บทวิเคราะห์ตลาด IPO ของฮ่องกงและแนวโน้มในปี พ.ศ. 2566

ฮ่องกงเป็นแหล่งระดมทุนที่มีขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก โดยในช่วงปี พ.ศ. 2562 – 2565 ฮ่องกงต้องเผชิญกับความผันผวนของตลาดทุนสูง อันเนื่องมาจากผลกระทบจากปัจจัยภายนอกสำคัญหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อจำนวนและรูปแบบของบริษัทใหม่ ๆ ที่ต้องการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือที่เรียกว่าการเปิด Initial Public Offering (IPO) อย่างมีนัยยะสำคัญ

Statisticsin year 2019(2562)in year 2020(2563)in year 2021(2564)in year 2022(2565)
Number of new listed companies1831549890
Total Equity funds raised (HK $million)451,981.80743,654.50770,734.70251,888.80
IPO Equity Funds Raised (World Rank)1244
Percentage of newly listed companies from Mainland Enterprises in HK stock market62%70%89%83%

การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนและการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงปลายปี 2562 – กลางปี 2563 ของฮ่องกง ได้แก่ 

1. เหตุการณ์ไม่สงบภายในเมืองฮ่องกงที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 อย่างต่อเนื่องจนถึง 2563 เพื่อประท้วงรัฐบาลกลางจีนที่เข้ามามีอิทธิพลในการปกครองภายในฮ่องกงภายใต้นโยบาย 1 ประเทศ 2 ระบบ และได้ลุกลามต่อเนื่องจนเกิดผลกระทบเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตประจำวันของพลเมืองฮ่องกง ในช่วงดังกล่าว 

2. ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลฮ่องกงประกาศให้เป็นโรคระบาดที่ต้องควบคุมเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 และมีการดำเนินนโยบายและมาตรการที่เข้มงวดในการป้องกันและควบคุมโรคภายในเมือง รวมไปถึงมาตรการควบคุมการขนส่งและเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้การเดินทางมีความยากลำบาก และการดำเนินธุรกิจต้องหยุดชะงัก 

3. รัฐบาลฮ่องกงประกาศบังคับใช้กฎหมายความมั่นคง (National Security Law) เมื่อ 30 มิถุนายน 2563 เพื่อรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของเมืองภายใต้นโยบาย 1 ประเทศ 2 ระบบ

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้นักลงทุนจากทั้งเอเชียและตะวันตกเกิดความไม่มั่นใจในอิสรภาพของการเคลื่อนย้ายทุนและโอกาสการเติบโตของตลาดในภูมิภาค ส่งผลให้ปริมาณการลงทุนลดลงและมีการ เคลื่อนย้ายทุนออกจากเมือง ซึ่งสะท้อนได้จากจำนวนของบริษัทที่ทำ IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงที่ลดลงจาก 183 บริษัทในปี 2562 เหลือเพียง 154 บริษัทในปี 2563 โดยสัดส่วนของบริษัทจากชาติตะวันตกที่ เข้าระดมทุนในตลาดฮ่องกงได้ลดจำนวนลงในขณะที่บริษัทใหม่จากประเทศจีนได้เพิ่มมากขึ้นโดยคิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนบริษัทที่ระดมทุนในปี 2563 ทั้งหมด ต่อมาในปี 2564 จำนวนบริษัทที่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียง 98 บริษัท และในปี 2565 ลดลงอีกเหลือเพียง 90 บริษัท

ในภาพรวม จำนวนบริษัทที่เข้ามาใหม่จากประเทศจีนมีสัดส่วนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับบริษัทจากชาติตะวันตกที่ค่อย ๆ ลดน้อยลง ซึ่งนอกเหนือจากสถานการณ์การเมืองภายในฮ่องกงแล้ว สาเหตุสำคัญที่บริษัทจากชาติตะวันตกมีการระดมทุนในตลาดฮ่องกงลดน้อยลง คือ การที่กลุ่มประเทศตะวันตกได้ ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นเดียวกัน ซึ่งวิกฤติเศรษกิจได้รุนแรงขึ้นด้วยข้อพิพาทด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งผลกระทบจากสงครามรัสเซียกับยูเครนที่รัสเซียได้เคลื่อนย้ายกำลังพลเข้าสู่ยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ส่งผลให้เกิดวิกฤติพลังงานและปัญหาเงินเฟ้อที่ควบคุมได้ยาก รวมไปถึงภาคการขนส่งระหว่างประเทศที่ได้หยุดชะงักลง ทำให้บริษัทต่าง ๆ ทั่วโลกต้องประสบปัญหาขาดทุนและต้องปรับลดพนักงานเพื่อลดค่าใช้จ่าย 

โดยที่สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยืดเยื้อและไม่มีแนวโน้มว่าจะสิ้นสุดลงในระยะสั้น รัฐบาลทั่วโลกจึงต้องพยายามแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะปัญหาเงินเฟ้อด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบก้าวกระโดด เพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งการใช้มาตรการดังกล่าวส่งผลลบต่อตลาดทุนอย่างมาก เนื่องจากต้นทุนการผลิตและต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทต่าง ๆ จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง (Stagflation) และนำไปสู่ปัญหาด้านศักยภาพในการชำระหนี้ของบริษัทต่าง ๆ และจะมีผลกระทบเชิงลบต่อ ธุรกิจของภาคธนาคาร เนื่องจากอัตรา Nonperforming Loan (NPL) เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ธนาคารประสบปัญหา ขาดสภาพคล่องและขาดทุนในที่สุด ซึ่งสะท้อนได้จากการประกาศล้มละลายของธนาคาร Signature bank ของสหรัฐอเมริกาในวันที่ 12 มีนาคม 2565 ตามด้วยธนาคาร Silicon Valley bank ในวันที่ 13 มีนาคม 2565 และได้มีการประกาศล้มละลายของธนาคารยักษ์ใหญ่ของยุโรป ได้แก่ Credit Suisse และสภาวะสั่นคลอนของธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Deutsche Bank ของเยอรมัน ส่งผลให้รัฐบาลประเทศเหล่านี้ต้องยื่นมือ และออกมาตรการช่วยเหลือและพยายามควบคุมสภาวะสมดุลของทั้งภาคการเงินและภาคธุรกิจของประเทศ

อย่างไรก็ดีขณะที่ตลาดทุนตะวันตกเผชิญความท้าทาย ตลาดทุนจีนได้ปรับตัวให้แข็งแกร่งขึ้นในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ด้วยนโยบายที่เน้นการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจภายในประเทศและสนับสนุนเศรษฐกิจที่มุ่งพัฒนาและผลักดันไปสู่ New Economy โดยมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่เป็นพื้นฐานและกลไกขับเคลื่อน โดยสังเกตได้จากกลุ่มประเภทของบริษัทใหม่ ๆ ที่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงนับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา 

ในอดีตบริษัทที่ระดมทุนจากการทำ IPO ได้มากที่สุด 5 อันดับแรกในแต่ละปีจะมีลักษณะผสมผสานประกอบด้วยบริษัททั้งจากฝั่งประเทศตะวันตกและตะวันออก กอปรกับประเภทของธุรกิจก็มีลักษณะ ผสมผสานจากหลากหลายธุรกิจ โดยอธิบายได้จากตาราง Top 5 ของปี 2562 ข้างล่างนี้

Largest IPO Funds Raised by Newly Listed companies in year 2019 (2562)
RankCompany NameIPO Funds Raised (HK$ Billion)
1Alibaba Group Holding Ltd.-SW101.2
2Budweiser Brewing Co. APAC Ltd.45.08
3CSR Cayman Ltd.14.06
4Shenwan Hongyuan Group Co.,Ltd.9.09
5Hansoh Pharmaceutical Group Co.,Ltd.9.04

ทั้งนี้ เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2563 – 2564 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกประเทศได้รับผลกระทบจากการแพร่ ระบาดของโรคโควิด-19 สังเกตได้ว่า บริษัทจากประเทศจีนที่อยู่ใน Top 5 ของ IPO list ได้กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนและเป็นกลุ่มธุรกิจ New Economy ที่มุ่งเน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยนีใหม่เกือบทั้งหมด

Largest IPO Funds Raised by Newly Listed companies in year 2020 (2563)
RankCompany NameIPO Funds Raised (HK$ Billion)
1JD.com, Inc. -SW34.56
2JD Health International Inc.31
3NetEase , Inc. -S24.26
4Yum Cha Holdings, Inc. – S17.27
5China Bohai Bank Co.,Ltd. – H Shares15.9
Largest IPO Funds Raised by Newly Listed companies in year 2021 (2564)
RankCompany NameIPO Funds Raised (HK$ Billion)
1Kuaishou Technology -W48.3
2JD Logistics, Inc.28.27
3Baidu, Inc. – SW23.94
4Bilibili Inc.- SW23.23
5Xpeng Inc.- W16.02

ในปี 2565 ประเทศต่าง ๆ เริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 รวมถึงประเทศจีน ส่งผลให้ประเภทของธุรกิจของบริษัทที่เข้า IPO กลับมาเป็นรูปแบบผสมผสานอีกครั้ง ดังที่ปรากฏในตารางด้านล่าง

Largest IPO Funds Raised by Newly Listed companies in year 2022 (2565)
RankCompany NameIPO Funds Raised (HK$ Billion)
1China Tourism Group Duty Free Corporation Ltd.18.39
2Tianqi Lithium Corporation – H Shares13.46
3CALB Co.,Ltd. – H Shares10.1
4Sunshine Insurance Group Co.,Ltd.6.71
5Onewo Inc. – H Shares6.32

ในไตรมาสแรกของปี 2566 ฮ่องกงได้ประกาศเปิดเมืองเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และได้ปรับลดมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่องจนยกเลิกมาตรการฯ ในที่สุดในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงได้ประกาศนโยบายขับเคลื่อนเดินหน้าเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนพร้อมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากมาย ทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากสามารถกลับมาพัฒนาธุรกิจได้อีกครั้ง โดยมีบริษัทที่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงจำนวน 18 บริษัทในไตรมาสนี้ แม้ว่าจะยังเป็นจำนวนน้อยและระดมทุนได้ไม่มาก เพียง 6.6 พันล้านฮ่องกงดอลลาร์ แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มปริมาณต่อไปได้ เนื่องจากอัตราการว่างงานในไตรมาสแรกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการผลักดันโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ของภาครัฐและปริมาณการค้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า GDP ของฮ่องกงในปีนี้จะเติบโตได้ถึงร้อยละ 5.5 และจะมีบริษัทใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาด IPO ในปีนี้ประมาณ 110 บริษัท

อัพเดทล่าสุด

Facebook

ติดตามเราบน Facebook

Youtube

ติดตามเราบน Youtube

ฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เลขที่ 21 ถนนกวงหวา เขตฉาวหยาง กรุงปักกิ่ง 100600 สาธารณรัฐประชาชนจีน อีเมล : [email protected]

© 2020-2024 Science and Technology Section, Royal Thai Embassy in Beijing Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation, 21 Guanghua Road, Chaoyang District, Beijing 100600 P.R.C. E-mail: [email protected]