• คลังความรู้
  • /
  • บทความ
  • /
  • สำรวจความนิยมผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเก๋ากี้ ยอดสมุนไพรจีนที่กลับมาฮิตฮอตอีกครั้ง หลังการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ของทางการจีน – ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทยในจีน (Thailand Business Information Center in China)

สำรวจความนิยมผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเก๋ากี้ ยอดสมุนไพรจีนที่กลับมาฮิตฮอตอีกครั้ง หลังการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ของทางการจีน – ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทยในจีน (Thailand Business Information Center in China)

ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของทางการจีน ที่นอกจากจะทำให้กิจกรรมการเดินทางกลับมาคึกคักมากขึ้น ยังก่อให้เกิดการติดเชื้อในวงกว้าง (Mass Infection) ในประชากรจีนซึ่งสอดคล้องจากข้อมูลของ www.theguardian.com ที่ระบุว่าตั้งแต่ทางการจีนผ่อนคลายมาตรการฯ มีผู้ติดเชื้อฯไปแล้วกว่า 80% ทั่วประเทศ[1]

ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ชาวจีนจำนวนมากที่หายจากอาการป่วยเริ่มหันมาใส่ใจกับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย โดยเฉพาะในกลุ่มการรักษาและฟื้นฟูร่างกายด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีนที่สอดคล้องกับข้อมูลของ Chinadaily ว่าสถานพยาบาลหลาย ๆ แห่งของจีน ได้ใช้การแพทย์แผนจีนเพื่อช่วยให้ประชาชนฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการฟื้นฟูระบบการหายใจและการบรรเทาอาการอ่อนเพลีย-เมื่อยล้า[2]ซึ่งรวมไปถึงการนำสมุนไพรจีนมาใช้เพื่อการฟื้นฟูและเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายด้วย

วันนี้ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครซีอาน จะพาท่านผู้อ่านไปสำรวจความนิยมผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเก๋ากี้หนิงเซี่ย ซึ่งกลายมาเป็น 1 ในพระเอกของการฟื้นฟูและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายให้กับผู้ป่วยโควิด-19

รูปจากร้านจำหน่ายสินค้าบริษัท Bairuiyuan Wolfberry Co., Ltd.

สำรวจเก๋ากี้ อัญมณีแดงเขตฯ หนิงเซี่ยหุย

อุตสาหกรรมการปลูกและแปรรูปเก๋ากี้ ถือเป็น 1 ในอุตสาหกรรมเส้นเลือดใหญ่ของเขตฯ หนิงเซี่ยหุยในปี 2565 มีพื้นที่ปลูกเก๋ากี้ 435,000 หมู่ (ราว 178,278 ไร่) และมีกำลังการผลิตเก๋ากี้สดรวม 300,000 ตันต่อปี และมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ผลจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้อุปสงค์เก๋ากี้หนิงเซี่ยในประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เก๋ากี้หนิงเซี่ยมีจุดเด่นในด้านอุดมไปด้วยโพลีแซคคาไรด์ แคโรทีนอยด์ ฟลาโวนอยด์ กรดอะมิโนที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะโพลีแซคคาไรด์ (Lycium barbarum polysaccharides) ที่เป็นตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าโพลีแซคคาไรด์ส่งผลต่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเก๋ากี้จาก อ. จงหนิงของเขตฯ หนิงเซี่ยหุย ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น “บ้านเกิดของเก๋ากี้หนิงเซี่ย” สามารถปลูกและผลิตเก๋ากี้คุณภาพสูงได้มากที่สุด โดยในปี 2565 เพียงแค่อำเภอจงหนิงเพียงแห่งเดียวก็มีพื้นที่ปลูกเก๋ากี้ 170,000 หมู่ (ราว 69,672 ไร่) หรือ คิดเป็นสัดส่วน 40% ของพื้นที่ทั้งอำเภอ นอกจากนี้ รัฐบาลท้องถิ่นได้สนับสนุนการสร้างแบรนด์ “เก๋ากี้จงหนิง” (Zhongning Goji Berry) สู่การเป็นแบรนด์สินค้าเกษตรที่มีชื่อเสียงระดับภูมิภาค (Regional public brand) ซึ่งในปีที่ผ่านมาสร้างรายได้ไปกว่า 19,032 ล้านหยวน และยังได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP, ISO9001, HACCP ในกระบวนการผลิตและแปรรูปเก๋ากี้อีกด้วย[1]

โดยเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 นางจาง กั๋วว่าง (Zhang Guowang:张国旺) รองผู้จัดการบริษัท Bairuiyuan Wolfberry Co., Ltd. (百瑞源枸杞股份有限公司) ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 เป็นต้นมา ผลิตภัณฑ์จากเก๋ากี้ เช่น น้ำเก๋ากี้ เก๋ากี้อัดเม็ดยี่ห้อจินฉี่ลี่ (金杞力) มียอดจำหน่ายสูงและจำหน่ายหมดในเวลารวดเร็วโดยผลจากอุปสงค์ที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้ราคาจำหน่ายเก๋ากี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ย 10 หยวน/กิโลกรัม เป็น 49-70 หยวน/กิโลกรัม สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและวิสาหกิจได้อย่างงดงาม

นอกจากนี้ ในปี 2566 รัฐบาลเขตฯ หนิงเซี่ยหุย ได้ตั้งเป้าสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ ผ่าน 3 สถาบันระดับชาติได้แก่ สถาบันวิจัยเก๋ากี้ (中国枸杞研究院) ศูนย์ตรวจสอบและทดสอบคุณภาพเก๋ากี้แห่งชาติ (เขตฯ หนิงเซี่ยหุย) (国家枸杞质量检验检测中心(宁夏)) และตลาดเก๋ากี้แห่งชาติของเมืองจงหนิง (国家级中宁枸杞市场) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและยกระดับคุณภาพของเก๋ากี้หนิงเซี่ย ข้อมูลเพิ่มเติมอุตสาหกรรมเก๋ากี้หนิงเซี่ยที่ https://dwz.mk/2MJJVf

จากข้อมูลข้างต้นจะพบว่า ปัจจุบันการใส่ใจดูแลสุขภาพของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดยหันมาให้ความสำคัญในการดูแลเชิงป้องกันและเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายมากขึ้น โดยมิได้คำนึงถึงปัจจัยด้านราคาเช่นในอดีต เหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสของตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ สำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจในการทำตลาดจีนจำเป็นต้องศึกษาเทรนด์และจับทิศทางความต้องการของผู้บริโภคจีนที่ปัจจุบันเน้นให้ความสำคัญต่อคุณภาพและความสะดวกในการใช้งานและสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น เพื่อทดแทนความเร่งรีบในชีวิตประจำวันและตอบโจทย์วิถีชีวิตผู้บริโภคในยุคหลังโควิด-19 ซึ่งศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครซีอานจะได้ติดตามพัฒนาการ และนำเสนอเทรนด์ข้อมูลใหม่ ๆ ที่น่าสนใจมานำเสนอแก่ท่านผู้อ่านต่อไป

 

ลิ้งค์อ้างอิงhttp://cn.chinadaily.com.cn/a/202301/10/WS63bcc195a3102ada8b22a6ae.html?ivk_sa=1023197a

http://sns.yszn.net.cn/thread/523a8cc3ae0b4cedb9707027e8de00a8

http://www.chinabgao.com/jiage/1291182.html

https://baijiahao.baidu.com/s?id=1755271800793278172&wfr=spider&for=pc

[1] 奋进新征程 建功新时代 | 2022年中宁县力争枸杞产业综合产值突破140亿元 (qq.com)

[1] Eight in 10 people in China caught Covid since early December, say officials | China | The Guardian

[2] Clinics help with post-COVID rehab – Chinadaily.com.cn

ที่มา : https://thaibizchina.com/

อัพเดทล่าสุด

Facebook

ติดตามเราบน Facebook

Youtube

ติดตามเราบน Youtube

ฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เลขที่ 21 ถนนกวงหวา เขตฉาวหยาง กรุงปักกิ่ง 100600 สาธารณรัฐประชาชนจีน อีเมล : [email protected]

© 2020-2024 Science and Technology Section, Royal Thai Embassy in Beijing Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation, 21 Guanghua Road, Chaoyang District, Beijing 100600 P.R.C. E-mail: [email protected]