ตอบรับกระแสมาตรการ ‘วีซ่าฟรี’ แก่นักท่องเที่ยวไทย-จีน!! สายการบิน GX Airlines ได้ประกาศฟื้นฟูการให้บริการเที่ยวบินตรงในเส้นทาง “หนานหนิง-กรุงเทพฯ” เริ่มวันที่ 26 มกราคม 2567 เพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางที่คาดว่าจะมีเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต สอดคล้องตามการคาดการณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ระบุว่ามาตรการดังกล่าวจะนำไปสู่การเพิ่มเที่ยวบินระหว่าง 2 ประเทศมากขึ้น
หลังจากที่ข่าว ‘มาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่า) หรือ Visa Exemption’ แบบถาวรระหว่างไทย-จีนได้แพร่สะพัดในสื่อโซเชียลมีเดีย ได้ปลุกกระแสเที่ยวไทยในหมู่ชาวจีน โดยกระแสตอบรับมาตรการวีซ่าฟรี ส่งผลให้ยอดค้นหา“ประเทศไทย” บนแพลตฟอร์มท่องเที่ยวชั้นนำของจีนอย่าง Ctrip พุ่งกว่า 90% และได้สร้างความมั่นใจให้กับสายการบิน
สายการบิน GX Airlines หรือที่ภาษาจีนเรียกว่า “สายการบินเป่ยปู้วาน” (北部湾航空) เป็นสายการบินท้องถิ่นประจำเขตฯ กว่างซีจ้วง (บริษัทลูกของ Hainan Airlines) ได้เปิดเผยตารางบินในเส้นทาง “หนานหนิง-กรุงเทพฯ” เป็นเที่ยวบินตรงไป-กลับ สัปดาห์ละ 3 เที่ยว ทุกวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์
ปัจจุบัน สายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินตรง “หนานหนิง-กรุงเทพฯ” มีอยู่ 3 รายแล้ว ได้แก่ สายการบินนกแอร์ และสายการบิน Spring Air (春秋航空) และสายการบิน China Southern Airlines
บุคคลในแวดวงท่องเที่ยวหลายรายในกว่างซี เชื่อว่า “ประเทศไทย” จะเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต เป็นจุดหมายปลายทางที่มีลูกค้าเข้ามาสอบถามเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ปี 2565 ท่าอากาศยานนานาชาติอู๋ซวีนครหนานหนิง (รหัสท่าอากาศยาน IATA : NNG) เป็นหนึ่งในท่าอากาศยานของจีนที่มีอัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารสูง โดยหนึ่งในภารกิจสำคัญ คือ การเร่งดำเนินการฟื้นฟูเที่ยวบินระหว่างประเทศและ เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินระหว่างประเทศไปยังหัวเมืองสำคัญในประเทศสมาชิกอาเซียน
จากการเปิดเผยของท่าอากาศยานหนานหนิง ปี 2565 มีเที่ยวบินขึ้นลง 109,795 เที่ยว เพิ่มขึ้นร้อยละ 66.0 มีปริมาณผู้โดยสาร 13.69 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 105.6 มีปริมาณการขนถ่ายสินค้า 189,000 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.7 มีบริษัทสายการบินมากกว่า 50 ราย ให้บริการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า 168 เส้นทาง (เที่ยวบินในประเทศ 45 เส้นทาง และเที่ยวบินระหว่างประเทศ 23 เส้นทาง)
ปัจจุบัน มีเที่ยวบินไปยัง 11 เมือง ได้แก่ กรุงเทพฯ สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ พนมเปญ มะนิลา บันดาร์เสรีเบกาวัน เวียงจันทน์ ย่างกุ้ง จาการ์ตา โฮจิมินห์ และญาจาง
บีไอซี ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า พฤติกรรมการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีน(กว่างซี) มีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปสู่การท่องเที่ยวเป็นกรุ๊ปทัวร์ส่วนตัวขนาดเล็ก การท่องเที่ยวแบบท่องเที่ยวแบบอิสระ และการท่องเที่ยวเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะด้าน (การแพทย์และสุขภาพ กีฬา ธุรกิจ การประชุม นิทรรศการ) โดยให้บริษัทนำเที่ยวช่วยจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก และยานพาหนะ ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเรื่องบทบาทของบริษัทนำเที่ยวที่จะต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านการท่องเที่ยวแบบ ‘วัดตัวตัด’ (Tailor Made) ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น การสร้าง‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ (Customer Experience) และการสร้างความยืดหยุ่นของผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าที่มีความแตกต่างกันมากยิ่งขึ้น
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นข้างต้นอาจส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยที่ต้องปรับตัวและพัฒนารูปแบบการดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวจีนที่มีการเปลี่ยนแปลง ตามยุคสมัย โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบที่สามารถกำหนดเองได้ กลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยม และกลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง อาทิ การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และการท่องเที่ยวเชิงกีฬา
บีไอซี เห็นว่า การฟื้นฟูเที่ยวบินตรง “หนานหนิง-กรุงเทพฯ” เป็นนิมิตหมายอันดีในการเชิญชวนและส่งเสริมการเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชนสองประเทศ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว รวมถึงการแลกเปลี่ยนในภาคประชาชน ช่วยยกระดับรายได้ในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงภาคส่วนอื่นที่เกี่ยวของทั้งสองฝ่ายได้มากยิ่งขึ้น