อธิบายข้อเท็จจริง สถานการณ์COVID-19เมืองฮาร์บิน และประเด็น ฮาร์บิน Lockdown-ปิดเมือง
——
ตอนนี้มีคนถามอ้ายจงเข้ามาจำนวนมาก ถึงประเด็นที่เป็นกระแสในโซเชียลไทยขณะนี้ “เมืองฮาร์บิน ปิดเมือง-LOCKDOWN ซึ่งเป็นสัญญาณว่า จีนกำลังกลับมาระบาดหนักรอบสอง” อ้ายจงเลยขออธิบายความจริงเรื่องนี้ให้ทราบกันครับ
ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่า เท่าที่คุยกับเพื่อนคนจีนที่เป็นนักข่าวในจีน และดูจากข้อมูลที่ทางการจีนแถลงออกมาในแต่ละวัน ตอนนี้สถานการณ์ COVID-19ในจีน เรียกว่ายังอยู่ในระดับที่ดี ทางการจีนมองว่าสามารถควบคุมได้ แต่ที่น่ากังวล คงเห็นจะเป็น พื้นที่มณฑลเฮยหลงเจียง ที่มีพื้นที่ติดกับประเทศรัสเซีย ที่แต่ละวันยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั้งมีอาการและไม่มีอาการ โดยจุดเริ่มต้นมาจาก ผู้ป่วยที่เดินทางจากนอกจีนเข้าสู่เฮยหลงเจียง โดยเฉพาะจากรัสเซีย
และเมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเฮยหลงเจียง ก็มาอยู่ในกระแสในโซเชียลจีน ว่าาจะปิดเมือง ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทางการฮาร์บินออกมาแก้ข่าวเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2563 ว่าเป็นข่าวปลอม
จุดเริ่มต้นของกระแสปิดเมืองฮาร์บิน มาจากช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ มีจำนวนผู้ป่วยทั้งมีอาการและไม่มีอาการมากกว่า70ราย ที่เชื่อมโยงกับ ผู้ป่วยที่เป็นนักศึกษาจีนที่เดินทางกลับมาจากนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ทำให้ตอนนี้ เมืองฮาร์บินมีมาตรการจำกัดการเข้าออกของพื้นที่หมู่บ้าน-เขตที่พักอาศัยทั้งหมดทั่วเมือง แต่ขนส่งมวลชน และการทำงาน ยังปกตินะครับ
กล่าวคือ คนที่อยู่อาศัยในหมู่บ้านหรือเขตที่พักอาศัย-คอนโดนั้น ยังสามารถเข้าออกได้ตามปกติ แต่มีมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดเข้ามาใช้อย่างเข้มงวด ได้แก่
-โชว์ Healthcode เพื่อแสดงสถานะของร่างกาย ถ้าเป็นสีเขียว สามารถเข้าออกได้ เพราะปลอดเชื้อ ทั้งเข้าและออกเขตที่พัก
– ต้องสวมหน้ากากเมื่อออกจากบ้าน/ห้องพัก
– วัดอุณหภูมิร่างกายทั้งเข้าและออกจากเขตที่พักเช่นกัน
– ห้ามมีการรวมกลุ่มคน ,เล่นไพ่,มาเยี่ยมญาติ มากินข้าวร่วมกันอะไรแบบนี้ ห้ามหมด รวมถึงพวกกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะ งานศพ งานแต่ง อีเว้นท์ต่างๆ
ส่วนคนที่ไม่ได้อยู่ในหมู่บ้านหรือเขตที่พักนั้น จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า แต่คนส่งของ และส่งอาหาร ยังสามารถมาส่งได้อยู่ โดยจะวางไว้ตรงจุดที่กำหนดไว้
สรุปก็คือ กระแสในบ้านเรา ที่มีการระบุว่า เมืองฮาร์บิน HARBIN มีการใช้มาตรการ LOCKDOWNปิดเมือง ไม่ได้เป็นการ LOCKDOWN แบบที่เกิดขึ้นในอู่ฮั่น แต่เป็นการบังคับใช้มาตรการเข้าออกเขตที่พักอาศัยแบบเข้มงวด และแบนไม่ให้คนนอกเขตที่พักอาศัยนั้นเข้าไป ทั้งคนและยานพาหนะ รวมถึงมีการแบนกิจกรรมที่รวมกลุ่มคน
——
สรุปสถานการณ์ COVID-19ในจีน ประจำวันที่ 24 เม.ย.63
1. จำนวนผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ เพิ่มขึ้น 34ราย (มาจากนอกจีน 1ราย)
– เปลี่ยนไปเป็น ป่วยแบบมีอาการ 3ราย (มาจากนอกจีน 1 ราย)
– ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ อยู่ระหว่างการกักตัวทั้งหมด 979ราย (มาจากนอกจีน 157ราย)
2. จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ (แบบมีอาการ) 6ราย
– วันก่อนหน้าเพิ่ม 12ราย
– ผู้ป่วยที่เดินทางมาจากนอกจีน (Imported case) 2ราย
– ผู้ป่วยในประเทศ (Local infection) 4ราย
พบที่ เฮยหลงเจียง 3ราย, กว่างตง 1ราย
3. จำนวนผู้ที่หายดีและออกจากรพ. เพิ่มขึ้น 50ราย
4. จำนวนผู้เสียชีวิต เพิ่มขึ้น 0 ราย
5. จำนวนผู้ป่วยCOVID-19สะสม 84,313ราย (ถ้าเอาเฉพาะติดเชื้อมีอาการที่ระบุตัวเลขโดยทางการ อยู่ที่ 82,804ราย) /กำลังรักษา 1,356ราย, รักษาหายและออกจากรพ. 78315ราย /เสียชีวิต 4,642ราย
6. จีนมีผู้ป่วยCOVID-19ที่เดินทางจากนอกจีนสะสม 1618 ราย จากจำนวนผู้ป่วยสะสมทั่วจีน
7. อัตราการหายดี 92.79% และอัตราการเสียชีวิต 5.51%
8. มีทั้งหมด 14 พื้นที่ระดับมณฑล-มหานคร-เขตปกครองตนเองและเขตปกครองพิเศษในจีน ที่ไม่มีผู้ติดเชื้อทั้งรายใหม่และกำลังรักษาตัวในรพ.
ได้แก่ เหอหนาน, เจียงซี, กว่างซี, ซินเจียง, ไห่หนาน, กานซู่, หนิงเซี่ย, ชิงไห่, ทิเบต, หูหนาน ,กุ้ยโจว,ฉงชิ่ง, ซื่อชวน,อันฮุย
– 0 ราย มี 14พื้นที่
– ต่ำกว่า 10ราย มี 7 พื้นที่
– 10-99ราย มี 10 พื้นที่
– 100-499ราย มี 3พื้นที่
สำหรับมณฑลหูเป่ย ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อกำลังรักษาในรพ. 46 ราย โดยอยู่ที่เมืองอู่ฮั่นทั้งหมด พื้นที่อื่นในหูเป่ยออกจากรพ.หมดแล้ว
ส่วนมณฑลเฮยหลงเจียง ที่อยู่ในกระแสความกังวลขณะนี้ เป็นพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อกำลังรักษาในรพ.มากที่สุดในจีน จำนวน407 ราย
——
อ้ายจงอ้างอิงจาก
– Weibo:人民日报
https://m.weibo.cn/2803301701/449715565147523
– Weibo:北京晚报
https://m.weibo.cn/status/4497141747410248
– Weibo:中国新闻网
https://m.weibo.cn/status/4496450660564043
– https://voice.baidu.com/act/newpneumonia/newpneumonia/
– http://shanghaiist.com/2020/04/22/harbin-goes-into-lockdown-after-returning-student-spreads-coronavirus-to-over-70-people/
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง