สถานการณ์COVID-19รอบโลก แบบละเอียดยิบ ประจำวันที่ 2 มี.ค. – ช่วงบ่าย 3มี.ค.63
.
“สถานการณ์ในจีน”
-จำนวนผู้ป่วยสะสม 80,303ราย รักษาตัวในรพ.30,050ราย อาการหนัก 6,806ราย
– ออกจากรพ.47,306ราย
– เสียชีวิต 2,947 ราย สำหรับผู้เสียชีวิตยังคงอายุเฉลี่ย 60+ ขึ้นไปและส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว
– มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มจากวันก่อนหน้า 125 ราย โดยมี 27มณฑลที่ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเลย
– เสียชีวิตเพิ่ม 31ราย โดยอยู่ในหูเป่ยทั้งหมด
– รักษาหายและออกจากรพ. เพิ่มขึ้น 2,742ราย โดยอัตราการรักษาหายอยู่ที่ 58.85% และ เป็นระยะเวลา20วันติดต่อกันแล้วที่จีนมีจำนวนผู้หายดีมากกว่า 1,000รายต่อวัน
.
ข้อมูลผู้ติดเชื้อในจีน แบ่งตามพื้นที่ ณ 2มีนาคม 2563 เวลา 14.30น. ตามเวลาประเทศไทย
(สำหรับตัวเลขที่แบ่งตามพื้นที่เป็นข้อมูลอัพเดทเท่าที่มีตอนนี้ครับ อาจจะไม่อัพเดทที่สุด )
– มณฑลหูเป่ย (รวมอู่ฮั่น )
กำลังรักษา 28,216ราย/หายดีและออกจากรพ. 36,167ราย / เสียชีวิต 2,834ราย
– กว่างตง (รวมกว่างโจว)
กำลังรักษา 259ราย/หายดีและออกจากรพ. 1,084ราย/ เสียชีวิต 7ราย
– เหอหนาน (รวมเจิ้งโจว)
กำลังรักษา 24ราย/หายดีและออกจากรพ. 1,226ราย/ เสียชีวิต 22ราย
– เจ้อเจียง (รวมหังโจว)
กำลังรักษา 117ราย/หายดีและออกจากรพ. 1,095ราย/ เสียชีวิต 1ราย
– หูหนาน (รวมฉางซา)
กำลังรักษา 113ราย/หายดีและออกจากรพ. 901ราย/ เสียชีวิต 4ราย
– อันฮุย (รวมเหอเฟย)
กำลังรักษา 58ราย/หายดีและออกจากรพ. 926ราย/ เสียชีวิต 6ราย
– เจียงซี
กำลังรักษา 64ราย/หายดีและออกจากรพ. 870ราย/ เสียชีวิต 1ราย
– ซานตง (รวมชิงต่าว)
กำลังรักษา 250ราย/หายดีและออกจากรพ. 502ราย/ เสียชีวิต 6ราย
– เจียงซู (รวมหนานจิง,ซูโจว)
กำลังรักษา 75ราย/หายดีและออกจากรพ. 556ราย
– ฉงชิ่ง
กำลังรักษา 101ราย/หายดีและออกจากรพ. 469ราย/ เสียชีวิต 6ราย
– ซื่อชวน (รวมเฉิงตู)
กำลังรักษา 146ราย/หายดีและออกจากรพ. 389ราย/ เสียชีวิต 3ราย
– เฮยหลงเจียง (รวมฮาร์บิ้น)
กำลังรักษา 109ราย/หายดีและออกจากรพ. 358ราย/ เสียชีวิต 13ราย
– ปักกิ่ง
กำลังรักษา 118ราย/หายดีและออกจากรพ. 288ราย/ เสียชีวิต 8ราย
– เซี่ยงไฮ้
กำลังรักษา 41ราย/หายดีและออกจากรพ. 294ราย/ เสียชีวิต 3ราย
– เหอเป่ย
กำลังรักษา 13ราย/หายดีและออกจากรพ. 299ราย/ เสียชีวิต 6ราย
– ฝูเจี้ยน (รวมฝูโจว,เซี่ยเหมิน)
กำลังรักษา 40ราย/หายดีและออกจากรพ. 255ราย/ เสียชีวิต 1ราย
– กว่างซี (รวมหนานหนิง)
กำลังรักษา 48ราย/หายดีและออกจากรพ. 202ราย/ เสียชีวิต 2ราย
– ส่านซี (รวมซีอาน)
กำลังรักษา 28ราย/หายดีและออกจากรพ. 216ราย/ เสียชีวิต 1ราย
– หยุนหนาน (รวมคุนหมิง,ลี่เจียง,ต้าหลี่)
กำลังรักษา 3ราย/หายดีและออกจากรพ. 169ราย/ เสียชีวิต 2ราย
– ไห่หนาน(รวมไหโข่ว)
กำลังรักษา 12ราย/หายดีและออกจากรพ. 151ราย/ เสียชีวิต 5ราย
– กุ้ยโจว
กำลังรักษา 30ราย/หายดีและออกจากรพ. 114ราย/ เสียชีวิต 2ราย
– เทียนจิน
กำลังรักษา 15ราย/หายดีและออกจากรพ. 118ราย/ เสียชีวิต 3ราย
– ซานซี
กำลังรักษา 14ราย/หายดีและออกจากรพ. 119ราย
– เหลียวหนิง
กำลังรักษา 20ราย/หายดีและออกจากรพ. 104ราย/ เสียชีวิต 1ราย
– ฮ่องกง
กำลังรักษา 62ราย/หายดีและออกจากรพ. 36ราย/ เสียชีวิต 2ราย
– จี๋หลิน
กำลังรักษา 9ราย/หายดีและออกจากรพ. 83ราย/ เสียชีวิต 1ราย
– กานซู่
กำลังรักษา 4ราย/หายดีและออกจากรพ. 85ราย/ เสียชีวิต 2ราย
– ซินเจียง
กำลังรักษา 5ราย/หายดีและออกจากรพ. 68ราย/ เสียชีวิต 3ราย
– มองโกเลียใน (เน่ยเหมิงกู่)
กำลังรักษา 20ราย/หายดีและออกจากรพ. 54ราย
– หนิงเซี่ย
กำลังรักษา 5ราย/หายดีและออกจากรพ. 69ราย
– ไต้หวัน
กำลังรักษา 29ราย/หายดีและออกจากรพ. 12ราย/ เสียชีวิต 1ราย
– ชิงไห่
กำลังรักษา 0ราย/หายดีและออกจากรพ. 18ราย
– มาเก๊า
กำลังรักษา 2ราย/หายดีและออกจากรพ. 8ราย
– ทิเบต
กำลังรักษา 0ราย/หายดีและออกจากรพ. 1ราย
.
“สถานการณ์นอกจีน”.
– ไทย 43ราย /เสียชีวิต1ราย/ รักษาและออกจาก รพ. 31ราย
ผู้ติดเชื้อรายล่าสุด รายที่43 เป็นหญิงอายุ 22ปี ทำงานร่วมกับผู้ป่วยรายที่37ที่ขับรถให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือ ใครมีอาการป่วย ไอ จาม สามารถโทรไปได้ที่เบอร์ 1422 หากมีอาการป่วยหรือเข้าข่าย จะมีทีมแพทย์ไปรับถึงที่ โดยเฉพาะกลุ่มเฝ้าระวัง
– เกาหลีใต้ 5,186ราย /เสียชีวิต31ราย/รักษาและออกจากรพ. 34ราย
วันที่2 มี.ค.63 เพียงวันเดียว จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 600ราย และช่วงบ่ายของวันที่3มี.ค.เพิ่มมาอีก 374ราย โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังคงมาจากพื้นที่แทกู คิดเป็นสัดส่วนกว่า70%ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ตามมาด้วยจังหวัดคยองซังที่อยู่ติดกับแทกู (แทกู – พื้นที่ที่เกิดการระบาดอย่างหนักจากกรณีคุณป้าผู้ป่วยหมายเลข31ที่เชื่อว่าเป็น Super Spreader ผู้แพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว)
ตอนนี้หลายเมืองใหญ่ของเกาหลีใต้ก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น โซล 98ราย ปูซาน90ราย
ในจำนวนผู้ติดเชื้อ ตอนนี้พบผู้ติดเชื้ออายุน้อยที่สุดในเกาหลีใต้เป็นทารกวัย45วัน
สำหรับผู้เสียชีวิตโดยส่วนใหญ่ ยังคงเป็นผู้สูงอายุและส่วนใหญ่อยู่ที่แทกู ซึ่งอัตราการเสียชีวิตจากCOVID-19ในเกาหลีใต้ยังคงอยู่ที่ราว 1%
อีกประเด็นหนึ่งที่มีคนสนใจอย่างมาก คือ ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ แถลงยืนยันเมื่อ 1มี.ค. ว่า สาวกลัทธิชินชอนจิ ลัทธิเดียวกับคุณป้าหมายเลข31เมืองแทกู ไปเมืองอู่ฮั่นในช่วงเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มการระบาดของCOVID-19 แต่ในตอนนี้ยังไม่ทราบจำนวนแน่ชัดว่ามีจำนวนกี่คนที่ไปอู่ฮั่นตอนนั้น
โดยทางการเกาหลีใต้จะทำการยื่นฟ้องต่อผู้ก่อตั้งลัทธิชินชอนจิรวมถึงแกนนำ ทำให้เมื่อวานนี้ 2มี.ค. ทางผู้ก่อตั้งลัทธิออกมาแถลงข่าวพร้อมคุกเข่าขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
– ญี่ปุ่น 981ราย /เสียชีวิต 12ราย/ รักษาและออกจากรพ. อย่างน้อย 41ราย
(เฉพาะบนเรือสำราญนอกชายฝั่งเมืองโยโกฮาม่า มีผู้ติดเชื้อแล้วทั้งสิ้น 705ราย และมีเจ้าหน้าที่กักกัน-ดูแลคนบนเรือบางส่วนติดด้วย)
– อิตาลี 2,084ราย/เสียชีวิต 52ราย/ รักษาและออกจากรพ. 193ราย
วันที่ 2 มี.ค. เพียงวันเดียว ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 373ราย
เริ่มแรกสุดที่มีการพบผู้ติดเชื้อในอิตาลี มาจากนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปเที่ยวที่อิตาลี แต่สาเหตุที่อิตาลีมียอดผู้ติดเชื้อสูงขึ้น โดยเฉพาะทางตอนเหนือของประเทศ ที่Lombardy คาดกันว่ามาจากชายอิตาลีวัย38ปี ได้พบปะกับเพื่อนที่เพิ่งไปจีนมา ในวันที่ 20 ม.ค.63 แต่เขาเริ่มมามีอาการป่วยในวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งตอนแรกหมอวินิจฉัยว่าเขาเป็นไข้หวัดใหญ่ แต่หลังจากนั้นเขาอาการหนักขึ้น และก็ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อ รวมถึงภรรยาของเขาที่กำลังตั้งครรภ์ด้วย ตั้งแต่นั้นมาเริ่มมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นใน Lombardy รวมถึงคุณหมอและพยาบาลในโรงพยาบาลที่ชายผู้นี้รักษาตัว
จุดสำคัญคือขณะที่เขาไม่มีอาการป่วยใดๆ เขาใช้ชีวิตตามปกติ เป็นเวลากว่า1สัปดาห์ก่อนที่จะถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อ แต่ทางการแพทย์เชื่อว่า เชื้อสามารถแพร่จากเขาไปยังคนอื่นได้ แม้จะไม่มีอาการแสดงออกมา และนี่อาจเป็นที่มาของการระบาดใหญ่ในอิตาลี
และนอกจาก Lombardy อีกที่หนึ่งที่ระบาดหนักก็คือ Veneto โดยผู้ป่วยรายแรกๆของ่นั่นมีประวัติเดินทางไปยัง Codogno แคว้นLombardy เมืองเดียวกับชายคนนี้
จากการระบาดอย่างหนักในอิตาลี โดยเฉพาะอิตาลีตอนเหนือ ตอนนี้เริ่มทำให้ประเทศใกล้เคียงและทวีปอื่นๆนอกยุโรป มีผู้ติดเชื้อ โดยมีประวัติเดินทางไปอิตาลี ได้แก่ ลักเซมเบิร์ก,ไอร์แลนด์,ซานมาริโน,ไอซ์แลนด์,เดนมาร์ก, โรมาเนีย,โครเอเซีย,กรีซ,ออสเตรีย,สวิตเซอร์แลนด์,เนเธอร์แลนด์,ลิทัวเนีย,มาซิโดเนียเหนือ,แอลจีเรีย,ไนจีเรีย,บราซิล และเม็กซิโก
– ลักเซมเบิร์ก
ติดเชื้อ 1 ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 1 มี.ค. 63)
ผู้ติดเชื้อเป็นชายชาวลักเซมเบิร์กอายุ40กว่า เพิ่งเดินทางกลับจากอิตาลี
– ไอร์แลนด์
ติดเชื้อ 1 ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 1 มี.ค. 63)
คาดว่ามีประวัติเดินทางไปยังตอนเหนือของอิตาลี ตามการรายงานของBBC (https://www.bbc.com/news/world-europe-51693259)
– ซานมาริโน
ติดเชื้อ 1 ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 29 ก.พ.63)
– ไอซ์แลนด์
ติดเชื้อ 9ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 29 ก.พ.63)
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีประวัติเดินทางไปอิตาลี
-ลิทัวเนีย
ติดเชื้อ 1 ราย
– เนเธอร์แลนด์
ติดเชื้อ 18ราย
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีประวัติเดินทางไปอิตาลี โดยเฉพาะทางตอนเหนือ เช่น Lombardy หรือถ้าไม่ได้ไป ก็จะมีประวัติพบปะใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อ หรือมีประวัติการเดินทางไปอิตาลี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มี.ค. Nike (ไนกี้) ได้ปิดสำนักงานใหญ่ภูมิภาคยุโรป ที่ตั้งอยู่ในเนเธอร์แลนด์ หลังมีรายงานว่า พนักงานไนกี้คนหนึ่งมี่นั่น ติดเชื้อ ตามการรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ (https://www.reuters.com/article/us-health-coronavirus-netherlands-nike/nike-temporarily-closes-european-headquarters-due-to-coronavirus-case-idUSKBN20P0NK)
– ไนจีเรีย
ติดเชื้อ 1ราย
– เม็กซิโก
ติดเชื้อ 5ราย
– เดนมาร์ก
ติดเชื้อ 4ราย
– โรมาเนีย
ติดเชื้อ 3ราย หายดีและออกจากรพ. 1ราย
– มาซิโดเนียเหนือ
ติดเชื้อ 1ราย
– นอร์เวย์
ติดเชื้อ 25ราย
ส่วนใหญ่มีประวัติเดินทางไปอิตาลี
– กรีซ
ติดเชื้อ 7ราย
-แอลจีเรีย
ติดเชื้อ 5ราย
เริ่มต้นจากผู้ติดเชื้อชาวอิตาลีเดินทางไปยังแอลจีเรียเมื่อวันที่17ก.พ.ที่ผ่านมา และมีรายงานว่าป่วยCOVID-19ในวันที่ 26 ก.พ.
แต่ล่าสุด ผู้ป่วยที่ติดเชื้อในแอลจีเรีย เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน (แม่และลูกสาว) ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับคนที่เดินทางมาจากฝรั่งเศส กล่าวคือ แม่และลูกสาวคู่นี้ ได้พบปะกับญาติสองคน (คู่พ่อลูก)ที่มาจากฝรั่งเศส โดยมีรายงานว่า ทั้งสี่คนนี้ต่างติดเชื้อทั้งหมด
– บราซิล
ติดเชื้อ 2ราย
ทั้ง2รายมีประวัติเดินทางไปอิตาลี
– โครเอเชีย
ติดเชื้อ 8ราย
โดยรายแรกมีรายงานออกมาเมื่อวันที่ 25 ก.พ.63 เดินทางกลับจาก มิลาน อิตาลี และต่อมา น้องชายฝาแฝดของเขา ก็ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อด้วย
ผู้ป่วยรายที่สามของโครเอเชีย เดินทางกลับมาจากอิตาลีเช่นกัน โดยมาจาก Parma และหลังจากที่เขาได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ สมาชิกในครอบครัวเดียวกับเขา อีก4ราย ก็ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ
ส่วนรายล่าสุดมีการยืนยันว่าเป็นผู้ที่มีการพบปะใกล้ชิดกับผู้ป่วยก้อนหน้านี้เช่นกัน
– ออสเตรีย
ติดเชื้อ 18ราย
– สวิตเซอร์แลนด์
ติดเชื้อ 38ราย
– โมนาโค
ติดเชื้อ 1 ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 29 ก.พ.63)
– โปรตุเกส
ติดเชื้อ 2 ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 2 มี.ค.63)
1ราย เป็นชาวโปรตุเกสเดินทางกลับมาจากบาเลนเซีย สเปน
อีก1ราย เป็นคุณหมอชาวโปรตุเกสที่กลับจากไปพักผ่อนที่ทางตอนเหนืออิตาลี
– ลัตเวีย
ติดเชื้อ 1 ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 2 มี.ค.63)
เดินทางกลับจากทริปท่องเที่ยวที่อิตาลี
– อันดอร์รา
ติดเชื้อ 1 ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 2 มี.ค.63)
เดินทางกลับจากทริปท่องเที่ยวที่อิตาลี
– จอร์แดน
ติดเชื้อ 1 ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 2 มี.ค.63)
มีประวัติเดินทางกลับจากอิตาลี
– ตูนิเซีย
ติดเชื้อ 1 ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 2 มี.ค.63)
มีประวัติเดินทางกลับจากอิตาลี
– โมร็อกโก
ติดเชื้อ 1 ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 2 มี.ค.63)
เป็นชาวโมร็อกโกแต่อาศัยในอิตาลี และได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อหลังกลับมายังโมร็อกโก
.
– อิหร่าน 1,501ราย/เสียชีวิต 66ราย/ รักษาและออกจากรพ. 291ราย
จุดเริ่มต้นของการระบาดหนักในอิหร่าน มีการรายงานผู้ติดเชื้อเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 ก.พ.63
โดยเมืองที่มีการระบาดหนัก อยู่ที่เมืองกอม (Qom – อยู่ไม่ไกลจากกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน ราว 120-140กม.)
ผู้ติดเชื้อจำนวนมากในตอนแรก มีประวัติเดินทางไปเมืองกอม หรือออกจากเมืองกอมไปยังเมืองอื่นในอิหร่าน รวมถึงคนในอิหร่านที่ใกล้ชิดหรือพบปะกับคนที่มีประวัติเหล่านี้
หนึ่งในข้อสันนิษฐานของการระบาดหนักในเมืองกอมจนระบาดไปยังพื้นที่อื่นในอิหร่าน ได้แก่ แรงงานจีนที่เข้ามาทำงานในเมืองกอม ตามการรายงานของ South China Morning Post
ล่าสุดมีรายงานว่า นายMohammad Mirmohammadi ที่ปรึกษาใกล้ชิดของอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ติดเชื้อ COVID-19และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2มี.ค. โดยมีรายงานอีกว่าแม่ของเขาก็เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้จากCOVID-19เช่นกัน
นอกจากที่ปรึกษาผู้นำอิหร่าน ที่เสียชีวิตลง จนถึงขณะนี้ มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านอย่างน้อย7คน ที่ติดเชื้อ รวมถึงรองนายกรัฐมนตรีของอิหร่าน Masoumeh Ebtekar และ Hadi Khosroshahi อดีตเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำกรุงวาติกันที่เสียชีวิตลงแล้วจากCOVID-19 เมื่อ 27ก.พ.63 ตามการรายงานของ 人民日报 (People’s Daily) สื่อจีน
จากที่สังเกตจะเห็นว่า “จำนวนผู้หายดีและออกจากรพ. ในอิหร่าน ค่อนข้างสูงมากถ้าเทียบกับระยะเวลาและเทียบกับประเทศอื่น” โดยส่วนหนึ่งน่าจะมาจากความช่วยเหลือทางการแพทย์จากจีน ซึ่งจีนส่งทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ซึ่งเป็นจิตอาสาของสภากาชาดจีนเข้าไปช่วย รวมถึงส่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ พวกชุดตรวจCOVID-19 ไปให้ด้วย (ตอนแรกอเมริกาได้ยื่นความช่วยเหลือแก่อิหร่าน แต่อิหร่านปฏิเสธ และรับความช่วยเหลือจากทางจีนแทน โดยอ้างอิงข้อมูลจากสื่อจีน South China Morning Post)
การแพร่ระบาดของCOVID-19ในอิหร่าน ส่งผลกระทบไปยังประเทศเพื่อนบ้าน-ตะวันออกกลาง รวมถึงทวีปอื่น โดยตอนนี้ “อาเมเนียร์,กาตาร์,คูเวต,บาห์เรน, อัฟกานิสถาน,โอมาน,อิรัก,จอร์เจีย,เอสโตเนีย,ปากีสถาน,อาเซอร์ไบจาน,เบลารุส และนิวซีแลนด์” ต่างพบผู้ป่วยCOVID-19ที่มีประวัติเดินทางไปอิหร่าน
– อาเมเนียร์
ติดเชื้อ 1 ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 1 มี.ค. 63)
ผู้ติดเชื้อเป็นชาวอาเมเนียร์ วัย29ปี เดินทางกลับจากอิหร่านเมื่อวันศุกร์ที่ 28ก.พ.63
– กาตาร์
ติดเชื้อ 7ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 29 ก.พ.63)
ส่วนใหญ่ มีประวัติเดินทางไปอิหร่าน โดยในจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด มีคนที่กลับจากอิหร่านโดยเที่ยวบินอพยพที่ทางรัฐบาลส่งไปรับตัวกลับมาจากอิหร่าน เมื่อ 27 ก.พ. ตามการรายงานของ รอยเตอร์
– อาเซอร์ไบจาน
ติดเชื้อ 3ราย
– เบลารุส
ติดเชื้อ 3ราย
– นิวซีแลนด์
ติดเชื้อ 1ราย
– จอร์เจีย
ติดเชื้อ 3ราย
– เอสโตเนีย
ติดเชื้อ 1ราย
– คูเวต
ติดเชื้อ 56ราย
– บาห์เรน
ติดเชื้อ 47ราย
– อัฟกานิสถาน
ติดเชื้อ 1ราย
– โอมาน
ติดเชื้อ 6ราย รักษาหายและออกจากรพ. 2ราย
– ปากีสถาน
ติดเชื้อ 5ราย
– อิรัก
ติดเชื้อ 26ราย
– อิสราเอล
ติดเชื้อ 12 ราย หายดีและออกจากรพ. 3ราย
– เลบานอน
ติดเชื้อ 10ราย
.
-ฝรั่งเศส 191ราย /เสียชีวิต 3ราย/รักษาและออกจากรพ.12ราย
มีรายงานพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากอยู่ที่ Oise (จังหวัดอวซ) โดยตอนนี้ผู้ติดเชื้อที่จังหวัดนี้มีอย่างน้อย 47ราย
ยังมีรายงานออกมาอีกว่า ผู้ติดเชื้อจำนวนไม่น้อยมีประวัติเดินทางไปที่ทางตอนเหนือของอิตาลีพื้นที่แพร่ระบาดหนักหรือมีความเกี่ยวข้องกับคนที่ไปในพื้นที่นั้น
และตอนนี้เริ่มมีการพบผู้ติดเชื้อในประเทศอื่นเป็นครั้งแรกที่เดินทางจากหรือมีประวัติฝรั่งเศส เช่น ที่ประเทศเซเนกัล
– เซเนกัล
ติดเชื้อ 1ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 2มี.ค. 63)
เป็นชาวฝรั่งเศสแต่อาศัยในเซเนกัล โดยได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อหลังจากเดินทางไปฝรั่งเศสและกลับมายังเซเนกัล
.
– สเปน 124ราย (รักษาและออกจากรพ. 3ราย)
ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า50ราย ภายใน1วัน
แม้ผู้ติดเชื้อรายแรกๆจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับอิตาลี แต่ตอนนี้มีการรายงานว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีประวัติเดินทางไปในอิตาลี โดยเฉพาะทางตอนเหนือของอิตาลี หรือมีความเกี่ยวข้อง-พบปะติดต่อกับคนที่มีประวัติเดินทางไป
และเริ่มมีการพบผู้ติดเชื้อในประเทศอื่นเป็นครั้งแรกที่เดินทางจากหรือมีประวัติไปสเปน เช่น ที่ประเทศเอกวาดอร์
– เอกวาดอร์
ติดเชื้อ 6 ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 1 มี.ค. 63)
ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นหญิงชาวเอกวาดอร์อายุ70กว่า ซึ่งอาศัยอยู่ที่สเปน โดยเดินทางมาที่เอกวาดอร์วันที่ 14 ก.พ. โดยไม่มีอาการป่วยใดๆ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันก็เริ่มมีไข้สูง
และอีก5รายที่ติดเชื้อ มีประวัติใกล้ชิดและพบปะโดยตรงกับผู้ติดเชื้อรายแรกของเอกวาดอร์
.
-เยอรมัน 157ราย (รักษาและออกจากรพ. 16ราย)
เยอรมันผู้ติดเชื้อพุ่งเพิ่มขึ้นถึง 157ราย โดยมีสาเหตุมาจาก สองสามีภรรยาคู่หนึ่ง (ณ ตอนนี้ได้รับการยืนยันว่าป่วยCOVID-19 ) ได้เข้าร่วมงาน CarnivalภายในเมืองNorth Rhine-Westphalia หลังจากนั้นก็เริ่มมีผู้ป่วย COVID-19เพิ่มขึ้น ซึ่งตามรายงานล่าสุด มีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 86รายแล้วจากพื้นที่นี้
.
– สหราชอาณาจักร (อังกฤษ,สกอตแลนด์,เวลส์)
40ราย (รักษาและออกจากรพ. 8ราย)
เริ่มมีเคสที่เกิดจากติดเชื้อภายในพื้นที่ โดยไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งมีรายงานว่าคนในครอบครัวเดียวกันมีการติดเชื้อต่อๆกันหลายราย มาจากที่ Surrey และ West sussex
ส่วนที่สกอตแลนด์ พบผู้ติดเชื้อเป็นครั้งแรกในวันที่ 2มี.ค. โดยมีประวัติเดินทางไปอิตาลี
.
-อเมริกา 105ราย /เสียชีวิต6ราย/รักษาและออกจากรพ. 3ราย
ผู้ติดเชื้อรายแรกของอเมริกามาจากชาวอเมริกันที่กลับจากไปเที่ยวอู่ฮั่น
สำหรับตอนนี้ ผู้ติดเชื้อในอเมริกามาจากหลายเส้นทาง
เส้นทางแรก: เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง เช่น จีน, อิตาลี และอิหร่าน (ผู้ติดเชื้อรายแรกในอเมริกาเป็นชาวอเมริกันที่เดินทางกลับจากเที่ยวอู่ฮั่น ในวันที่ 15 มกราคม)
เส้นทางสอง: อพยพกลับจากอู่ฮั่น และเรือสำราญ Diamond Princess
เส้นทางสาม: ติดเชื้อภายในประเทศ (ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ)อย่างน้อย 43 ราย พบที่รัฐวอชิงตัน, แคลิฟอร์เนีย, โอเรกอน, อิลลินอยส์, ฟลอริดา, นิวยอร์ก, แมสซาชูเซตส์, วิสคอนซิน และโรดไอส์แลนด์ ตามการรายงานของไทยรัฐ
– อินโดนีเซีย
ติดเชื้อ 2ราย (พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกวันที่ 2 มี.ค. 63)
– สิงคโปร์ 108ราย (รักษาและออกจากรพ. 78ราย)
-มาเลเซีย 29 ราย(รักษาและออกจากรพ. 22ราย)
-เวียดนาม 16ราย (รักษาและออกจากรพ. 16ราย)
– ออสเตรเลีย 34ราย /เสียชีวิต1ราย/รักษาและออกจากรพ. 15ราย
มีรายงานผู้เสียชีวิตรายแรก วันที่ 1มี.ค.63
-เนปาล 1 ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย)
– แคนาดา 27ราย (รักษาและออกจากรพ. 7ราย)
-กัมพูชา1 ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย)
– ศรีลังกา 1 ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย)
– ฟินแลนด์ 7ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย)
– อินเดีย 5ราย (รักษาและออกจากรพ. 3ราย)
– ฟิลิปปินส์ 3ราย / รักษาและออกจากรพ. 1ราย /เสียชีวิต1ราย
– UAE 21 ราย (รักษาและออกจากรพ. 5ราย)
– รัสเซีย 6ราย (รักษาและออกจากรพ. 2ราย)
– สวีเดน 15ราย
– เบลเยี่ยม 8ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย)
– อียิปต์ 1 ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย)
.
อ้ายจงรวบรวมข้อมูลจาก
–
https://voice.baidu.com/act/newpneumonia/newpneumonia
– Weibo:央视新闻, 人民日报
– Yonhap News
– Reuters
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง