รัฐบาลเจียงซีให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้ประกาศมาตรการเพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางด้านการค้าผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ทั้งภายในจีนและต่างประเทศ รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คลังสินค้าในต่างประเทศ โดยสนับสนุนผู้ประกอบการ และเขตทัณฑ์บนต่าง ๆ ในการสร้างคลังสินค้าในต่างประเทศมากกว่า 100 แห่งในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐฯ อาเซียน ยุโรป กลุ่มประเทศตามข้อริเริ่ม BRI และประเทศสมาชิก RCEP พร้อมให้บริการแก่บริษัทการค้าต่างประเทศอย่างครบวงจร อาทิ พิธีการศุลกากร คลังสินค้า การจัดจำหน่าย และการบริการหลังการขาย
ขณะที่มณฑลเจียงซียังเน้นการผสมผสานระหว่างระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะกับการค้าผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เช่น การบูรณาการรูปแบบการพัฒนา “รถไฟจีน-ยุโรป+อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน+คลังสินค้าในต่างประเทศ” เพื่อส่งเสริมการขนส่งสินค้าหลักของมณฑล อาทิ ชิ้นส่วน solar cell ชิ้นส่วน ยานยนต์ แบตเตอรี่ลิเธียม เครื่องใช้ไฟฟ้า งานฝีมือเซรามิก และเฟอร์นิเจอร์ ผ่านเส้นทางรถไฟจีน-ยุโรป อย่างรวดเร็วและสะดวก
ทั้งนี้มณฑลเจียงซีเร่งส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศผ่านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน โดยเน้นการพัฒนาระบบการบริหารจัดการคลังสินค้าในต่างประเทศที่มีประสิทธิภาพสูง การเชื่อมโยงระบบโลจิสติสก์ ระหว่างประเทศ รวมถึงการใช้ประโยชน์จากรถไฟบรรทุกสินค้าระหว่างประเทศ เช่น รถไฟจีน-ลาว ซึ่งช่วยเพิ่มช่องทางขนส่งสินค้าส่งออกจากเจียงซีไปยังอาเซียนมากยิ่งขึ้น จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะเร่งศึกษาการใช้ประโยชน์จากอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนเพื่อขยายช่องทางการกระจายสินค้าเข้าสู่ตลาดมณฑลตอนในอย่างเจียงซีมากยิ่งขึ้นได้ แหล่งอ้างอิง https://www.jx.chinanews.com.cn/news/2023/1013/86157.html
zeng yuancheng Xiamen_editor
