เมื่อวัน 14 กันยายน 2566 รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้ประกาศโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวโครงการที่ 3 ของปี ในชื่อโครงการ “Night Vibes Hong Kong” ซึ่งมุ่งเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจกลางคืน (night-time economy) ครอบคลุมระยะเวลาตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยจะจัดให้มีกิจกรรมการแสดงตามประเพณี การฉายภาพยนตร์ การแจกส่วนลดเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ และเทศกาลอาหารและดนตรีในช่วงเวลากลางคืน เป็นต้น โดยนาย Paul Chan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังฮ่องกงได้แถลงต่อสื่อระบุว่า ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2566 สถานการณ์เศรษฐกิจฮ่องกงได้กลับคืนสู่สภาวะปกติแล้ว อย่างไรก็ดี การบริโภคท้องถิ่นยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มศักยภาพ กอปรกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ชาวฮ่องกงออกมาจับจ่ายใช้สอยและทำกิจกรรมนอกบ้านน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลากลางคืน
อนึ่ง ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2566 รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงได้จัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “Night Vibes Hong Kong” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกลางคืน (night-time economy) ไปแล้วกว่า 25 รายการ อาทิ (1) งานแสดงโคมไฟในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งผู้เข้าร่วมกว่า 6.6 แสนคน (2) การแสดงพลุฉลอง วันชาติจีน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 4.3 แสนคน และ (3) เทศกาลอาหารและเครื่องดื่ม ณ อ่าววิคตอเรีย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 1.4 แสนคน
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 ฮ่องกงได้ประกาศโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวมาแล้วหลายโครงการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการบริโภคท้องถิ่นและการท่องเที่ยว ประกอบด้วย (1) โครงการ “Hello Hong Kong” ที่มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยการแจกบัตรโดยสารเครื่องบินกว่า 4 แสนใบ การให้ส่วนลดร้านอาหารและการเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และการจัดนิทรรศการแสดงสินค้า / กิจกรรมระดับนานาชาติขนาดใหญ่หลายรายการ อาทิ การแข่งขัน Hong Kong Marathon การจัดงานแสดงผลงานศิลปะ Art Basel Hong Kong และการจัดงาน Hong Kong International Jewellery Show และ (2) โครงการ “Happy Hong Kong” ที่มุ่งเน้นการกระตุ้นการบริโภคท้องถิ่น โดยการจัดกิจกรรมการแสดงและเทศกาลอาหารและดนตรีในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วฮ่องกง
