• คลังความรู้
  • /
  • บทความ
  • /
  • เปิดความจริง “จีนลงทุนต่างประเทศ” มูลค่าแตะแสนล้านดอลลาร์ต่อปี และขึ้นเบอร์1ทุนต…

เปิดความจริง “จีนลงทุนต่างประเทศ” มูลค่าแตะแสนล้านดอลลาร์ต่อปี และขึ้นเบอร์1ทุนต…

เปิดความจริง “จีนลงทุนต่างประเทศ” มูลค่าแตะแสนล้านดอลลาร์ต่อปี และขึ้นเบอร์1ทุนต่างชาติในไทย

—–

พอดีมีโอกาสได้อ่านบทความหนึ่งเขียนว่า “จีนใช้วิกฤต COVID-19 ไปลงทุนและซื้อกิจการต่างประเทศ” อันนี้ต้องบอกว่า มันก็มีความเป็นไปได้สูงนั่นแหล่ะครับ เพราะอย่างที่เรารู้ว่า วิกฤตการแพร่ระบาด COVID-19ครั้งนี้ ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม จนถึงตอนนี้ก็ราวๆ3เดือนกว่าแล้ว ส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ ดังนั้น ราคาหรือมูลค่าของกิจการหลายกิจการก็จะลดต่ำลง จึงเป็นโอกาสทองของนักลงทุนที่จะเข้าไปซื้อ เพื่อลงทุนและรอกำไรในอนาคตที่จะเกิดขึ้นหลังCOVID หากเขามองว่าเป็นกิจการที่ยังคงมีศักยภาพเพียงพอนะครับ

.

รู้ไหมครับว่า “จีนลงทุนในกิจการต่างประเทศมานานมากแล้ว โดยเฉพาะตั้งแต่หลังปี 2002 เป็นต้นมา อย่างยิ่งในแถบทวีปแอฟริกา

.

อย่างที่ผมเคยเล่าไปก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับ การลงทุนของประเทศจีนในการให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาต่างชาติมาเรียนในจีน ปีละเป็นจำนวนหลายพันทุน ภายใต้การลงทุนทางการศึกษา มีนัยยะ การสร้างโอกาสให้จีนเข้าไปลงทุนในประเทศต่างๆ โดยใช้ทรัพยากรบุคคลของประเทศนั้นที่มีโอกาสได้มาเรียนที่จีน รู้ภาษา วัฒนธรรม และแนวการคิดของจีน เรียกว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต

.

ทีนี้ เรามาดูตัวเลขการลงทุนในต่างประเทศของจีนกันบ้าง

Average annual outbound direct investment หรือ การลงทุนในต่างประเทศในแต่ละปีโดยเฉลี่ย ตั้งแต่ปี 1982 -2001 อยู่ที่ประมาณ 1.73พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และ เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดถึง 43.3เท่า ไปอยู่ที่ค่าเฉลี่ย 7.5หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ปี 2002 -2018

.

เฉพาะในปี2018 การลงทุนในอุตสาหกรรมบริการของจีนในต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่า 8.42หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการลงทุนในต่างประเทศทั้งหมดของจีนในปีนั้น ประมาณ 1.29แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโตจากปีก่อนหน้า ประมาณ 4.2%) เรียกได้ว่า อุตสาหกรรมบริการ ครองสัดส่วนการลงทุนต่างประเทศของจีนมากที่สุด

ถ้าในแง่ของการลงทุนโดยตรงของจีนในต่างประเทศที่ไม่ใช่ภาคการเงิน (non-Financial ODI) ก็มีการเติบโตทุกปี โดยในปี2018 กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี2017 0.3% โดยคิดเป็นเงินลงทุน 1.2แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่ดูเหมือนว่า การลงทุนในต่างประเทศของจีน จะชะงักเล็กน้อยในปี2019 ตามข้อมูลที่เพิ่งเผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์จีนเมื่อมกราคมที่ผ่านมา โดยการลงทุนโดยตรงของจีนในต่างประเทศที่ไม่ใช่ภาคการเงิน (non-Financial ODI) ลดลง 6% เมื่อเทียบกับ 2018

.

โดยส่วนใหญ่ทั้งการลงทุนโดยตรงของจีนในต่างประเทศแบบทั่วไป และ แบบที่ไม่ใช่ภาคการเงิน จะมุ่งเน้นไปที่ประเทศที่อยู่ในโครงการ One belt One road หรือเส้นทางสายไหมใหม่ หรือจะเรียกว่า 1แถบ1เส้นทาง ก็ความหมายเดียวกัน

.

มาดูในบ้านเรากันบ้าง รู้หรือไม่ ปัจจุบันนี้ จีน กลายเป็นประเทศที่มาลงทุนในประเทศไทยมากที่สุด และนี่คือที่มาว่า ทำไมเราต้องดูข้อมูลจากจีนที่มันถูกต้อง ถึงหลายคนจะมาบอกว่า อวยจีน บ้างล่ะ แต่เราควรรู้เอาไว้ เพื่อรู้เขารู้เรา ที่จีนเอง ก็มีสื่อที่นำเสนอเรื่องราวของไทยเยอะมากนะครับ

ปี2019 จีนก้าวมาแทนที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ครองตำแหน่งนักลงทุนเบอร์1ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกใต้มาอย่างยาวนานราว5ทศวรรษ โดยข้อเสนอการลงทุนในไทยจากจีน คิดเป็นมูลค่า 2.62 แสนล้านบาท ซึ่งมากกว่า 50%ของการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด สำหรับญี่ปุ่นแชมป์เก่า ลงทุนมูลค่า 7.31หมื่นล้านบาท ตามมาด้วยฮ่องกง 3.63หมื่นล้านบาท

การเข้ามาของกลุ่มทุนจีนเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับโครงการ One Belt One Road ซึ่งการลงทุนของจีนในไทย ที่มีมูลค่าสูงสุดในปี2019ที่ผ่านมา ได้แก่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง-อู่ตะเภา คิดเป็นมูลค่า 2.24แสนล้านบาท โดยมีการลงนามสัญญาจ้างระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มบริษัทจีน โดยมีบริษัท Railway Construction Corporation บริษัทสร้างทางรถไฟที่เป็นของรัฐบาลจีน เป็น1ในนั้นด้วย

.

หลายคนอาจสงสัยว่า จีนไปลงทุนต่างประเทศเพียงอย่างเดียว แล้วภายในประเทศจีนเองเปิดให้ต่างชาติเข้าไปลงทุนไหม ข้อนี้ต้องบอกเลยว่า 1ในเบื้องหลังการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนและอุตสาหกรรมต่างๆในจีน ก็มาจากเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ

เมื่อสิ้นปี2018 มีบริษัทต่างประเทศเข้ามาลงทุนและก่อตั้งในประเทศจีนมากถึง 960,725บริษัท คิดเป็นเงินลงทุนที่นำเข้ามาในจีน 2.15ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะปี2018 มีเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามาในจีน 1.38ล้านดอลลาร์สหรัฐ และตอนนี้จีนก็มีกฎหมายการลงทุนจากต่างชาติ หรือ China Foreign Investment Law ฉบับแรกของประเทศ ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มกราคมที่ผ่านมา

—–

อ้ายจง เรียบเรียงจาก

-http://www.chinadaily.com.cn/business/2018novcnecodata/index.html

-http://www.chinadaily.com.cn/a/201901/16/WS5c3f1be7a3106c65c34e4ddf.html

-https://global.chinadaily.com.cn/a/202001/21/WS5e26aacfa3101282172728e9.html

-https://www.chinadaily.com.cn/a/201911/14/WS5dcd0338a310cf3e355775ea.html

-https://www.scmp.com/week-asia/economics/article/3047489/china-becomes-thailands-top-source-foreign-investment-first

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
แฟนเพจอ้ายจง

อัพเดทล่าสุด

Facebook

ติดตามเราบน Facebook

Youtube

ติดตามเราบน Youtube

ฝ่ายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เลขที่ 21 ถนนกวงหวา เขตฉาวหยาง กรุงปักกิ่ง 100600 สาธารณรัฐประชาชนจีน อีเมล : [email protected]

© 2020-2024 Science and Technology Section, Royal Thai Embassy in Beijing Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation, 21 Guanghua Road, Chaoyang District, Beijing 100600 P.R.C. E-mail: [email protected]