เปิดเคล็ด(ไม่)ลับ สร้างแบรนด์-เจาะตลาดจีนอย่างไร “ไม่ให้โดนก็อป-ลอกเลียนสินค้า”
—–
ปัญหาหนึ่งของการทำธุรกิจที่จีน จะนำสินค้าไปขายในจีน คือการโดนคนจีนปลอมสินค้า หรือ “แอบเอาแบรนด์เราที่ดังอยู่แล้วในต่างประเทศ เช่น ที่ไทย ไปจดเป็นtrademarkของเขาในจีน จดดักไว้ ” พอเราจะเข้าไปขายในจีน เราก็จะมีปัญหาตรงนี้ หลายแบรนด์โดนบ.จีนที่จดดักไว้มาขายชื่อนั้นในราคาแพงมาก (ในความเป็นจริง มีบ.ในจีนที่ดักจดชื่อแบรนด์ต่างประเทศเอาไว้โดยเฉพาด้วยซ้ำ)
เมื่อปี2018 มีคนส่งข้อความมาปรึกษาอ้ายจง ว่าเจอปัญหาคนจีนมาเดินชมงาน THAIFEX งานจัดแสดงผลิตภัณฑ์อาหารในไทย แล้วเอาชื่อแบรนด์สินค้าไปแอบจด ซึ่งผมต้องบอกเลยว่า เป็นความจริงนะครับ มีคนจีนหรือบริษัทในจีนจำนวนไม่น้อยที่ตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อจดTrademarkแบรนด์ต่างประเทศเพื่อดักทางเอาไว้ก่อนแบรนด์เหล่านี้เข้าตลาดจีน
ถ้าใครยังจำที่อ้ายจงเคยเล่าไปก่อนหน้านี้ได้ ก็คงจะทราบว่า “金枕头 ชื่อภาษาจีนของพันธุ์ทุเรียนหมอนทองไทย ก็ถูกบริษัทในจีนเอาไปจดTrademarkในหลายชนิดสินค้าเช่นกัน (อาหารสัตว์ยังมีเอาชื่อพันธุ์ทุเรียนหมอนทองไปจด)
แม้แต่การเปิดบัญชี Officialของแบรนด์เราบน Social media ของจีน เช่น เปิด Official Weibo account (การ Verify account) หรือ WeChat ก็มีหลายเคส ที่บ.ในจีน/คนจีนที่แอบเอาชื่อเราไปจดตัดหน้าในจีน ได้เอาไปแอบเปิดVerified account เพื่อดักเอาลูกค้าในโลกsocialเช่นกัน อันนี้ลูกค้าที่มาติดต่อทำการตลาดจีนกับบริษัทของอ้ายจงเจอหลายเจ้าเลย
วิธีการป้องกันคนจีน-ผู้ประกอบการในจีนลอกเลียนแบบ หรือก็อปปี้สินค้าของเราคือ
1. หากมีแผนจะทำแบรนด์เจาะตลาดจีน ควรจะไปจดtrademarkเอาไว้
และที่สำคัญ “ควรเป็นชื่อบริษัทของเราที่ไทยเป็นคนจดและเป็นเจ้าของ Trademarkในจีน แม้เราจะมีคู่ค้าในจีน ก็ควรจะต้องเป็นบริษัทเรานะครับ เว้นแต่ว่าเราเข้าไปจัดตั้งบริษัทในจีน”
จากประสบการณ์ของอ้ายจง ในการทำตลาดจีนเราควรต้องพึงระวังและตระหนักให้ดีด้วยว่า ” เรามีความสามารถที่จะเข้าไปในตลาดจีนจริงไหม เพราะในความเป็นจริงไปตลาดจีนต้องใช้งบและกำลังภายในมากมาย เอาแค่จดTrademarkในจีนแบบถูกต้องและครอบคลุมจริงๆก็ใช้งบไม่น้อยแล้ว (ค่าจด เริ่มต้นที่หลักหมื่นบาท แต่ถ้าเรามีหลายสินค้า หรือสินค้าเดียวแต่ครอบคลุมหลายประเภท ก็จะใช้งบเพิ่มขึ้นอีก แต่ก็เห็นควรว่า ถ้าจะเริ่มลุยตลาดจีนจริงๆ ควรจดครับ)
2. ทำแบรนด์ของเราให้เป็นที่รู้จีกในไทยด้วย อย่าเน้นผลิตเพื่อตลาดจีนอย่างเดียว ไม่ว่าจะส่งขายในจีน หรือขายในไทยแต่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน
ปัจจุบัน คนจีนสนใจสินค้าแบรนด์ต่างประเทศมากขึ้น เขาต้องการสินค้าที่เป็นแบรนด์สินค้าของประเทศนั้นโดยตรง พวกสินค้าของดีเฉพาะถิ่น Local product ก็ได้รับความนิยมเพิ่มเรื่อยๆ
อีกอย่าง สินค้าที่ทำเพื่อขายคนจีนโดยเฉพาะ ก็มีหลายเคส ที่เกิดดราม่าในจีนหลังมีชื่อเสียงระดับหนึ่งแล้ว โดยคนจีนตั้งข้อสงสัยว่า เป็นสินค้าไทยจริงไหม เพราะถามคนไทย ไม่มีใครรู้จัก และไม่เห็นมีวางขายตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านทั่วไปที่ไม่ใช่แค่แหล่งท่องเที่ยว
3. การสร้างแบรนด์ การทำตลาด Marketing และการขาย ไม่ควรพึ่งแต่ Partner หรือคู่ค้าในจีนอย่างเดียว แต่เจ้าของแบรนด์ต้องสร้าง “การรับรู้ Awareness” ให้รับรู้ถึงตัว Brandของเรา
เพื่อป้องกันการคัดลอกสินค้า เพราะเขาจะคัดลอกได้แต่สินค้า แต่ความเป็นBrandของเรายังอยู่ ซึ่งจะข้อนี้จะเชื่อมโยงกับข้อที่ผ่านมาด้วย โดยเฉพาะถ้าเรามีแบรนด์ที่แข็งแกร่งในไทยอยู่แล้วด้วย
4. สร้างเอกลักษณ์ให้กับสินค้า-แบรนด์ของเรา
หากเราทำสินค้าให้มีเอกลักษณ์ และพัฒนาสินค้าอยู่ตลอดเวลา ใครจะมาลอกเลียนแบบ ก็เป็นได้แค่ของก็อปปี้ครับ
—–
ทั้งหมดนี้คือคำแนะนำเบื้องต้น จากประสบการณ์ของอ้ายจงในการติดต่อธุรกิจและช่วยผู้ประกอบการไทยสร้างแบรนด์-เจาะตลาดจีนนะครับ ซึ่งในการดีลธุรกิจและเจาะตลาดจีนจริงๆมีกระบวนท่าอีกมากซึ่งไม่เป็นแบบแผนตายตัว เพราะมีสิ่งที่ไม่คาดคิดรอเราอยู่เสมอ
หากใครมีข้อสงสัย ต้องการคำแนะนำ หรือต้องการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สามารถแสดงความคิดเห็นได้เลยครับ
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง