#ซินเจียง #ชาวอุยกูร์ #ภาพวิวซินเจียง
แบนฝ้ายซินเจียง :หยุดมโน แต่จงอยู่ในโลกแห่งความจริง
หลังเกิดเหตุแบนฝ้ายซินเจียง หลายวันก่อน สื่อสังคมออนไลน์จีนปรากฏบทความระบุ การไลฟ์สดขายรองเท้า Nike ผ่านเว็บไซต์ทางการของ Nike นั้น รองเท้ากว่า 330,000 คู่ขายหมดเกลี้ยงภายใน 1 วินาที สาเหตุสำคัญคือวัยรุ่นจีนแย่งกันซื้อ เรื่องนี้ทำให้ชาวเน็ตจีนที่เป็นรุ่นพ่อแม่ปวดใจไปตามๆกัน
แต่พอวันรุ่งขึ้น มีบทความออกมาแฉว่าเรื่องดังกล่าวเป็นวิธีการส่งเสริมการขายของ Nike เท่านั้นยังไม่ใช่ความจริงทั้งหมด อย่างเช่นรองเท้ารุ่น AJ ที่ขนาดเหมาะกับชาวเอเชีย ที่แต่ก่อนขายดีมาก คราวนี้ขายได้แค่ 200 กว่าคู่เท่านั้น
สิ่งที่ยิ่งกว่านี้คือวัยรุ่นจีนคนหนึ่งเผยว่า ตอนเช้าเว็บไซต์ Nike ส่งข้อความบอกผมว่า “ไม่ได้รองเท้า” แต่ตอนเย็นกลับมาบอกว่า “ได้รองเท้า”
ชาวเน็ตจีนที่เป็นรุ่นพ่อแม่พอรู้ความจริง ค่อยหายใจทั่วท้อง
ผู้ติดตามการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศย่อมรู้ชัดว่า เหตุแบนฝ้ายซินเจียงเป็นเพียงหมากหนึ่งเท่านั้น จนถึงขณะนี้ “ฝ้ายซินเจียง”ที่ตะวันตกกำลังเล่นอยู่นั้นได้ลามไปถึง “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” “การกีดกันศาสนา” “การบังคับใช้แรงงาน” “การบังคับสตรีทำหมัน” และยังมีคำป้ายสีอีกหลายอย่างที่ล้วนแต่เลวร้ายและไม่เป็นความจริง สิ่งเหล่านี้ประโคมขึ้นเพื่อสร้างภาพว่า “ซินเจียงเป็นนรก”
“นรกซินเจียง”เป็นอย่างไร? ช่วงกว่า 40 ปีที่ผ่านมา ประชากรจีนที่เป็นชนเผ่าอุยกูร์เพิ่มขึ้นจากกว่า 5.5 ล้านคน มาเป็น 12.8 ล้านคน เฉพาะช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ประชากรสัญชาติจีน เชื้อชาติอุยกูร์เพิ่มขึ้นกว่า 2.5 ล้านคน อัตราการเกิดสูงกว่าแคนาดาหลายเท่า (แคนาดาเป็นหนึ่งในประเทศตะวันตกที่ใส่ร้ายว่าจีนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์)
โครงการช่วยเหลือผู้ยากจนของจีน ทำให้ชาวนาที่ยากจนพ้นความยากจนทั้งหมด และใช้ชีวิตอย่างอยู่ดีมีสุข สังคมซินเจียงมีความปลอดภัยและสงบสุข ช่วงกว่า 3 ปีที่ผ่านมา ซินเจียงไม่เคยเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายสักครั้ง
ปี 2019 ซินเจียงรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศกว่า 200 ล้านคน
การรณรงค์แบนฝ้ายซินเจียง ห้ามจ้างแรงงานที่เป็นชนเผ่าอุยกูร์ของตะวันตกนั้นมีเป้าหมายสำคัญคือ ทำให้ประชากรที่เป็นชนเผ่านี้สูญเสียรายได้สำคัญ ต้องกลับไปเป็นผู้ยากจนอีก ซึ่งก็จะก่อให้เกิดความไม่พอใจรัฐบาล กระทั่งกลายเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย นี่ไม่ใช่เรื่องพูดเล่น แต่เป็นเรื่องจริง
โชคดีที่ชาวต่างชาติก็มีผู้ที่รักความจริง ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องอย่างนางลูเฮน เบอมอง (Laurène Beaumond) กล่าวว่า ฉันเป็นชาวฝรั่งเศสที่ทำงานในจีน 7 ปีแล้ว พอดีมีสมาชิกครอบครัวอาศัยในเมืองอุรุมชีเมืองเอกของเขตปกครองตนเองอุยกูร์ซินเจียง ดังนั้น ฉันเคยเดินทางไปซินเจียงเกือบ 10 ครั้งระหว่างปี 2014 ถึงปี 2019 การเดินทางเหล่านี้ฉันไปเองไม่ได้ไปเพราะที่ทำงาน ไม่ได้ไปเพราะทางการจีนจัดให้ และก็ไม่เคยไปกับทัวร์เลยสักครั้ง
แผ่นดินแห่งนี้มีประชากรสัญชาติจีน ทั้งที่เป็นชนเผ่าอุยกูร์ มองโกเลีย รัสเซีย คาซัคและอีกหลายสิบชนเผ่าอยู่ร่วมกัน พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข สมานฉันท์ มีความเคารพให้เกียรติกัน สิ่งที่สำคัญยิ่งคือพวกเขาเคารพรักธรรมชาติ คำกล่าวที่ว่า“ขจัดวัฒนธรรม”นั้น เป็นไปไม่ได้เลย ที่ซินเจียง ร้านค้าทุกร้านล้วนติดป้ายที่มีสองภาษา ทั้งภาษาอุยกูร์และภาษาจีน
ปี 2016 ระหว่างการเดินทางในซินเจียง ฉันป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล นายแพทย์ชาวอุยกูร์หลายคนรับผิดชอบรักษาโรคให้ฉัน โรงพยาบาลแห่งนี้อยู่ใกล้กับมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองอุรุมชี ตอนเช้าของทุกวัน ฉันตื่นขึ้นมาท่ามกลางเสียงสวดภาวนาของชาวมุสลิม โรงพยาบาลได้จัดอาหารเป็นอาหารฮาลาลร้อยเปอร์เซ็น เมื่อฉันอ่านข่าวที่สื่อตะวันตกเผยแพร่ว่า “ชาวอุยกูร์กว่าแสนคนถูกจับเข้าค่ายกักกัน” ทำให้ฉันรู้สึกสะเทือนใจ ถ้าคุณไม่เคยไปซินเจียง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเชื่อคำพูดแบบนี้
ฉันไม่ได้บอกว่าเคยไปซินเจียง 10 ครั้งก็รู้เรื่องซินเจียงทั้งหมด แต่สิ่งที่ฉันได้พบได้เห็นนั้น ไม่เหมือนกับสิ่งที่สื่อตะวันตกเสนอโดยสิ้นเชิง ในเที่ยวบินจากอุรุมชีถึงกรุงปักกิ่ง ฉันเคยเจอสามีภรรยาชาวฝรั่งเศสคู่หนึ่ง พวกเขาบอกกับฉันว่า “ซินเจียงเป็นมณฑลจีนที่เราชอบมากที่สุด”
เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายแม็กซ์ บลูเมนทอล (Max Blumenthal) บรรณาธิการเดอะเกรย์โซน (The Grayzone) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวอิสระของสหรัฐฯ ประกาศรายงาน “กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวหาจีนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นั้น สร้างบนพื้นฐานการใช้ตัวเลขที่ไม่เป็นจริงและคำพูดของกลุ่มขวาสุด” เขากล่าวว่า เมื่อพิจารณารายงานของนายอาดริอัน เซนจ์ (Adrian Zenz) อย่างละเอียดแล้วพบว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ทั้งนั้น ถึงขั้นน่าขันมาก แต่คำพูดของเขาถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ประเทศตะวันตก สมาชิกสภาและสื่อหลักของตะวันตกนำไปเผยแพร่อย่างกว้างขวาง และเมื่อมีบุคคลหรือสื่อใดแสดงท่าทีกังขา ก็จะถูกกดดันกระทั่งข่มขู่คุกคามเป็นรายบุคคล
นายแมคซิม วิวาส (Maxime Vivas) นักประพันธ์ชื่อดัง นักวิเคราะห์การเมืองของฝรั่งเศส เคยเดินทางไปซินเจียงในปี 2016 และ ปี2018 ใช้เวลา 4 ปีเขียนหนังสือ “การสิ้นสุดข่าวปลอมเกี่ยวกับชาวอุยกูร์” เขากล่าวว่า “ไพ่ซินเจียง”เป็นข้ออ้างที่ใช้เพื่อยับยั้งจีน พวกสื่อและนักการเมืองตะวันตกที่ใส่ร้ายป้ายสีซินเจียงนั้น ไม่สนใจความจริงและข้อเท็จจริง สหรัฐฯ มีอาวุธสำคัญสามอย่าง ได้แก่ สงครามทางทหาร สงครามการค้าและสงครามสื่อ การเปิดสงครามต่อจีนไม่คุ้มค่า สงครามการค้าไม่ได้เปรียบใดๆ ที่เหลือก็คือสงครามสื่อ
สองวันก่อน เพื่อนคนไทยคนหนึ่งฝากข้อความว่า “ล่าสุด Google translate แปลไทย-จีน เริ่มมีปัญหาแปลไม่ตรงเหมือนเดิมแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหา สหรัฐอเมริกาใช้ทุกช่องทางในการทำลายจีนจริงๆ…”
เราทำงานเกี่ยวกับภาษาไทยนานแล้ว มีเพื่อนคนไทยหลายคน จึงมีความเชื่อมั่นต่อสายตาแห่งภูมิปัญหาของเพื่อนคนไทย
ปัจจุบันที่ทางตอนใต้ของซินเจียง พื้นที่ปลูกฝ้ายกว่า 70% ใช้เครื่องจักรในการเก็บเกี่ยว ทางเหนือของซินเจียงใช้กันกว่า 95% เกษตรกรผู้ปลูกฝ้ายรุ่นใหม่ของซินเจียงกำลังใช้ระบบดาวเทียมนำร่องในการปลูกฝ้าย ใช้โดรนพ่นยาปราบศัตรูพืช เมื่อถึงฤดูการเก็บเกี่ยว ก็ใช้สมาร์ทโฟนกดแอพพลิเคชั่นติดต่อบริษัทที่ให้บริการเครื่องจักร ตัวเกษตรกรเองเพียงแต่นั่งชมด้วยความสนุกสนานเท่านั้น
นักการเมืองและสื่อตะวันตกที่กล่าวหาว่ามี “การบังคับใช้แรงงาน”นั้น อาจจะหมายถึง“การบังคับให้โดรนและเครื่องจักรทำงาน”หรือเปล่า?
โลกปัจจุบันเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 แล้ว แต่สมองและแนวคิดของพวกเขายังอยู่ในสมัยทาส ช่วยปรับจูนให้ตรงกับความเป็นจริงของยุคสมัยด้วย จะได้พูดกันรู้เรื่องและพูดแต่สิ่งที่เป็นความจริงเท่านั้น …..อย่าได้มโนให้เลอะเทอะกันไปใหญ่
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
ลึกชัดกับผิงผิง