใจได้ เพราะยิ่งมีจำนวนคนในเมืองฉีดวัคซีนมากเท่าใด ก็ยิ่งปลอดภัย”
“คนที่ไม่ฉีดวัคซีน มีความเสี่ยงสูงนะที่จะติดเชื้อและแพร่สู่ผู้อื่น ดังนั้นกฎนี้ดีแล้ว”
“กฎนี้โอเคแล้วนะ เป็นการป้องกันที่ดี”
.
.
ส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย มองว่า
“มันเป็นเรื่องของส่วนบุคคลในการตัดสินใจว่าฉีดหรือไม่ฉีดไม่ใช่หรือ?”
“การบังคับเช่นนี้ อาจเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนะ”
.
อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลท้องถิ่นของเมืองนี้ได้ “ยกเลิก” กฎดังกล่าวแล้ว หลังกลายเป็นกระแสดังที่อ้ายจงเล่ามาข้างต้น
.
ทั้งนี้ ตามข้อมูลจาก GlobalTimes สื่อจีนรายใหญ่และถือเป็นสื่อที่เป็นกระบอกเสียงของทางการจีน ระบุ “ณ ตอนนี้ มีเพียงประชาชนชาวจีนราว 4% เท่านั้น ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว” จีนจึงยังคงเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเพิ่มจำนวนคนได้รับวัคซีนให้มากกว่านี้”
.
ทุกคนล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้?
.
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สำนักข่าวซิยฮว๋า (Xinhua News)
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน #กระแสสังคมจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง