เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2564 สมาคมสมาพันธ์องค์กรจีนและสมาคมผู้ประกอบการแห่งประเทศจีนได้ประกาศรายชื่อบริษัท TOP 500 ของจีนในปี 2564 โดยนครฉงชิ่งมีบริษัทติดอันดับ TOP 500 ของจีนทั้งหมด 13 บริษัท อาทิ Jinke Realestate Group Shares Limited, Longfor Group Holdings Limited, Dima Holdings Co.,Ltd., Chongqing Huayu Property (Group) Co., Ltd., Chongqing Chemical and Pharmaceutical Holdings Group Finance Co., Ltd., Chongqing Construction Engineering Group Co.,Ltd, ธนาคาร RCB , ฯลฯ โดยบริษัทส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรมหลัก 5 ภาคส่วน ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิต อสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง ธุรกิจการค้า และบริการทางการเงิน
ในกลุ่มบริษัทที่ติดอันดับ TOP 500 ของจีน แบ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมการผลิต 249 บริษัท บริษัทอุตสาหกรรมบริการ 176 บริษัท และบริษัทอุตสาหกรรมอื่นอีก 75 บริษัท เมื่อเทียบกับปี 2563 จำนวนบริษัทอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มขึ้น 11 บริษัท จำนวนบริษัทรับเหมาก่อสร้างและบริษัทเหมืองถ่านหินลดลง 10 และ 6 บริษัท ตามลำดับ ในบรรดาอุตสาหกรรมอื่น 75 บริษัทดังกล่าว เป็นอุตสาหกรรมที่มีการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศทั้งหมด 42 บริษัท มีอัตราส่วนสูงกว่าร้อยละ 50
นายจู หงเริ่น รองประธานฝ่ายบริหารและประธานสมาคมสมาพันธ์องค์กรจีน เปิดเผยว่าบริษัทที่ติดอันดับ TOP 500 ของจีนมีการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งแสนทาง”
ในปี 2563 จีนเป็นผู้นำในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ห่วงโซ่การผลิตและห่วงโซ่อุปทานของจีนฟื้นตัวเป็นประเทศแรกของโลก ทำให้จีนสามารถผลิตสินค้าส่งออกไปทั่วโลก และมีส่วนสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในจีนมากขึ้น
รัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต โดยจากการจัดอันดับข้างต้นพบว่า บริษัทอุตสาหกรรมการผลิตคิดเป็นอัตราส่วนกว่า 50 จากทั้งหมด ดังนั้นเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด นักลงทุนชาวไทยที่ประสงค์จะลงทุนในจีนจำเป็นต้องศึกษาทิศทางการลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตในจีน อาทิ อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในนครฉงชิ่ง ซึ่งมีอัตราเติบโตไปในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่อง
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : เว็บไซต์ cqnews.net (เข้าถึงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564)
http://cq.cqnews.net/html/2021-09/27/content_51742503.html