เมืองเล็กบราซิลฉีดวัคซีนซิโนแวคของจีน ได้ผลมาก!
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (Wall Street Journal)รายงานว่าวันที่ 7 พฤษภาคม เมืองแซร์ราน่า (Serrana) เมืองเล็กทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล ที่มีประชากร 45,000 คน ช่วงกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา ได้ดำเนินการโครงการทดลองชื่อ “โครงการ S” โดยฉีดวัคซีนซิโนแวคให้กับผู้ใหญ่ทั้งหมด ผลการทดลองชัดเจนมากคือ แม้ว่าโควิดยังแพร่ระบาดในบราซิล แต่อัตราการติดเชื้อไว้รัสและจำนวนผู้เสียชีวิตของเมืองนี้ลดลงอย่างมาก ชาวเมืองกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
เจ้าหน้าที่เมืองแซร์ราน่าเผยว่า เมืองนี้มีประชากรที่เป็นผู้ใหญ่ 27,700 คน ฉีดวัคซีนไปแล้ว 27,150 คนหรือร้อยละ 98 กลุ่มที่ยังไม่ฉีดวัคซีนรวมถึงผู้ที่อายุไม่ถึง 18 ปี สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอย่างหนัก
เจ้าหน้าที่และชาวเมืองเมืองแซร์ราน่ากล่าวว่ารู้สึกตื่นเต้น เพราะเดือนมีนาคมมีผู้ป่วยโควิดรายใหม่เพิ่มเฉลี่ยวันละ 67 ราย เดือนนี้ลดเหลือ เพียง 17 ราย อัตราติดเชื้อลดลง 75% กลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่มีผู้ป่วยที่เสียชีวิต การนี้แสดงว่า วัคซีนซิโนแวคมีผลในการต้านไวรัสสายพันธุ์ P.1 ที่กำลังระบาดหนักในเขตนี้
นางลูเซีย เอเลน คัลดาโน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองแซร์ราน่ากล่าวว่า เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ห้องรักษาผู้ป่วยอาการหนักหรือห้องไอซียู(ICU) ยังมีผู้ป่วยรอคิวเต็ม แต่ปัจจุบันห้องว่าง ช่วง 3สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยใช้เครื่องช่วยหายใจเพียงคนเดียวเป็นสตรีคนหนึ่งที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีน
นายเลโอ คาปิเทลลินายกเทศมนตรีเมืองแซร์ราน่ากล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวแสดงว่าการทดลองประสบผลสำเร็จ
ตั้งแต่เกิดการระบาดเป็นต้นมา อัตราการว่างงานของเมืองแซร์ราน่าสูงถึง 25% ชาวเมืองล้วนหวังให้เศรษฐกิจฟื้นตัวโดยเร็ว ปัจจุบัน จำนวนผู้เข้าพักในโรงแรมและซื้อของในร้านค้าเพิ่มมากขึ้น
นาย ริคาโด อลันดา อายุ 48 ปี เจ้าของโรงแรมริมทางหลวงกล่าวว่า ปัจจุบันเมืองแซร์ราน่าเป็น “จุดจอดรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุด” เพราะผู้คนรู้ว่าเมืองของเราปลอดภัยกว่า คนขับรถเลือกมาเข้าพักโรงแรมของเรามากขึ้น โรงแรมของเรามีห้องพีก35ห้องมีผู้เข้าพักกว่าครึ่ง การค้าของเรากำลังฟื้นสู่ปกติ
เจ้าหน้าที่ทางการเมืองแซร์ราน่ายังกล่าวว่า สิ่งที่คาดคิดไม่ถึงคือชาวเมืองเกือบทุกคนยอมฉีดวัคซีนซิโนแวค และส่วนใหญ่พากันขอบคุณที่ได้โอกาสฉีดวัคซีน ขณะที่ย้อนไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว จากการสำรวจความคิดเห็นประชาชนปรากฏว่าครั้งหนึ่งยังปฏิเสธที่จะฉีดวัคซีนจีน
อย่างไรก็ตาม ทางการท้องถิ่นยังคงรณรงค์ให้ชาวเมืองใส่หน้ากากอนามัย และ“โครงการ S”จะดำเนินการต่อไปจนครบ 1 ปี เพื่อติดตามว่ามีปัญหาเกิดขึ้นหรือไม่ ตลอดจนรอดูว่าภูมิคุ้มกันจากวัคซีนจะนานแค่ไหน เป็นต้น
ขอบคุณที่มาของข้อมูล :
ลึกชัดกับผิงผิง