นับเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับผู้ส่งออกสินค้าควบคุมอุณหภูมิ(ของไทย) เมื่อรัฐบาลกว่างซีตั้งเป้าหมายว่า…จะติดตั้งปลั๊กสำหรับตู้สินค้าควบคุมอุณหภูมิความเย็น (Reefer Container) ในท่าเรือรอบอ่าวเป่ยปู้กว่างซีให้มีมากกว่า 1,000 ชุดภายในสิ้นปี 2566 พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพการให้บริการด้านการขนส่งทางเรือสำหรับตู้คอนเทนเนอร์เย็นในท่าเรือรอบอ่าวเป่ยปู้กว่างซีด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
เมื่อไม่นานมานี้ กรมคมนาคมขนส่งเขตฯ กว่างซีจ้วง ได้ประกาศแผนปฏิบัติการเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการด้านการขนส่งสินค้าทางทะเล และผลักดันการพัฒนาเชิงคุณภาพด้านการขนส่งและโลจิติกส์ห่วงโซ่ความเย็นของเขตฯ กว่างซีจ้วง โดยมีสาระสำคัญที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ส่งออกสินค้าควบคุมอุณหภูมิของไทย ดังนี้
(1) การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกในบริเวณท่าเรือ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการรองรับการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์เย็นของท่าเรือรอบอ่าวเป่ยปู้กว่างซี โดยเฉพาะการก่อสร้างลานตู้คอนเนอร์เย็นและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ในบริเวณท่าเทียบเรืออัจฉริยะในท่าเรือชินโจว การเพิ่มปลั๊กสำหรับตู้คอนเทนเนอร์เย็น และการปรับปรุงลานตรวจสอบและกักกันโรคสำหรับสินค้าผลไม้ในท่าเรือให้มีความทันสมัยและรวดเร็ว เพื่อยกระดับศักยภาพในการตรวจสอบสินค้าห่วงโซ่ความเย็นที่ผ่านเข้าท่าเรือ
ทั้งนี้ หากการดำเนินการบรรลุเป้าหมายข้างต้นแล้ว สินค้าควบคุมอุณหภูมิ(จากไทย)จะได้รับประโยชน์มากพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นสินค้ากลุ่มอาหารและของสดเน่าเสียง่ายหรือสินค้ามูลค่าสูง โดยเฉพาะผลไม้ตามฤดูกาล ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มสินค้าหลักที่จีนมีการนำเข้าจากไทยเป็นจำนวนมาก
(2) การนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูลและเอกสารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและอำนวยความสะดวกในกระบวนการค้าระหว่างประเทศ กระบวนการทางศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้า และระบบงานขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ “เรือ+รถ” ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
Tips…. เทคโนโลยี Blockchain คืออะไร??? Blockchain เป็นเทคโนโลยีการเก็บและบันทึกข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ฐานข้อมูลนี้เรียกว่า “บล็อก” (Block) และฐานข้อมูลเหล่านี้จะถูกแชร์ (Share) ให้กับทุกคนในเครือข่ายเสมือน “ห่วงโซ่” (Chain) การทำธุรกรรมใดๆ ต่อ “บล็อก” จะต้องประกาศให้ทุกคนในเครือข่ายรับรู้ และเครือข่ายจะมีระบบตรวจสอบความถูกต้องก่อนตอบรับข้อมูลด้วยการสร้าง “บล็อก” ใหม่และนำไปต่อหลังบล็อกสุดท้าย ฐานข้อมูลนี้มีลักษณะเป็นห่วงโซ่ของบล็อกที่บันทึกธุรกรรมต่างๆ จึงเป็นที่มาของคำว่า “บล็อกเชน” (Blockchain)
ด้วยจุดเด่นของ Blockchain ที่มีความปลอดภัยและความโปร่งใสของระบบที่ตรวจสอบได้ ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน รัฐบาลกว่างซีได้กำหนดเป้าหมายที่จะพัฒนาฟังก์ชัน Electronic Release (การอัปโหลดสำเนาเอกสารการนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกี่ยวข้อง) บนแพลตฟอร์มบล็อกเชนในการตรวจปล่อยสินค้า ผู้ใช้แพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องสามารถเชื่อมโยง/แบ่งปันข้อมูลระหว่างกัน ทั้งผู้ให้บริการขนส่งสินค้า (carrier) บริษัทผู้ให้บริการท่าเรือ ศุลกากร และเจ้าของสินค้า (consignee) ช่วยให้กระบวนการตรวจปล่อยของในพิธีการศุลกากรสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยี Blockchain ใช้วิธีการเก็บข้อมูลอ้างอิงแบบ Real-time มีการตรวจสอบ และแชร์ข้อมูลให้บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเครือข่าย ฐานข้อมูลจะมีการอัปเดตเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ต้องส่งต่อข้อมูลเอกสารที่เป็นกระดาษ (paperless) ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถติดตามตรวจสอบสถานะและความถูกต้องได้ทันที สร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสให้กับข้อมูลและธุรกรรมต่างๆ ช่วยให้ต้นทุนเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจเมื่อเทียบกับระบบดั้งเดิม
การขนส่งและโลจิสติกส์เปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของการค้าระหว่างประเทศ ในส่วนของการยกระดับคุณภาพการให้บริการขนส่งต่อเนื่อง “เรือ+รถ” สำหรับตู้คอนเทนเนอร์เย็น รัฐบาลกว่างซีจะผลักดันการพัฒนางานขนส่งและโลจิสติกส์สำหรับตู้คอนเทนเนอร์เย็นร่วมกับอินเทอร์เน็ตทุกสรรพสิ่ง (Internet of Thing – IoT) ของบริษัท Guangxi Beibu Gulf International Port Group เพื่อให้การเชื่อมโยงและแบ่งปันข้อมูลระบบขนส่ง “เรือ+รถ” ในขั้นต้น และพัฒนาให้แพลตฟอร์มบล็อกเชนเป็นแพลตฟอร์มการแบ่งปันข้อมูลระบบขนส่ง “เรือ+รถ” ตู้คอนเทนเนอร์เย็นที่ใช้ทั่วทั้งมณฑลต่อไป
ความปลอดภัยของฐานข้อมูล การกระจายให้กับเครือข่ายในระบบทำให้ไร้ปัญหาเรื่องระบบล่ม และกระจายศูนย์นี้เองทำให้การขโมยหรือสร้างข้อมูลปลอมทำได้ยากกว่าการแฮกเครือข่าย Google Cloud หรือระบบของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เสียอีก เพราะแฮกเกอร์จะต้องแฮกคอมพิวเตอร์จำนวนมหาศาลของเครือข่ายและยังต้องเชื่อมห่วงโซ่ทั้งหมดใหม่ ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ
บีไอซี ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับกว่างซีแต่อย่างใด นับตั้งแต่ปี 2562 ที่เขตฯ กว่างซีจ้วงได้รับการอนุมัติจากสำนักงานกำกับดูแลการปริวรรตเงินตราต่างประเทศ หรือ SAFE ให้เป็น “จุดทดลองแพลตฟอร์มการให้บริการ Blockchain การเงินข้ามแดน” หรือ Cross-border Financial Blockchain Service Platform
เขตฯ กว่างซีจ้วงได้ทดลองนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้พัฒนาด้านการเงินเพื่อการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) เมื่อเปรียบเทียบกับกระบวนการค้าต่างประเทศแบบดั้งเดิม เทคโนโลยี Blockchain ช่วยแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงินจากความยุ่งยากซับซ้อนที่มาจากผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย การส่งต่อข้อมูลเอกสารที่เป็นกระดาษที่มีจำนวนมาก ตลอดจนกระบวนการตรวจสอบที่มักใช้เวลานาน ทำให้ภาคธุรกิจส่งออกและธุรกิจ SMEs สามารถเข้าถึงเงินทุน/สินเชื่อทางการค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพิ่มความรวดเร็วและถูกต้องของเอกสาร และความรวดเร็วในการจ่าย/รับเงินค่าสินค้า
จัดทำโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ที่มา เว็บไซต์ www.gx.chinanews.com.cn (中国新闻网广西) วันที่ 17 กันยายน 2565
เว็บไซต์ http://gx.sina.com.cn (新浪广西) วันที่ 16 กันยายน 2565